“เศรษฐา” ร่ายยาวสรุปภารกิจเข้าร่วมประชุมเอเปก สหรัฐฯ บอกหลายบริษัทเข้าร่วมลงทุนในไทย หลังไทยประกาศเปิดประเทศพร้อมรับนักลงทุน ดึงเม็ดเงินไหลเข้าไทย เผย 28 พ.ย.นี้ ผู้บริหารเทสล่าเตรียมบินดูพื้นที่สร้างโรงงานผลิต
วันนี้ (19 พ.ย.) เมื่อเวลา 08.22 น. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 12-19 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายกฯ กล่าวสรุปผลการเข้าร่วมการประชุมเอเปกและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ว่า โดยมีการพบปะผู้บริหาร และบริษัทเอกชนชั้นนำของสหรัฐอเมริกา อาทิ Microsoft, Google,AWS,Tencent Alibaba เป็นต้น ทั้งนี้ ทราบกันดีอยู่แล้วว่าบริษัท Microsoft และ Google ได้มีการลงนามเอ็มโอยูที่จะลงทุน ไม่ใช่บริษัทละแสนล้านบาท ตามที่อาจจะมีการพูดผิดก็ได้ แต่เป็นบริษัทละหลายแสนล้าน โดยระยะเวลาการรลงทุน 1-10 ปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นอย่างน้อยรวมกันแล้วก็จะเป็นหลายๆแสนล้าน ซึ่งถือเป็นยินดี เพราะ 2 บริษัทนี้ถือว่าใหญ่ระดับโลก
นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้มีการเข้าเยี่ยมบริษัทเทสล่า และพูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทเทสล่า โดยมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและมาตั้งโรงงานการผลิต ซึ่งตนได้สอบถามว่ายังติดปัญหาเรื่องอะไร ที่จะมาลงทุนในประเทศไทย โดยทางผู้บริหารระดับสูงบอกว่าไม่ติดปัญหาอะไรแล้ว และประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่เขากำลังคุยด้วยอยู่ ซึ่งเขาขอทำการบ้านภายในแล้วจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ การตั้งโรงงานต้องใช้ที่ดินเยอะ เพราะเป็นโรงงานผลิตที่มีกำลังผลิตสูงมาก โดยในวันที่ 28 พ.ย. ผู้บริหารระดับสูงบริษัท เทสล่า จะเดินทางมาดูพื้นที่สร้างโรงงานในประเทศไทย ซึ่งมีคนนำเสนอทำเล 3 แห่งด้วยกัน และตนยังเชิญชวนผู้บริหารบริษัทเทาล่าไปงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ก็จะมีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ ทั้งนี้ ถือว่าการพูดคุยกับบริษัท เทสล่า ประสบความสำเร็จอย่างสูง
นายกฯ กล่าวถึงการเข้าร่วมการประชุมที่เกี่ยวข้อง และการพบปะหารือทวิภาคีกับผู้นำประเทศต่างๆ โดยได้พบปะกับ นายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยเป็นการหารือทวิภาคีทางด้านการค้า ซึ่งแน่นอนว่าญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดตลอด 50-60 ปี และเป็นประเทศที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดี ตั้งแต่ระดับราชวงศ์ลงมา แต่ปัจจุบันนี้ญี่ปุ่นอาจจะช้าในเรื่องของรถยนต์อีวี ซึ่งทุกท่านทราบดีว่าฐานผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นอยู่ในประเทศไทยเยอะมาก และตนได้ยืนยันว่า เราจะสนับสนุนให้ฐานการผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นอยู่ต่อไปในประเทศไทย ซึ่งตนได้ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นไปว่าประเทศไทย และคนไทยไม่เคยลืมบุญคุณ เพราะญี่ปุ่นมาลงทุนกับเราเยอะ ฉะนั้น ช่วงเวลานี้จะต้องช่วยเหลือและสนับสนุนให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ อะไรที่เราช่วยได้ก็จะช่วย ซึ่งก่อนที่ตนจะเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ (ASEAN-Japan Commemorative Summit) ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 15-18 ธ.ค.นี้ ก็จะมีการพบปะพูดคุยกับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ได้ทางออกที่ชัดเจน และทั้ง 2 ประเทศยังเห็นพ้องต้องกันยกเว้นวีซ่าสำหรับนักธุรกิจ นอกจากนี้ ในการเดินทางไปร่วมร่วม ประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เป็นเกียรติของตนที่จะได้เข้าพบจักรพรรดิญี่ปุ่นด้วย
นายกฯ ยังได้กล่าวถึงการหารือกับรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ซึ่งมาจากภาคธุรกิจเหมือนตนมองตาก็รู้ใจ ท่านก็บอกว่าท่านเข้าใจและติดตามการทำงานของรัฐบาลนี้มาตลอด ซึ่งท่านดีใจและเห็นด้วยกับการผลักดันการค้าการลงทุนของประเทศไทย ซึ่งสหรัฐอเมริกาถือเป็นผู้ค้ารายใหญ่ของประเทศไทย ประเทศไทยยินดีที่จะร่วมมือ และท่านบอกว่าจะโทรศัพท์หาอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท เทสล่า เพื่อช่วย ท่านถือเป็นรัฐมนตรีที่น่ารักมากและอนาคตไกล อาจจะลงสมัครประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไปด้วย แต่ติดที่นาย โจ ไบเดน จะลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งต่อไปด้วย ซึ่งรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐอเมริกาถือเป็นสตรีที่ทรงพลัง และมีเอเนอร์จี้เยอะ นอกจากนี้ ท่านได้ให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวกับตนมาด้วย ซึ่งต่อไปนี้ก็จะมีการพูดคุยติดต่อกันโดยตรง ในเรื่องการค้าการลงทุนดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนได้ยืนยันกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นทางเลือกให้บริษัทใหญ่ๆ ของสหรัฐอเมริกามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย และตนได้เชิญนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปี 2567 เพราะไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการกว่า 10 ปีแล้ว และเห็นได้ว่าหลายๆประเทศอยากมาลงทุนในประเทศไทย
นายกฯ กล่าวอีกว่า ได้มีการหารือทวิภาคีกับ นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ไม่ได้พูดคุยกันเรื่องถุงเท้า พูดคุยกันเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ท่านขอให้ผลักดันเรื่องการลงทุนFTA อาเซียน-แคนาดา โดยขอให้เราช่วยเร่งอาเซียนให้กระตุ้นการทำงานให้เร็วขึ้น
นายกฯ กล่าวต่อว่า ขณะที่วันสุดท้าย ระหว่างที่รอเข้าร่วมการประชุมณ ได้เจอนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการระลึกถึงที่ได้มีการพูดคุยกัน เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งประเทศจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทยและความรู้สึกที่ดีกับประเทศไทย ซึ่งตนก็เห็นท่านไปถ่ายรูปกับทีมบาสเกตบอลของสหรัฐอเมริกา ทีมโกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ซึ่งเข้าใจว่าเป็นทีมโปรดของท่าน และตนได้สอบถามว่าท่านชอบเล่นบาสเกตบอลด้วยหรือเปล่า ท่านบอกว่าท่านเป็นคนมือเล็ก แต่ตนดูแล้วว่าไม่เล็ก จับดูมีพลังและอบอุ่นด้วยความเป็นมิตร นอกจากนี้ ท่านบอกว่าไม่เอา ไปเล่นบอลดีกว่า พร้อมทำท่าเตะฟุตบอล และท่านไม่ทราบว่าประเทศจีนชนะ ประเทศไทย 2-1 ในการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ซึ่งตนก็แสดงความยินดี ท่านก็ถ่อมตัว บอกว่าฟลุกมากกว่า และอวยพรให้ทีมฟุตบอลไทยผ่านรอบคัดเลือก ซึ่งตนก็ได้กราบขอบคุณไป
“ผมได้ให้ความมั่นใจว่าประเทศไทยเปิดแล้วและพร้อมรับนักลงทุนจากต่างประเทศทุกราย รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาใหม่ได้เข้ามาทำงานในประเทศไทย“ นายกฯ กล่าว.