xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.วุ่น!! ต้องดึง“เสี่ยต่อ”เฉลิมชัยมานั่งรักษาการหัวหน้าพรรค นัดประชุมใหญ่ 9 ธ.ค. จับตา“มาดามเดียร์”ขึ้นลิฟต์นั่งหัวหน้าพรรค | ชัยชนะเลขาฯ เมื่อ“หมอชลน่าน”โดน“อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต”ถีบ-ตบท้าทาย!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ปชป.วุ่น!!ต้องดึง “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย มานั่งรักษาการหัวหน้าพรรค นัดประชุมใหญ่ 9 ธ.ค. จับตา“มาดามเดียร์” ขึ้นลิฟต์ นั่งหัวหน้าพรรค “ชัยชนะ”เลขาฯ
หลังจาก “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทัพลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุด และได้ทำสถิติใหม่ ที่พรรคต้องจดบันทึก คือ ได้สส.มาเพียง 25 ที่นั่ง น้อยสุดตั้งแต่ตั้งพรรค สนามกรุงเทพฯสูญพันธุ์ คะแนนมหาชน (ป็อบปูลาร์โหวต) ต่ำล้าน โดยได้เพียง 9.2 แสนคะแนน และ ถูกพรรคอื่น กินส่วนแบ่งในพื้นที่ภาคใต้มากที่สุดถึง 5 พรรค รวม 43 ที่นั่ง โดยปชป.เหลือเพียง 17 ที่นั่ง จากทั้งหมด 60 ที่นั่ง

“จุรินทร์” จึงต้องประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค แต่ยังคงรั้งตำแหน่ง “รักษาการหัวหน้าพรรค” เช่นเดียวกับกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ ที่เหลือเพียงตำแหน่งรักษาการ

ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ เคยเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยขณะนั้นกลุ่มเลือดใหม่ในพรรคต้องการเข้าร่วมรัฐบาล จึงเตรียมส่ง “นราพัฒน์ แก้วทอง” ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และ“เดชอิศม์ ขาวทอง” รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ที่มีข่าวบินไปดีลกับ“ทักษิณ”ที่ฮ่องกง จะนั่งเลขาธิการพรรค

แต่กลุ่มผู้อาวุโสของพรรค อย่าง “ชวน หลีกภัย -บัญญัติ บรรทัดฐาน” รับไม่ได้ ที่จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เพราะหาเสียง ต่อสู้ ขับเคี่ยวกันนมาตลอดสองทศวรรษ จึงคิดจะดึง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตนายกฯ กลับมากู้วิกฤต

แต่ด้วยกติกาการโหวตหัวหน้าพรรค ของประชาธิปัตย์ ไม่เหมือนพรรคอื่น คือโหวตเตอร์ มีทั้งสิ้น 351 คน มาจาก 19 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ “เสียงมีน้ำหนักมากที่สุด” คือ สส. 25 คน ซึ่งมีค่าน้ำหนักในการโหวตถึง 70% ซึ่งสส. ส่วนใหญ่ อยู่ในความดู แลของ “เฉลิมชัย-เดชอิศม์”

วทันยา บุนนาค
ขณะที่โหวตเตอร์ จากกลุ่มอื่นๆ มีค่าน้ำหนักในการโหวตเพียง 30% ประกอบด้วย กก.บห.ชุดรักษาการ , อดีตหัวหน้าพรรค , อดีตเลขาธิการพรรค, รัฐมนตรี, อดีตรัฐมนตรี, อดีตสส., นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.), สมาชิก อบจ. (ส.อบจ.), สมาชิกพรรคจากต่างจังหวัดมีสาขาพรรค, ตัวแทนประจำจังหวัด และอื่นๆ

ถ้าปล่อยให้มีการโหวต “อภิสิทธิ์” แพ้แน่ โดน “นราพัฒน์ - เดชอิศม์” ยึดพรรค แล้วกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็จะมีมติ ให้ไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

ทางสายผู้อาวุโส ต้องแก้เกมนี้ ...เราจึงเห็นการประชุมใหญ่ล่มไปถึงสองครั้ง ด้วยองค์ประชุมไม่ครบ ทำให้การเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ถูกลากยาวมาถึงวันนี้ แต่สุดท้ายก็จะยื้อไปนานกว่านี้ไม่ได้ เพราะมีกรอบเวลากำกับอยู่

เมื่อวาน (14 พ.ย.) จึงมีการประชุมรักษาการกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญ เลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารชุดใหม่กันเสียที

แต่ก่อนการประชุม “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ก็แจ้งลาออกจากการเป็น รักษาการหัวหน้าพรรค เนื่องจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง มีการระบุชื่อ “นราพัฒน์ แก้วทอง” รักษาการรองหัวหน้าพรรคปชป. เป็น รักษาการหัวหน้าพรรคปชป. ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ซึ่งมีเอกสารแจ้งอัปเดตสถานะพรรคการเมืองแจ้งมา แม้ว่าล่าสุดทางกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้แล้ว แต่เพื่อไม่ให้มีข้อสงสัย ประเด็นข้อกฎหมาย และให้การจัดประชุมใหญ่วิสามัญพรรคราบรื่น “จุรินทร์” จึงลาออกจากรักษาการหัวหน้าพรรคปชป. เมื่อช่วงบ่ายวานนี้เอง

ชัยชนะ เดชเดโช
เมื่อ “จุรินทร์” ลาออก บรรดารักษาการกรรมการบริหารพรรค ก็สิ้นสภาพตามไปด้วย พรรคจึงต้องประชุม เพื่อตั้ง “รักษาการหัวหน้าพรรคคนใหม่” ขึ้นมาแทน

ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ชุดรักษาการ ใช้เวลาประชุมประมาณ 4 ชม. เพื่อถกเถียงในข้อกฎหมาย และข้อบังคับการประชุม ในการกำหนดวันเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยที่ประชุมมีมติ ให้จัดการประชุมใหญ่ฯ ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ รวมทั้งให้มีการแก้ไขข้อบังคับ ให้เพิ่มองค์ประชุมอีก150 คน มาจากตัวแทนภาค ภาคละ 30 คน เพื่อสำรองไว้ ในกรณีองค์ประชุมไม่ครบ โดยให้สมาชิกพรรคปชป. สมัครเข้ามาด้วยตนเอง หากสมัครเกินจำนวน ให้ใช้วิธีจับสลาก

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติตั้ง “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รักษาการเลขาธิการพรรค ควบรักษาการหัวหน้าพรรคอีกหนึ่งตำแหน่ง แทน “จุรินทร์” ซึ่งสามารถทำได้ เพราะข้อบังคับพรรคไม่ได้ห้ามไว้

หลังจากนี้ก็ต้องจับตาว่า วันที่ 9 ธ.ค.นี้ การประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค จะผ่านไปอย่างราบรื่นหรือไม่ โหวตเตอร์ของพรรค จะเลือกใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค

มีรายงานว่า เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน เวลาเปลี่ยน คู่ “นราพัฒน์-เดชอิศม์” คงขึ้นมาได้ยากเสียแล้ว แม้ “นราพัฒน์”จะยังคงยืนยันพร้อมสู้ แต่ “เดชอิศม์” คงเข็นไม่ขึ้น เพราะถูกมองว่า ที่พรรคต้องวุ่นวายในช่วงที่ผ่านมา ก็เพราะเขา และก่อนหน้าที่จะมาอยู่ประชาธิปัตย์ ก็เคยอยู่พรรคเพื่อไทย มาก่อน

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ - เฉลิมชัย ศรีอ่อน
ล่าสุด พี่สาวของเดชอิศม์ ก็ถูกอัยการสั่งฟ้อง คดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย จ.สงขลา ตัวเขาเองยังมีข่าวพัวพันกับนักธุรกิจ “สีเทา” ชาวมาเลย์ ที่เป็นท่อน้ำเลี้ยง ซึ่งถูกจับกุม และยังถูกโยงว่ารู้จักคุ้นเคยกับ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ที่แหกคุกและกำลังหนีการตามล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า คู่ใหม่ที่มาแรงคือ “มาดามเดียร์-ชัยชนะ”

โดย “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ที่ลาออกจากการเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แล้วมาสมัครเข้าพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับการโปรโมตให้ดูแลสนามเลือกตั้งกรุงเทพฯ จะมาจะเป็นหัวหน้าพรรค

ส่วน “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค ที่มีผลงานพาลูกทีมทั้งหมด สอบผ่าน สส. จะขึ้นเป็น เลขาธิการพรรค

คู่ “มาดามเดียร์-ชัยชนะ” จะได้รับความไว้วางใจจากพลพรรคสีฟ้าให้มากอบกู้วิกฤตของพรรคหรือไม่ 9 ธ.ค.นี้ รู้กัน

**เมื่อ “หมอชลน่าน” โดน “อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต” ถีบ-ตบหาย ท้าทาย!

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
จากคลิปวิดิโอที่เป็นไวรัลดังในโซเชียลฯ สำหรับวิธีการรักษาผู้ป่วยสุดแปลก “ถีบหาย-ตบหาย”แค่ครั้งเดียว อาการที่ปวดกระดูกทับเส้น ก็หายเป็นปลิดทิ้ง โดยมีประชาชนแห่แหนเข้ารับการรักษา ถึงขั้นชาวเน็ตรับทราบถึง “มิติพิศวง” ดังกล่าว นอกจาก งงงวย “เหลือจะเชื่อ” แล้วยังแซวกันว่า ผู้ที่ใช้ชื่อ "อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต" ผู้นี้ อาจจะทำให้หมอๆ ทั้งหลายตกงานกันระนาว

อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต หรือ “กีรติ สมคิด” อายุ 53 ปี ช่วงนี้จัดเป็น “ดาวดัง” ในโซเซียลฯ ยิ่งก่อนนี้มีเคสของ อดีตพระเอกดัง “เมฆ-วินัย ไกรบุตร” ซึ่งต่อสู้กับอาการป่วยตุ่มน้ำพองมานาน ทุกข์ทรมานเรื้อรัง จนต้องพักงานในวงการบันเทิงออกมาอัปเดตสุขภาพที่ดูเหมือนร่างกายจะฟื้นฟูดีขึ้น และเจ้าตัวยังแสดงความเห็นเชื่อมั่นหลังจากรับ “พลังจิต” จากฝ่ามือของอาจารย์เอก ยิ่งทำให้ชื่อ “อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต” ขจรขจาย

แต่ความโด่งดังก็มาพร้อมกับคำถามว่า...พลังจิต และ การถีบ-ตบ ของอาจารย์เอกทำให้คนหายป่วยจริงหรือ?

ขณะเดียวกันเริ่มมีเคสคนป่วยที่รับการรักษาแล้วอาการแย่ลงกระเซ็นกระสายออกมา กลายเป็นกระแสอีกด้าน ที่ลอยล่องไปถึงหูกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องให้ลงมาตรวจสอบ ตามมาด้วย "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกโรงมาปราม

อาจารย์ดาวดัง ยักไหล่ไม่แคร์ ออกมาโพสต์ลงโซเซียลฯตัวเอง ระบุว่า การแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่สามารถรักษาโรคเหล่านี้ พร้อมท้าทายกระทรวงสาธารณสุข และนพ.ชลน่าน ให้มารักษากับตัวเอง โดยอย่าอ้างถึงเรื่องกฎหมายเพียงอย่างเดียว

อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต
ฟังว่า งานนี้ “หมอชลน่าน” เมื่อถูกท้าทาย ก็ควันออกหู สวนกลับว่า ไม่ต้องท้า ถ้าทำผิดกฎหมาย ผมส่งคนไปจับอยู่แล้ว อย่าท้า ถ้าทำผิดกฎหมาย ผมมีหน้าที่ควบคุมดูแล ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากการดูแลสุขภาพที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ในหลักการ “หมอชลน่าน” ยืนยัน การดูแลรักษาที่เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์จะต้องเป็นไปตามกฎหมายและบทบัญญัติ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับอันตรายต่อชีวิต ดังนั้น ต้องไปดูว่าสิ่งที่ “อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต” ทำนั้นมีกฎหมายอะไรมารองรับ มีการประกอบวิชาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่?

ถามว่า “อาจารย์ถีบ-ตบ” มีสิทธิในการรักษาหรือไม่? หมอชลน่าน ยังไม่ฟันธงตรงๆ โดยยอมรับว่า มีหลายศาสตร์ที่อธิบายด้วยหลักวิชาการแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถเรียนรู้ได้ทั้งหมด แต่การจะใช้ศาสตร์ต่างๆ นั้นมาดูแลรักษาโรค ดูแลชีวิตมนุษย์ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการยอมรับ มีมาตรฐาน มีความปลอดภัย

นี่เป็นเรื่องที่ “หมอ” พลังจิตท้าทายมา สังคมก็จับตาว่า “หมอ” คุมกระทรวงสาธารณสุข อย่าง “หมอชลน่าน” จะจัดการอย่างไรนอกจากใช้ “พลังฝีปาก” ฟาดออกไปแล้ว

น่าสนใจยิ่ง..เพราะนับวันประชาชนที่เชื่อ “อาจารย์เอก” ไปพึ่งพา “ฝ่ามือพลังจิต” ยิ่งมากขึ้นทุกวัน ถ้ากระทรวงสาธารณสุข ไม่ทำอะไรสักอย่างให้เคลียร์ชัดตัดจบ มากกว่าพูด ก็น่าเป็นห่วง งานนี้.. “หมอชลน่าน” น่าจะต้องจริงจังกว่านี้มั้ย!


กำลังโหลดความคิดเห็น