xs
xsm
sm
md
lg

แค่หยอกๆ แจกเงินดิจิทัล เดิมพัน “บวชชี” สุดท้าย “ไหม ศิริกัญญา” ก็ไม่กล้า ** “เศรษฐา” ฟิตเรียกสาง 3 ปมร้อน ก่อนบินไปประชุมเอเปค ที่สหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศิริกัญญา ตันสกุล -อดิศร เพียงเกษ -นายกฯเรียกประชุมสั่งงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ข่าวปนคน คนปนข่าว



** แค่หยอกๆ แจกเงินดิจิทัล เดิมพัน “บวชชี” สุดท้าย “ไหม ศิริกัญญา” ก็ไม่กล้า ** “เศรษฐา” ฟิตเรียกสาง 3 ปมร้อน ก่อนบินไปประชุมเอเปค ที่สหรัฐฯ

เคลียร์คัตชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่บ่ายเมื่อวันศุกร์ที่10 พ.ย.ที่ผ่านมา สำหรับเงื่อนไขของการแจกเงิน10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่าน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ตามการแถลงของ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ถ่ายทอดสดออกทีวีไปทั่วประเทศ
โดยคนที่จะได้รับแจกต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้น้อยกว่า 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินฝากในทุกบัญชีรวมกันน้อยกว่า 500,000 บาท ผิดจากนี้ก็เป็นอันหมดสิทธิ ถ้าจะร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ก็ต้องไปร่วมอีกโครงการ ที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษ ว่า “e-refund” คือไปจับจ่ายใช้สอยแล้วเก็บบิลไว้ลดหย่อนภาษีในวงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาท ที่จะเริ่มทันทีต้นปีหน้า

ว่ากันว่าจะมีคนไทยราว 50 ล้านคน ที่เข้าข่ายได้รับแจก 10,000 บาท ผ่านโครงการนี้ ใช้เงินคิดเป็นตัวเลขกลมๆ ก็ตก 5 แสนล้านบาท

แต่ปมประเด็นที่ยังเป็นดรามากันต่อมาก็คือ เรื่องแหล่งที่มาของเงินที่จะเอามาใส่ในดิจิทัลวอลเล็ตนี่เอง

หลังจากคณะกรรมการ, คณะอนุกรรมการ, คณะทำงานทั้งหลายแหล่ ไปศึกษาหาข้อมูลมาประชุมถกเถียงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็พบว่ามีทางเดียวคือ ต้องออกพระราชบัญญัติ หรือ “พ.ร.บ.กู้เงิน” เท่านั้น เพราะหากใช้งบประมาณประจำปี ก็ต้องทยอยแจก ไม่สามารถแจกรวดเดียวให้คนไทยทั้ง 50 ล้านคน ที่ว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นทีจะไม่ได้ผล

ที่นี้แหละ เข้าทางฝ่ายคัดค้านแจกเงินดิจิทัลทันที “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ แห่งพรรคก้าวไกล อดีตว่าที่ รมว.คลัง หากรัฐบาล “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ตั้งได้จริง ออกมาซัดแรงๆทันที จับเอาจุดที่รัฐบาลต้องออก พ.ร.บ.กู้เงิน นี่แหละ มาขยี้ปมปัญหาแหล่งที่มาของเงิน โดยบอกว่าถ้าทำอย่างนี้ มันผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังแน่ๆ เพราะหากใช้เงินที่ไม่ได้เป็นไปตามงบประมาณปกติ จะทำได้กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น แต่วันนี้ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไร

แถมเยาะเย้ยว่า จริงๆ แล้ว รัฐบาลรู้อยู่แก่ใจว่าทำโครงการนี้ไม่ได้ จึงหาทางลงด้วยการเสนอเป็น พ.ร.บ.เงินกู้ เพื่อให้เข้าทางบรรดา “นักร้อง” ที่จะเอาเรื่องนี้ไปร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญ ให้ทำการวินิจฉัย และเธอก็มั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะตีตก พ.ร.บ.กู้เงินมาแจกอย่างแน่นอน

อดีต“ว่าที่ขุนคลัง” ยังอ้างถึง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ในยุค “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตีตก เพราะว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพราะฉะนั้น พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน ของ “รัฐบาลเศรษฐา” ก็น่าจะพบจุดจบแบบเดียวกัน

โดนเย้ยหยันขนาดนี้ ประธานวิปรัฐบาล อย่าง“พ่อใหญ่ตุ๊” อดิศร เพียงเกษ ต้องออกโรงทวิตข้อความท้าทายไปยัง “ไหม ศิริกัญญา” ว่า ถ้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ทำได้จริง จะรับผิดชอบอย่างไร ลาออกจาก สส., ออกจากแวดวงการเมืองเศรษฐกิจ, ไปบวชชี, กราบขอโทษประชาชน พร้อมสำทับว่า “ซีเรียสนะ…ตอบด้วย”

พอโดนท้าอย่างนี้ บรรดากองเชียร์สีส้ม ก็คงอยากให้ “ไหม ศิริกัญญา” รับคำท้า แต่ปรากฏว่า อดีตว่าที่ขุนคลังหญิง กลับเฉไฉไปว่า ที่ “พ่อใหญ่อดิศร” ท้ามา 4 ข้อนั้น เป็นเรื่องตลก แทนที่จะตอบว่าการออก พ.ร.ก.กู้เงินมาแจก 5 แสนล้าน ถูกกฎหมายหรือไม่ กลับมาทำให้เป็นเรื่องการพนัน ทั้งที่จริงหากทำไม่สำเร็จฝ่ายบริหารต้องรับผิดชอบมากกว่า... ว่าไปนั่น

แถมยังท้ากลับไปถึง “พ่อใหญ่อดิศร” ว่า ถ้าอยากตอบโต้ให้เธอเจ็บปวด ก็เอารายงานการประชุมของคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ออกมาเปิดเผยให้หมด จะได้รู้ว่าถกเถียงกันเรื่องแหล่งเงินอย่างไร

สุดท้าย เมื่อวาน “พ่อใหญ่อดิศร” ก็ออกมาบอกว่า ที่ท้าทายไป 4 ข้อ ถึงขั้นให้ “ไหม ศิริกัญญา” ไปบวชชี ถ้ารัฐบาลแจกเงินดิจิทัลสำเร็จนั้น แค่หยอกล้อเล่น เพราะเป็นนักประชาธิปไตย มองความเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดา

และจริงๆแล้ว ก็เชื่อมั่นว่า โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ รัฐบาลได้หารือกับฝ่ายกฎหมายมาดีแล้ว น่าจะผ่านกฎหมายไปได้ การออกเป็นพ.ร.บ. ซึ่งต้องผ่านทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ก็แสดงถึงความใจกว้างของนายกฯ มีอะไรก็ไปพูดกันในสภาฯ ก็ขอให้ทุกฝ่ายเลิกการใช้วาทกรรมก่อนเถอะ แล้วไปทำงานร่วมกันในสภาฯ

เรื่องนี้ก็มีเสียงจากผู้รู้ทางด้านกฎหมาย บอกว่า การออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน มาแจกประชาชนผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ของรัฐบาล “นายกฯ นิด” ไม่น่าจะซ้ำรอย พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน อย่างที่ “ไหม ศิริกัญญา” กล่าวอ้าง

ถ้าย้อนกลับไปที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ของ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ตกไป เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2557 เหตุผลไม่ใช่เรื่องขาดความจำเป็นเร่งด่วน แต่ที่ให้ตกไป ก็เพราะจะกู้เงินมาทำโครงการโดยไม่เอาเข้าระบบงบประมาณ การควบคุมการใช้จ่ายเงินก็จึงไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จึงตัดสินให้ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ต้องตกไป

หรือหากจะเอาไปเปรียบกับการกู้เงิน 1.5 ล้านล้าน ในยุครัฐบาล “ลุงตู่” ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อนำมาแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ระบาด แล้วบอกว่าสมัยรัฐบาลนี้ ไม่มีโควิดระบาดแล้ว ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนแล้ว ก็ลองย้อนกลับไปดูที่ “นายกฯนิด” แถลงว่าจะออกเป็น พ.ร.บ. ไม่ใช่ พ.ร.ก.หรือพระราชกำหนด เหมือนการกู้เงินในยุค “ลุงตู่” ที่ต้องมีเหตุผลเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน มาประกอบ

ด้วยเหตุฉะนี้ ในเมื่อเป็น พ.ร.บ. ก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน แต่จะไปดูเรื่องประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการมากกว่า ซึ่งอันนี้บรรดา ส.ส.-ส.ว. คงต้องไปถกกันสภาฯ แล้วลงมติกัน

เพราะแบบนี้หรือเปล่าหนอ “ไหม ศิริกัญญา” จึงไม่กล้ารับคำท้าของ “พ่อใหญ่อดิศร” เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่รัฐบาลแจกเงิน 1 หมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ได้จริง อาจจะต้องโกนหัวเตรียมบวชชี ว้าวุ่นเลยหละทีนี้

** “เศรษฐา” ฟิตเรียกสาง 3 ปมร้อน ก่อนบินไปประชุมเอเปค ที่สหรัฐฯ

“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีภารกิจต้องเข้าประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’ Meeting) ระหว่างวันที่ 12-19 พ.ย.66 ที่ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
แต่มีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องสะสาง และกำชับเป็นพิเศษคือ เรื่องหมูเถื่อน...ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน และ ส่วยรถบรรทุก
นายกฯ จึงต้องเปิดวงประชุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงบ่ายวานนี้ ก่อนออกเดิน

ระหว่างถกปัญหาลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนกับคณะของ “พ.ต.ต.สุริยา สิงกมล” อธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้น เห็นได้ชัดว่า นายกฯ มีสีหน้าไม่พอใจในการทำงานที่ผ่านมา เพราะนอกจากชักช้า ไม่ทันการณ์แล้วยังสาวไปไม่ถึงตัวการรายใหญ่ซักที

ที่นายกฯให้ความสนใจเรื่องหมูเถื่อนเป็นพิเศษ เพราะเมื่อทะลักเข้ามา ย่อมส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูของไทย ทำให้ผู้เลี้ยงหมูเดือดร้อน ไม่สามารถขายหมูได้ตามต้นทุนการเลี้ยงที่แท้จริง ยังมีความเสี่ยงที่จะนำมาซึ่งโรคระบาด เช่น โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) และเป็นพาหะของโรค ซึ่งควบคุมได้ยาก

ไม่เพียงเท่านั้น ในด้านของผู้บริโภค ยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากสารพิษตกค้าง และสารปนเปื้อน สารก่อมะเร็ง อย่างเช่นสารเร่งเนื้อแดง เพราะการเลี้ยงหมูในหลายๆ ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา บราซิล เขายังอนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงอยู่
เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูของไทย จึงต้องเร่ง “ขันน็อต” แบบรอช้าไม่ได้แล้ว
ส่วนปัญหาด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน ที่เป็นเป้าหมายใหญ่ แม้รัฐบาลจะประกาศ “ฟรีวีซ่า” แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีน ก็ยังไม่เป็นไปตามเป้า เพราะยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ

จึงเตรียมพูดคุยกับสถานทูตจีน ในการที่จะเอาตำรวจจีน มาลาดตระเวนในประเทศไทย ตามเมืองท่องเที่ยว ทั้งเมืองหลัก และเมืองรอง หวังจะช่วยทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วง 2 เดือนสุดท้าย เป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ที่ 4-4.4 ล้านคน

...เราต้องการให้ตำรวจจีน เห็นการทำงานของประเทศไทยว่า เรายกระดับเรื่องความปลอดภัยอย่างไรบ้าง ให้เขาเป็นกระบอกเสียงส่งต่อให้กับนักท่องเที่ยวจีน เพราะคนจีนกลัวตำรวจมาก ถ้าตำรวจของเขามา แสดงความมั่นใจในเมืองไทย ก็จะช่วยยกระดับความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวจีนอีกขั้นหนึ่ง... “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุ
หากเป็นจริงตามนี้ ต้องถือว่าเป็นมิติใหม่ ที่จะมี “ตำรวจจีน” มาลาดตระเวนตามเมืองท่องเที่ยวของไทย เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวของเขา

ส่วนเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกิน นายกฯกำชับกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจทางหลวง ตำรวจนครบาล และกรมทางกลวง กระทรวงคมนาคม รวมถึงปลัดกระทรวงคมนาคม ต้องทำการตรวจจับอย่างจริงจัง

“พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช” ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่าความจริงแล้ว กรมทางหลวงมีด่านชั่งน้ำหนัก 100 กว่าจุด ทั่วประเทศ แต่ปัญหาคือพวกนี้จะหนี ไม่ยอมเข้าด่านชั่ง ต่อไปนี้หากพบ จะต้องแจ้งตำรวจทางหลวงให้สกัดจับ และขอให้ประชาชน ช่วยแจ้งเบาะแสมาที่กรมทางหลวง หรือตำรวจทางหลวงด้วย สำหรับในส่วนของตำรวจนครบาล ก็ได้กำชับตำรวจจราจร ให้ตรวจตรารถในกรุงเทพฯ ร่วมกับ กทม. เรื่องนี้จะดำเนินการต่อเนื่องให้ปัญหามันจบที่รุ่นเรา

เรื่องรถบรรทุกนำหนักเกิน ส่วยสติกเกอร์ กำลังเป็นประเด็นร้อน ที่ฝ่ายค้านยกขึ้นมาถล่มรัฐบาล นายกฯจึงต้องมอบการบ้านให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นพิเศษ

ก็ต้องติดตามว่า เมื่อนายกฯกลับจากการประชุมเอเปค มาตรวจการบ้าน ผลจะเป็นอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น