“สามารถ” ผิดหวัง “ก้าวไกล-ฝ่ายค้าน” ทำได้แค่ตั้งกระทู้สด และบ่นนายกฯไม่มาตอบ ให้คะแนน 0 ไม่ตัดเกรดรัฐบาล เชื่อปชช.ตัดสินได้ “ไพศาล” ยก 2 เรื่องใหญ่เตือนรัฐบาล หนึ่งในนั้น “ไอโอ 3 ขบวน” โหมกระแสหนัก เพื่อ “ล้มรัฐบาล”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (9 พ.ย. 66) เพจเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า
“สามารถ ไม่ขอตัดเกรดผลงานรัฐบาล เชื่อประชาชนเห็น แต่ขอตัดเกรดฝ่ายค้านสอบตก ได้ศูนย์คะแนน
วันนี้ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความเห็นผ่านรายการสามารถ 5 นาที ว่า
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ วันนี้ ผม สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ก็จะมาสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ครับ วันนี้ก็จะมาสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ที่พ่อแม่พี่น้องถามผมมามากมาย ว่า ช่วยตัดเกรดผลงานรัฐบาลให้หน่อย ผมเห็นหลายคนครับ ออกมาตัดเกรดให้กับรัฐบาล ให้กับนายกรัฐมนตรีแล้ว ผมคิดว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนทั้งประเทศมีคะแนนในใจให้ท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน อยู่แล้ว เมื่อวานมีการกินข้าวกันของพรรคร่วมรัฐบาล ก็เห็นมีคุณอุ๊งอิ๊งนั่งประกบ คุณเศรษฐา ทวีสิน วันนี้เราเหมือนเห็นพระอาทิตย์ 2 ดวง ก็ไม่แปลกหรอกครับที่รัฐบาล จะไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างที่ประชาชนคาดหวังไว้
แต่สิ่งสำคัญที่สุดกลไกของรัฐบาล ต้องถูกตรวจสอบโดยพรรคฝ่ายค้าน โดยเรามีรัฐสภา หรือเรามีสภาผู้แทนราษฎรในการตรวจสอบการใช้อำนาจ ของรัฐบาล และก็เอาเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนมาพูด สัปปายะสภาสถาน แปลว่า ที่แห่งการพูด มันก็ชัดเจนอยู่แล้วครับ แต่สิ่งสำคัญที่ผ่านมาตลอดสมัยประชุมที่แล้ว คือ ผมต้องอธิบายให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนฟังว่า สภาผู้แทนราษฏรก็เหมือนโรงเรียน มีเปิดเทอม และ ปิดเทอม แล้วก็เปิดเทอม พูดง่ายๆ ว่า 1 ปีการศึกษา ก็จะประชุม 2 ครั้ง ที่ผ่านมาเนี่ยเราประชุมมาแล้ว 1 ครั้ง ปิดสมัยประชุมอยู่ ณ เวลานี้ คือช่วงการปิดสมัยประชุม จะเปิดประชุมอีกครั้งคือวันที่ 15 ธันวาคม 2566
ฉะนั้น วันนี้ ถ้าเราเปิดทีวี วันพุธ-พฤหัสบดี เราจะไม่เห็น ส.ส.มาอภิปรายอะไรหรอกครับ ไม่มีกระทู้ถามนายก ไม่มีญัตติเข้า ไม่มีกฎหมายเข้า เพราะช่วงนี้คือช่วงปิดสมัยประชุม ผมบอกว่า เราเปิดสมัยประชุมมา 1 สมัยเต็มๆ พูดง่ายๆ ถ้าเหมือนโรงเรียนก็เหมือน 1 ภาคการศึกษาเนี่ย เราไม่เห็นรัฐบาลถูกฝ่ายค้านตรวจสอบอะไรเลยครับ มีแต่พรรคฝ่ายค้านก็คือพรรคก้าวไกล ที่ออกมาบอกว่าตั้งกระทู้แล้วนายกไม่มาตอบ แต่ท่านเองก็ไม่ใช้กลไกอื่นในการจะตรวจสอบการทำงานของนายกรัฐมนตรีเลย
แม้แต่ขออนุญาตที่เอ่ยนาม อ.เสรี ท่านก็พูดครับว่า พรรคก้าวไกลเนี่ยที่บอกว่าจะเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ จะคาดหวังว่าให้เค้าทำเพื่อประชาชน ก็ไม่เห็นพูดถึงคนชั้น14 ไม่พูดถึงเรื่องของอภิสิทธิ์ชน ไม่พูดเรื่องเงินดิจิตอล ไม่พูดเรื่องยาบ้า 10 เม็ด ไม่เห็นพรรคก้าวไกลพูดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าเป็นพรรคเก๋าๆ ในอดีต เค้ายื่นญัตติด่วนด้วยวาจาแล้วครับ อภิปรายอย่างน้อยให้ประชาชนได้ฟังว่า นโยบายที่รัฐบาลทำอยู่นั้นมันไม่เวิร์ก มันไม่เวิร์คยังไงบอกให้ประชาชนรู้ เรื่องแบบนี้ทำได้ครับ ยื่นญัตติด้วยท่านก็ทำได้ แต่ท่านไม่ทำ เค้าเรียกว่าญัตติด่วนด้วยวาจาท่านทำได้ท่านไม่ทำ นี่ประเด็นที่ 1 ก่อนนะครับ ตั้งกระทู้สดเค้าไม่มาตอบ ท่านก็บ่นอยู่แบบนั้น แต่ท่านไม่ทำอย่างอื่นที่เป็นรูปธรรม
ประเด็นที่ 2 ที่ผมพูดว่าเรื่องการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 และ 152 ก็ไม่ทำ รัฐธรรมนูญให้อำนาจฝ่ายค้านในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงติ เขาก็ให้เสนอได้ ท่านก็ไม่เสนอ พูดง่ายๆ ว่า ทำงานฟรีมา 6 เดือน เอาเงินภาษีประชาชนมาใช้ 6 เดือน แต่ไม่ได้ตรวจสอบอะไรรัฐบาลเลย รัฐธรรมเค้าดีไซน์มาว่า ให้อภิปรายทั่วไป กับอภิปรายไม่ไว้วางใจ 1 ปี ได้อย่างละครั้ง คืออภิปรายทั่วไปได้ 1 ครั้ง อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ 1 ครั้ง ตามญัตติ 151 และ 152
ส่วนใหญ่แล้วเขาจะใช้ 1 ปี มี 2 สมัยประชุม ใช่ไหมครับ อันแรกก็อาจจะอภิปรายทั่วไป สมัยที่ 2 ใน 1 ปี ก็อภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ท่านก็ไม่ทำครับ ทั้งอภิปรายทั่วไปก็ไม่ยื่น อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ยื่น และสิ่งสำคัญที่สุดที่ผม ต้องออกมาเสียใจแทนคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ยอมเอาตัวเองทั้งๆที่ป่วยหนักเป็นโรคมะเร็ง ออกมาพูดมากมายเลย และก็ข้อมูลนี้ส่งให้คุณโรมไปแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น เวลาคุณชูวิทย์ ส่งอะไรให้พรรคก้าวไกล ก็เอาข้อมูลของคุณชูวิทย์มาอภิปรายทุกครั้ง แต่เรื่องที่คุณชูวิทย์เสี่ยงตายออกมาพูดเพื่อให้สังคมได้จารึกไว้ ทำไมพรรคก้าวไกลไม่ลงชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของคุณเศรษฐา ทวีสิน ว่าขาดคุณสมบัติตามมาตรา160 ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรื่องนี้ท่านก็ไม่ทำ และที่สำคัญมีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่ยื่นได้ เพราะมีเสียง ส.ส.เกิน 50 เสียง
นี่คือ สิ่งที่ผมบอกว่า พ่อแม่พี่น้องประชาชนให้ตัดเกรดให้ว่าพรรคก้าวไกลในฐานะที่เป็นพรรคฝ่ายค้านได้ ศูนย์คะแนน ขอบคุณครับ”
ขณะเดียวกัน นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Paisal Puechmongkol ระบุว่า
“ผลโพลว่าสองเดือนของรัฐบาลเศรษฐาเป็นที่พอใจของประชาชน
การกระชับอำนาจและการจัดวางเจ้าหน้าที่ของรัฐ ลงในส่วนราชการต่างๆ กำลังรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ที่ยังต้องระวังคือ
- กรรมการองค์กรอิสระ ที่ ส.ว.ชุดปัจจุบันเลือกมา
- ไอโอ 3 ขบวนใหญ่ ที่กำลังโหมกระแสอย่างหนักหน่วง เพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้
วิเคราะห์ไปแล้ว ไม่ง่าย หลายปีที่ผ่านมานี้ นายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ถูกปลดออกจากตำแหน่ง 3 คน ถูกยึดอำนาจ 2 ครั้ง
ในกรณีถูกปลดจากตำแหน่ง อำนาจก็ยังอยู่ในพรรคเพื่อไทยนั่นเอง
18 ปีแล้ว สังวรกันได้แล้ว สถานการณ์สงครามก็รุกโหมโรมเร้าเข้ามา
น่าจะคิด สามัคคีภายใน เตรียมรับศึกใหญ่ภายนอกจะไม่ดีกว่าหรือ”