วันนี้( 1 พ.ย.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วางนโยบายกำหนดจำนวนยาบ้าไม่เกิน 10 เม็ด ถือเป็นผู้เสพต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัด โดยเตรียมที่จะออกเป็นกฎหมายลูก ว่า จะไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ เพราะในฐานะที่เคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรียุติธรรม ทำเรื่องปัญหายาเสพติดในกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ปัญหาเรื่องนี้มาตลอด ยาเสพติดเป็นเรื่องของความมั่นคงของประเทศ และความมั่นคงของมนุษย์ จะปล่อยให้คนไทยติดยาบ้าไม่ได้เพียงการอนุมัติให้ยาบ้าง 10 เม็ดถูกกฎหมายไม่ได้ หากจำกันได้กรรมาธิการในรัฐบาลที่แล้วได้ใช้เวลา 3 ปีเต็มศึกษา และดูงานหลายที่ และเป็นผู้ชี้แจงเสนอต่อสภา แต่นายแพทย์ชลน่าน คงไม่เข้าใจหรือไม่ได้อ่านรายงาน อีกทั้งก่อนหน้านี้นพชลน่าน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ยังเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเป็นรัฐบาลที่ทำให้ยาบ้าเกลื่อนเมือง แต่วันนี้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุข กลับทำให้ยาบ้า 10 เม็ดถูกกฎหมาย
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ประธานกรรมธิการแรงงาน ก็ออกมาต่อว่า นายแพทย์ ชลน่าน ว่าให้ยาบ้า 10 เม็ด ถูกกฎหมายนั้น จะทำให้ยาบ้าระบาดหนัก เพราะสามารถพกยาบ้า 10 เม็ดได้ ใครมียาบ้า 100 เม็ด ขายเพียงวันละ 10 เม็ด 10 คน 10 รอบ ได้ 1,000 เม็ดแล้ว ส่วนตัวคาดการณ์ได้เลยว่า จะมีคนติดยาบ้าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และไม่ได้หมายความด้วยว่าจะได้ผู้ป่วยเข้ามาบำบัดมากกว่าเดิม โดยใช้เกณฑ์จำนวนยาบ้ามาเป็นตัวชี้วัด เพราะบุคคลที่เสพก็ต้องเสพอยู่แล้ว
“ผมได้ขึ้นอภิปรายกับส.ส.ฟังทั้งสภา แต่วันนั้นผมไม่เห็น นายแพทย์ชลน่าน ในห้องประชุม ไม่ได้อ่าน หรืออย่างไรท่านถึงจะทำให้ยาบ้า 10 เม็ดไม่ผิดกฎหมาย ผมเองเห็นนายแพทย์ ชลน่าน เคยเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ชี้หน้าด่าพล.อ ประยุทธ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า มีกฏหมาย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้มียาบ้าได้เเค่ 5 เม็ด ท่านยังด่าเลย รัฐมนตรีสาธารณสุขในเวลานั้น ชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านบอกว่าให้มียาบ้าไม่เกิน 1 เม็ด ถ้าเกินก็ผิดแล้วจะไปแก้กฎกระทรวง ผมสงสัยร่างที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีสาธารณสุขได้ทำไว้ เขาน่าจะตีแท่นเลข 1 เอาไว้ท่านอ่านผิดท่านเลยไปเติมเลข 0 หรือเปล่าครับ นายแพทย์ ชลน่าน ที่มาเป็นรัฐมนตรีต่อเนื่องกัน ผมเองแปลกใจมาก”
นายสามารถ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงปลอดภัย ที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านยาเสพติด ซึ่งข้อมูลพบว่า มีการใช้เครื่องจักรผลิต โดยเครื่อง 1 เครื่อง ใช้เครื่องจักรทำปั๊มยาบ้าได้ชั่วโมงละ 300,000 เม็ดหรืออาจจะมากกว่านั้น หาก โรงงาน มีเครื่องจักร 10 เครื่อง จะผลิตได้ชั่วโมงละ 3,000,000 เม็ด ถ้าทำ 10 ชั่วโมงต่อวัน มันจะได้ 30,000,000 เม็ด ต่อโรงงาน จึงขอฝากให้นายแพทย์ ชลน่าน ว่าสิ่งที่เตรียมจะกำหนดจำนวนยาบ้านั้น จะยิ่งเป็น การกระตุ้นยาเสพติดให้แพร่ระบาดถึงชาวบ้านมากขึ้นหรือไม่ เพราะหากอนุมัตินโยบายให้คนพกสต๊อกติดตัวได้ถึง 10 เม็ด เม็ดละ 30 บาท 10 เม็ด ก็ 300 แล้ว แต่ต้นทุนมันแค่ 50 สตางค์ ขายได้เพียงเม็ดเดียว แล้วทิ้งไป 59 เม็ด ก็ยังกำไร ฉนั้นนโยบาย 10 เม็ด ถูกกฎหมายนั้นควรยกเลิก แล้วนำร่างของนายอนุทิน ชาญวีรกุล สมัยเป็นรัฐมนตรีที่เขียนไว้ว่า 1 เม็ด มาเซ็นแทน
“อย่าไปอายครับ ที่ท่านอนุทินทำไว้ยังไม่สำเร็จ มาสำเร็จตอนที่ท่านก็ได้ ในสมัยท่านก็ได้ ท่านสง่างามกว่าครับ ท่านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หรือไม่ท่านก็โทรศัพท์ไปที่ ชั้น 14 ร.พ.ตำรวจ หน่อย ว่าจะปราบยาเสพติดยังไง เพราะสมัยท่านทักษิณเนี่ยเขายิงพ่อค้ายา เขาปราบจริงจัง วันนี้นายแพทย์ ผมไม่รู้ว่าท่านส่งเสริมพ่อค้ายาหรือไม่อย่างไร”
ล่าสุด นาย สามารถ ยังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ย้ำให้เห็นปัญหายาเสพติดเริ่มระบาดแล้ว
"วันนี้เห็นข่าว ที่จังหวัดอุดรฯ ผัวเสพยาบ้า 3 เม็ดแทงคอเมียทะลุตายคาที่ นี่แค่ 3 เม็ด นะถ้า 10 เม็ดแบบที่ หมอชลน่านให้เสพได้จะมีใครต้องตายอีกกี่คนนี่หรือนโยบายรัฐบาล?"