ฟาด “ก้าวไกล” ดีแต่กดคนอื่นลงต่ำ-สารพัดแก้ตัว “ดร.เสรี” ชี้ ภาพลักษณ์เสียหายหนัก “อี้” ชวนติด “โบว์ขาว” จี้ลาออก

“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ฟาด “ก้าวไกล” ดีแต่กดคนอื่นลงต่ำ เรียกร้องความเป็นธรรมจากคนอื่น แต่ฝ่ายตัวเองสารพัดแก้ตัว “ดร.เสรี” ชี้ ภาพลักษณ์เสียหายหนัก ยากฟื้นฟู “อี้-แทนคุณ” ชวนติด “โบว์ขาว” จี้สำนึก ส.ส.ก้าวไกล ลาออก

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (4 พ.ย. 66) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า

“มาตรฐานสูงลิ่ว

พรรคก้าวไกลยกมาตรฐานไว้สูงลิ่ว

แถมกดคนอื่นลงต่ำ

แต่พอกรวดเข้าตาตัวเอง

กลับมองไม่เห็น เขี่ยไม่ออก

ขว้างงูไม่พ้นคอ

ไล่ออกคนหนึ่งแต่อีกคนให้แก้ตัว


สุดท้ายต้องอ้อนวอนให้ลาออก

หากจะไล่ซ้ำสองทำได้ไหม

อย่าดรามาสร้างเฟสสีดำ

ติดโบว์ขาว ปกป้องสตรี

ก่อนโหวตทำไมไม่คิด

ตอนนี้มาขอร้องให้ลาออก

ช้าไปแล้ว คนรู้ทันทั้งแผ่นดิน

แก้ตัวไม่ขึ้น

ไม่อยากขยี้ แค่ขัดใจคนรุ่นใหม่

เรียกร้องความเป็นธรรมจากคนอื่น

แต่ฝ่ายตัวเองสารพัดแก้ตัว

ขอถามหาความเป็นธรรมของผู้ถูกละเมิด อยู่ที่ไหน

ความโปร่งใส ต้องเปิดเผย ไม่มีความลับ มีไหม อยู่ที่ไหน

อะไรคือมาตรฐานที่แตกต่างจากคนอื่น”


ขณะเดียวกัน ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า เจ้าตัวเขาบอกว่าเขาไม่ผิด ไม่ได้คุกคามทางเพศ

“กรรมการวินัยของพรรคตัดสินว่าผิดจริง

หัวหน้าพรรคแถลงว่า ส.ส. ผิดจริง

ส.ส. พรรคเดียวกัน 116 คน โหวตให้ขับออก

เจ้าตัวออกมาแถลงว่าเขาไม่ผิด เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ฝ่ายหญิงยินยอม แสดงว่าไม่มีสำนึก ไม่คิดจะขอโทษเหยื่อ

แบบนี้แล้วหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. ของพรรคที่โหวตขับเขาออกจากพรรคจะว่ายังไง

ยังมีประชาชนในพื้นที่มาให้กำลังใจเขาอยู่นะ

แบบนี้แล้วพรรคยังมีเอกภาพอยู่อีกหรือ

หัวหน้าพรรคทำถูกแล้วที่จะเรียกประชุมกรรมการพรรคพิจารณาพฤติกรรมของ ส.ส. รายนี้ใหม่อีกครั้ง

ถ้าสรุปว่าเขาไม่ทำตามมติพรรค อาจจะขับออก

ถ้าทำได้ตามที่หัวหน้าพรรคพูด ภาพลักษณ์ของพรรคก็พอจะตีตื้นกลับมาได้บ้าง ตอนนี้เสียหายไปเยอะแล้วนะ”


ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศพรรคประชาธปัตย์ กล่าวถึงกรณีมติพรรคก้าวไกลเสียงไม่พอขับ ส.ส.ก้าวไกล พ้นพรรค ว่า

ไม่เกินคาดเพราะก้าวไกลมีการแสดงอะไรแบบนี้เป็นประจำที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่า เป็นพรรคการเมืองหัวก้าวหน้า แต่ธาตุแท้ คือ เมาเสรี ฟรีกาม คุกคามประชาชน จนกลายเป็นภัยคุกคามของสังคมรูปแบบหนึ่งที่ผู้มีอำนาจนำตัวจริงปกป้องพวกเดียวกัน ปกป้องผลประโยชน์และอำนาจตัวเองและช่วยเหลือกันเอง มีเพียงไม่กี่คนที่มาแสดงว่า ไม่เห็นด้วยซึ่งน่าชื่นชมแต่หากดูที่ผลลัพธ์สุดท้ายของการกระทำที่ไม่มีแม้แต่คำ “ขอโทษ” ถึงผู้เสียหายแต่ประการใด ทั้งจากผู้บริหารและตัวผู้กระทำเอง แบบนี้เท่ากับการสนับสนุนการกระทำซ้ำๆ โดยการส่งเสียงความเสมอภาคทางเพศเป็นเพียงละครตบตาประชาชน แต่ในพรรคยังแฝงฝังด้วยค่านิยมชายเป็นใหญ่ พวกคุกคามทางเพศมากก็ช่วยลากไป ไม่ฟังเสียงแห่งความเจ็บปวดที่เพรียกหาความยุติธรรมจากผู้เสียหายแต่อย่างใด ยิ่งมีอำนาจและสถานภาพด้อยกว่า ยิ่งถูกกระทำซ้ำ พรรคผลิตซ้ำคนกระทำผิดซ้ำๆ พวกส.ส.ที่สนับสนุนอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ ส.ส.มีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนแต่กลับปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม เข้าข้างช่วยเหลือคนผิด

“จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันติดโบว์หรือริบบิ้นสีขาว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในเดือนของการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก โดยเฉพาะการคุกคามทางเพศ การละเมิดทางเพศ ถือว่าเป็นความรุนแรงรูปแบบหนึ่งที่ทำร้ายร่างกายและจิตใจ รวมทั้งสถานภาพทางสังคมของผู้ถูกกระทำเสมือนหนึ่งถูกใช้ความรุนแรงเชิงโครงสร้างเช่นเดียวกัน

โดยการรณรงค์นี้ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับ ส.ส.ของก้าวไกลที่ยังคงอยู่ในตำแหน่ง ไม่ลาออกทั้งๆที่มีความผิดจริง “ลาออก” และต้องขอบคุณ ส.ส. 106 คนที่ลงมติ เห็นควรว่าควรขับออกจากพรรค และตนขอตั้งคำถามถึงความโปร่งใสตรวจสอบได้ของพรรคก้าวไกลว่าทำไมไม่กล้าเปิดรายชื่อ ส.ส.ที่ลงมติ ไม่ขับออกจากพรรคอีก 22 คน โดยจะกล่าวอ้างว่า ใช้ดุลพินิจแล้ว ยังไม่เข้าข่ายไม่ได้ เพราะว่าเสียงส่วนใหญ่ ที่ประชุมในวันนั้น ก็เห็นว่า ควรจะขับออกแล้ว อย่างนี้เท่ากับเป็นการเล่นพรรคเล่นพวกใช้สายสัมพันธ์ช่วยเหลือคนกระทำความผิดหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญ คือ การไม่ออกมา “ขอโทษ” ผู้เสียหายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยิ่งสะท้อนความไร้จริยธรรมไร้จรรยาบรรณในฐานะนักการเมืองผู้ชายของ ส.ส.ก้าวไกล ที่พูดนโยบาย ค่านิยม พรรค อย่างสวยหรูดูดีไปหมด แต่ในภาคปฏิบัติ กับไร้มโนธรรมต่อผู้ถูกกระทำอย่างแท้จริง”