“ศรีสุวรรณ” นำชุมชนพระนคเรศ ฟ้องเขตบางรัก-กทม.ปล่อยให้คอนโดสูงกลางเมืองสะท้อนแสงแสบตา ทำเดือดร้อนเสียหาย
วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลปกครองกลาง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้เดินทางมาศาลเพื่อยื่นฟ้อง ผอ.เขตบางรัก ผอ.สำนักการโยธา กทม. และคณะกรรมการ คชก. ต่อศาลปกครอง ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบและละเลยต่อหน้าที่ กรณีอนุญาตให้คอนโดชื่อดังสูง 45 ชั้น ก่อสร้างบริเวณปากซอยพระนคเรศ ถ.พระราม 4 โดยใช้กระจกเป็นผนังรอบอาคาร ซึ่งก่อปัญหาแสงสะท้อนเข้ามาในบ้านเรือนชาวบ้านรอบชุมชนจนแสบตาไปหมด ทำให้เดือดร้อนเสียหาย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ หรือ คชก.กทม.ได้เห็นชอบให้บริษัทด้านเรียลเอสเตทชื่อดังได้ก่อสร้างอาคารสูง 45 ชั้น 501 ห้อง ในบริเวณปากซอยพระนคเรศ ถ.พระราม 4 เขตบางรัก ซึ่งการก่อสร้างได้สร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้กับชาวชุมชนพระนคเรศเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องฝุ่นละออง เสียงดัง เศษวัสดุ เศษปูน ตกใส่หลังคาบ้านบ่อยครั้ง เป็นที่เอื้อมระอาของชาวบ้านโดยรอบสถานที่ก่อสร้างมาเป็นปีๆ
ที่สำคัญ พื้นที่จอดรถของอาคารคอนโดฯดังกล่าว ใช้ระบบอัตโนมัติ ได้ก่อให้เกิดเสียงดังตลอดเวลาที่มีรถยนต์เข้า-ออก และบางเวลาในยามค่ำคืนเกิดไฟฟ้าลัดวงจรทำให้เกิดเสียงหวีดดังยาวไม่หยุด โดยไม่มีการแก้ไขให้หยุดแต่อย่างใด จนกระทั่งให้หยุดไปเสียงจนถึงตี 3 ตี 4 ก็เคยมี และที่เป็นปัญหามากคืออาคารสูงจะติดตั้งผนังซึ่งทำด้วยกระจกรอบตัวอาคาร เมื่อแสงอาทิตย์ส่องมากระทบทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น จะสะท้อนแสงแยงเข้ามาในบ้านเรือนประชาชนโดยรอบอาคาร ทำให้เดือดร้อนอย่างมาก รวมทั้งเวลาเกิดพายุฝนพัดผ่านมาออาคารดังกล่าวจะปิดกั้นทิศทางลม ทำให้เกิดการม้วนตัวของแรงลมลงพื้นดิน ทำให้หลังคาบ้านของชาวบ้านข้างเคียงหลุดร่อนเสียหายอีกด้วย กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความเดือดร้อนอันแสนสาหัสของชาวบ้านข้างเคียง แม้ตัวแทนชาวชุมชนจะพยายามร้องเรียนให้เจ้าของโครงการหามาตรการมาป้องกันแก้ไขและให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงาน EIA แล้วก็ตาม แต่ก็เพิกเฉยไม่แก้ไขหรือชดเชยเยียวยาใดๆ ให้อันชี้ให้เห็นว่ามาตรการที่กำหนดไว้ในรายงาน EIA นั้นเป็นการเขียนขึ้นมาหลอกๆ เพราะไม่สามารถปฏิบัติได้ ซึ่งต้องถือเป็นความผิดของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ หรือ คชก.กทม. ที่ต้องรับผิดชอบต่อการให้ความเห็นชอบผ่านรายงาน EIA ดังกล่าวออกมาด้วย
เรื่องนี้เป็นความทุกข์ของคนจนเมือง ที่ถูกเพิกเฉยหรือไม่ให้ความสนใจความทุกข์ร้อนจากผู้ที่มีหน้าที่ในการควบคุมดูแลแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน และเพื่อมิให้เกิดปัญหารุกลามบานปลายไปมากกว่านี้ ชาวชุมชนพระนคเรศ จึงนำความทุกข์มาให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้นำความมาฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลได้พิจารณาไต่สวนและมีคำสั่ งหรือคำพิพากษาเพิกถอนอาคารดังกล่าวต่อไป หากไม่มีการแก้ไขความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด