“สุทิน” ยันเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟรีเกต คิดรอบคอบทุกมิติแล้ว โดยชั่งน้ำหนักเทียบกับเดินหน้าซื้อเรือดำนำโดยใช้เครื่องยนต์จีน ย้ำไม่เสียเปรียบแม้เพิ่มเงิน 1 พันล้าน เมื่อดูมูลค่าของที่ราคาเป็นมาตรฐานทั่วโลก เชื่อจีนไมได้ผิดสัญญา แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง
วันนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.37 น.ที่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเรียกชี้แจงการเปลี่ยนการจัดหาเรือดำน้ำจีนเป็นเรือรบฟริเกตแทนว่า พร้อมชี้แจงทุกที่ ซึ่งทราบว่า กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ จะมาพบตนด้วยและยินดี เพราะจะได้ทำความเข้าใจกัน
เมื่อถามว่า การเปลี่ยนเป็นเรือรบฟริเกตจะทำให้เสียงบประมาณที่ดำเนินโครงการไปก่อนหน้านี้หรือไม่ เช่น การส่งบุคลากรไปอบรม และเตรียมสถานที่จอดเรือดำน้ำ นายสุทิน กล่าวว่า มันต้องชั่งน้ำหนักกัน ระหว่างการเดินหน้าต่อเอาเครื่องยนต์จากจีน และการต้องเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ก็มีได้มีเสียเหมือนกัน ยืนยันว่า เราคิดรอบคอบในทุกมิติแล้ว รวมทั้งมิติกฎหมาย คิดว่านี่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด และหากเดินหน้าต่อคิดว่าจะต้องเจอคำถามมากกว่านี้
เมื่อถามว่า เสียงผู้ใต้บังคับบัญชาของเหล่าทัพว่าอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า ทุกคนเข้าใจดี เพราะก่อนจะตัดสินใจเรื่องนี้ก็ได้หารือกันอย่างละเอียด ไม่ได้ตัดสินใจโดยพลการ ไม่ได้ใช้อำนาจของรัฐมนตรี หรือรัฐบาลไปชี้เลย แต่ประชุมหารือทุกแง่ทุกมุม
เมื่อถามว่า ไทยจะเสียเปรียบหรือไม่ที่จะต้องเสียเงินเพิ่มอีก 1 พันล้านบาท นายสุทิน กล่าวว่า ไม่เสียเปรียบ เพราะต้องดูมูลค่าของแต่ละอย่างด้วย เพราะหากเรือถูกแล้วเขามาบวกแพง อันนั้นเสียเปรียบ ซึ่งทุกอย่างเป็นราคาที่รับรู้กันทั่วโลก และเป็นราคามาตรฐาน ทั้งนี้ ไม่ได้มองว่าจีนผิดสัญญา แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงมากกว่า เพราะเป็นเรื่องของจีทูจี ประเทศไทยมีมิติของความเป็นมิตรประเทศ ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ ที่จะต้องมาพิจารณาประกอบกัน ไม่ใช่ดำเนินการซื้อขายอย่างเดียว
เมื่อถามว่า จะใช้กลไกของรัฐบาลในการเจรจาหรือไม่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ใช้กลไกของกระทรวงก่อน ซึ่งที่ผ่านมาคือกลไกของรัฐบาล ส่วนรายละเอียดต่อจากนี้ก็เป็นกลไกของกระทรวง ที่จะต้องไปคุย
เมื่อถามว่า กังวลกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า กระแสก็คงมี ออกทางไหนคนไทยเราก็วิพากษ์วิจารณ์ แต่เชื่อว่าเราอธิบายได้