xs
xsm
sm
md
lg

“ผู้ชายตีเมีย” เรื่องฮอตของก้าวไกล “เพชร กรุณพล” โบ้ย IO ทหาร พรรคการเมือง ร่วมมือดิสเครดิต **มาแล้วกุนซือตัวตึง “พิชัย-โจ้-บิ๊กแป๊ะ” ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ เริ่มงานที่ปรึกษานายกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** “ผู้ชายตีเมีย” เรื่องฮอตของก้าวไกล “เพชร กรุณพล” โบ้ย IO ทหาร พรรคการเมือง ร่วมมือดิสเครดิต

มาตรฐานอันสูงส่งของพรรคก้าวไกล กำลังถูกท้าทายด้วย เรื่องความรุนแรงทางเพศ !!

คำพูดของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ว่า จุดแข็งเดียวที่พรรคก้าวไกลมี คือเป็นพรรคการเมืองที่มีมาตรฐานสูงมาก ...

วันนี้ คำพูดดังกล่าวกำลังถูกท้าทาย จากพฤติกรรมของสมาชิกพรรค ผู้สมัครสส.ของพรรค กระทั่งระดับแกนนำพรรคที่มีตำแหน่งเป็นถึง รองประธานสภาฯ ที่มีเรื่องอื้อฉาว เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ มาเป็นระยะ

และที่กำลังเป็นประเด็นร้อน ท้าทายจริยธรรม ก็คือเรื่อง “ผู้ชายตีเมีย”!!

กรณีล่าสุดเมื่อสองวันก่อน เพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ที่เปิดโปงปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศของคนในพรรคก้าวไกลมาแล้วหลายกรณี ก็ได้โพสต์ถึงเรื่อง คณะทำงานของพรรคก้าวไกล ที่ จ.สกลนคร “ตีเมีย” อีกแล้ว

เมื่อเรื่องราวนี้ถูกแพร่ออกไป “เพชร” กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ก็รีบโพสต์ข้อความทาง X @petchy 66 ว่า บุคคลที่ว่า ไม่ใช่คณะทำงานพรรค แค่เคยอาสามาช่วยหาเสียง และเพิ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรคตอนเดือนสิงหาคม หลังเลือกตั้ง อันนี้ถือเป็นการแชร์ข้อความอันเป็นเท็จ ใส่ร้าย ให้เกิดความเกลียดชัง...

ตามมาด้วยการให้สัมภาษณ์สื่อ โดยตั้งข้อสังเกตว่า เพจ "วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร" เป็นพวกที่ไม่ชอบพรรคก้าวไกลแน่นอน เพราะมอนิเตอร์ทุกอย่าง คาดว่าน่าจะเป็นการทำงานระหว่าง “พรรครัฐบาล” บางพรรค กับ “IO ทหาร” ที่พยายามจับผิดพรรค มีการตามไปถึงสิงคโปร์ Monitor สส. พรรคก้าวไกล รายบุคคล และล่าสุดเพจนี้อ้างว่า มีหลักฐานเกี่ยวกับ สส.พรรคก้าวไกล เล่นยาเสพติด แต่สุดท้ายก็ลบทิ้งไป ที่สำคัญเราสังเกตเห็นว่า มีโหวตเตอร์ ของพรรคการเมืองบางพรรค แชร์ทุกอย่างจากเพจนี้ เพื่อมาทำลายเรา พอเราเอาข้อเท็จจริงไปต่อสู้ กลายเป็นว่า โหวตเตอร์คนนั้น ลบบัญชีหนีไป ...

กรุณพล เทียนสุวรรณ
ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ว่า คนในพรรคก้าวไกลเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเอง “เพชร กรุณพล” บอกว่า เป็นไปได้ยาก น่าจะเป็นพวกโหวตเตอร์ของพรรคการเมือง หรือ io ทหาร มากกว่า แต่มีพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน

เมื่อ “เพชร กรุณพล” ให้น้ำหนักกับเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” รับงานมาจ้องทำลาย จ้องเตะตัดขา มากกว่าจะมองว่า “พฤติกรรม”ของคนในพรรคนั่นแหละ ที่ทำลายก้าวไกล

ล่าสุดเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ได้ออกมาตบปาก “เพชร กรุณพล” โดยเช็คอินอยู่ที่ ตึกไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พร้อมระบุว่า... ทุกคนคะ พี่เพชร ให้สัมภาษณ์กล่าวหาหนูหลายเรื่อง หนูขอชี้แจงตามนี้ค่ะ

ไอโอพรรคการเมือง และ ไอโอทหาร ไม่เก่งเท่าหนูหรอกค่ะ ถ้าเก่งคงไม่แพ้ไอโอของก้าวไกล ตอนเลือกตั้ง ถูกมั๊ยคะ

“พี่เพชรหลอน” กล่าวหาเพจหนู ดิสเครดิต พรรคก้าวไกล ถามตัวเองนะคะ ถ้าพวกคุณไม่สร้างเรื่อง ใครจะดิสเครดิตคุณได้ หัดยอมรับความจริงบ้างค่ะ

เรื่องนักการเมืองติดยา หนูยังไม่ได้บอกว่าเป็นใคร หรือพรรคไหนเลยค่ะ แต่ที่ลบเพราะหลายคอมเมนต์ พาดพิงก้าวไกล เรื่องนี้หนูช่วยพี่อยู่นะคะ แต่ถ้ามีหลักฐานครบ หนูระบุชื่อและพรรคการเมือง ส่งให้พี่นักข่าวแน่นอนค่ะ

พี่เพชรบอกคนก้าวไกล เป็นหนอน เป็นไปได้ยาก หนูเห็นด้วยค่าาา #ไม่มีหนอนในพรรคใกล้กาวเลยค่าา [????]


เพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ยังเสนอว่า นักข่าวควรตั้งคำถามว่า เรื่องที่ลงไปนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่ และพรรคจะจัดการปัญหาต่างๆ เมื่อไหร่ อย่างไร จะได้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ...

พูดถึงมาตรฐานอันสูงส่งของพรรคก้าวไกล ก็อดนึกถึง “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา คนที่ 1 ซึ่งตอนนี้ไปสังกัดพรรคเป็นธรรม หลังพรรคก้าวไกล มีมติขับออกจากพรรค เพื่อลอดช่องกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะได้ “กินรวบ” ทั้งตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภา และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

เรื่องอื้อฉาวของ “หมออ๋อง” ก็มีทั้งเรื่องเลี้ยงหมูกระทะ แม่บ้านสภา ...โฆษณาเบียร์...ยกขบวนส.ส.ก้าวไกลไปทัวร์สิงคโปร์

และเมื่อวานนี้ (19ต.ค.) “ หมออ๋อง”ก็ออกมาทวีตข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ว่า “มีการเรียกสอบบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านสภาของผมอยู่ครับ แค่อยากบอกว่า ผมพร้อมให้ความร่วมมือในการให้ปากคำทุกประการครับ”

ต่อมามีคนมาคอมเมนต์ว่า เคยดูคุณสมชัย เขาแนะนำว่าให้จ่ายเอง ทราบมาว่าในที่สุดก็จ่ายเองไปแล้ว ไม่น่ามีปัญหานะครับ ซึ่ง “หมออ๋อง” ตอบกลับทวีตดังกล่าวด้วยว่า “จ่ายเองไปแล้วครับ”

ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่า การเลี้ยงหมูกระทะในคราวนั้น ใช้งบรับรองของสภาฯไป 99,530 บาท

ส่วนเรื่อง โฆษณาเบียร์ ก็มีข่าวว่า”หมออ๋อง” เข้าพบสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พิษณุโลก ยอมรับผิดและจ่ายค่าปรับ 5 หมื่นบาทไปแล้ว

ทั้งสองเรื่องนี้ถือว่า “ความผิดสำเร็จ” แม้จะยอมจ่ายค่าปรับ จ่ายค่าหมูกระทะ ที่ในทางกฎหมายอาจจะผ่อนหนักเป็นเบา หรือเอาผิดไม่ได้แล้ว แต่ในทางสังคม ถือว่าพฤติกรรมดังกล่าวมันฟ้องถึงมาตรฐานทางจริยธรรม ว่าสูงส่ง หรือต่ำเตี้ยแค่ไหน

ปดิพัทธ์ สันติภาดา
**มาแล้วกุนซือตัวตึง “พิชัย-โจ้-บิ๊กแป๊ะ” ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ เริ่มงานที่ปรึกษานายกฯ

ได้ฤกษ์เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อเริ่มงาน“ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี” ข้าราชการการเมือง รับเงินเดือนเดือนละ 7 หมื่นกว่าบาทอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เมื่อวาน(19 ต.ค.) สำหรับ “โจ้” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ที่ได้รับแต่งตั้งตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 10 ต.ค.66 รวมทั้ง “พิชัย นริพทะพันธุ์” และ “บิ๊กแป๊ะ” พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ได้รับการแต่งตั้งตามมติ ครม.วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา

ถึงจะเป็นที่ปรึกษานายกฯ หมาดๆ แต่ทั้ง 3 คน ก็ถือเป็นคนในเครือข่ายระบอบทักษิณมายาวนาน ย้อนไปสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อราว 10 ปีก่อน ก็เข้าออกเทียบฯอยู่เป็นประจำ

อย่าง “พิชัย นริพทะพันธุ์” เคยได้รับแต่งตั้งเป็น รมช.คลัง ในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ในปี 2551

ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ก็ได้ลงสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลำดับที่124 ไม่ได้รับเลือกตั้ง แต่ก็ยังได้เป็นทีมเศรษฐกิจของพรรค คอยปกป้องโครงการรับจำนำข้าว ตันละ15,000 บาท

ในวันที่ 9 ส.ค.54 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน และได้ฉายาจากผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลว่า “ไอเดียกระฉอก” เพราะมักจะมีไอเดียใหม่ๆ มานำเสนอต่อสังคมเสมอ ก่อนถูกปรับออกจากตำแหน่งในเดือนม.ค.55 แต่ต่อมาก็ยังได้เป็นคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย

ในการเลือกตั้งปี 2562 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งเป็นพรรคแบงก์ย่อย ของเพื่อไทย แต่เมื่อพรรคไทยรักษาชาติ ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ ก็ได้กลับมาอยู่พรรคเพื่อไทย และในปี 2563 ได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรค

ส่วน “โจ้ ยุทธพงศ์” นักการเมืองฝีปากกล้าอีกราย แม้จะเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์มาก่อน แต่เมื่อย้ายมาอยู่เพื่อไทย ลงเลือกตั้งได้เป็น สส.มหาสารคาม ในปี 2554 เส้นทางในพรรคก็เติบโตอย่างรวดเร็ว

โดยในปีต่อมาเมื่อวันที่ 27 ต.ค.55 ได้รับแต่งตั้งเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปจนถึงเดือนมิ.ย.56 จึงถูกปรับออก แต่ก็ยังมีบทบาทในฐานะเป็น สส.จอมแฉของพรรค ในการเลือกตั้งปี 2562 ก็ได้รับเลือกเป็น สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยอีกครั้ง และในปี 2563 “โจ้ ยุทธพงศ์” ก็ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ ให้เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ส่วน “บิ๊กแป๊ะ” พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ก็เคยเป็นกุนซืองานด้านความมั่นคงให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหม ก่อนถูกรัฐประหารปี 2557

ก่อนจะมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน “บิ๊กแป๊ะ” ก็เป็นที่ปรึกษาของ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯกทม. และในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล เคยมีชื่อว่าจะได้เป็นผู้ช่วยรมว.กลาโหม หรือในบางโผ ครม. ถึงขั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการด้วยซ้ำ

วานนี้ หลังไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งพระพรหม ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย ในทำเนียบรัฐบาลเสร็จเรียบร้อย “พิชัย นริพทะพันธุ์” ก็ให้สัมภาษณ์นักข่าวทันที โดยบอกว่า “โจ้ ยุทธพงศ์” จะมาเข้ามาช่วยหลายด้าน ส่วน “บิ๊กแป๊ะ พล.อ.นิพัทธ์” จะมาช่วยดูเรื่องความมั่นคง

พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก - พิชัย นริพทะพันธุ์ - ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร
ส่วนการมาเป็นที่ปรึกษานายกฯ ครั้งนี้ ก็พยายามทำทุกอย่างให้มันดี ราบรื่น เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยค่อนข้างแย่ อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ พวกตนจะเข้ามาช่วยคิด ช่วยแก้ ทำอย่างไรให้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นเบาบางลง

“ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจตอนนี้มีปัญหาจริงๆ จึงต้องเข้ามาช่วยกันคิด ว่าประเทศที่จมปลักมาแล้ว 9 ปี ให้ก้าวหน้าไปได้ ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น”

เจ้าของดีกรี อดีต รมช.คลัง ยังกล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ว่า อยากให้มองว่า ในอนาคตเศรษฐกิจทั้งโลกกำลังจะแย่ โดยเฉพาะการสู้รบกันระหว่างอิสราเอล กับกลุ่มฮามาส ซึ่งปัญหาจะเกิดขึ้นแน่นอน เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะออกมาพอดีในจังหวะพอดีที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีปัญหา ตรงนี้จะช่วยประคองให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไปได้

ส่วนที่มาของเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะมาจากไหน เราต้องมาพิจารณากัน แต่ตามหลักเศรษฐศาสตร์ ถ้าเราใช้เงินเก่าออกมา มันจะไม่กระตุ้น แต่ถ้ามีเงินจากข้างนอกเข้ามา จะช่วยกระตุ้นได้บ้าง

“ต่อไปนี้ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เพราะนายกฯ ก็วิ่งตะลอนเพื่อจะหานักลงทุนมาลงทุนในประเทศไทย 9 ปีที่ผ่านมาการลงทุนไทยเกือบหายไปหมดเลย การส่งออกของเราแพ้เวียดนามหลุดลุ่ย เวียดนามชนะเราถึง 50% นายกฯ อุตส่าห์เสียสละไปต่างประเทศเพื่อหานักลงทุนเข้ามา ถือว่าถูกต้องและต้องเร่งทำในเรื่องนี้ ตอนนี้สัญญาณเศรษฐกิจค่อนข้างดี แต่เศรษฐกิจโลกยังไม่เอื้ออำนวย เราต้องมาคิดดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะฝ่าฟันไปให้ได้”

เรียกได้ว่า ฝีปากของ “กุนซือพิชัย” ยังคงไม่ทิ้งลายเดิม ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ “รัฐบาลลุง” แบบแรงๆ มาตลอด โดยเฉพาะในประเด็นเศรษฐกิจ ยิ่งในยุคคสช.หลังการรัฐประหารใหม่ๆ เคยถูกเรียกไปปรับทัศนคติถึง 10 ครั้ง

เมื่อได้ร่วมทีมกับ “โจ้ ยุทธพงศ์” ที่มีสไตล์การทำงานแบบปะฉะดะด้วยแล้ว หากจะมอบฉายาให้ทีมที่ปรึกษานายกฯ ชุดนี้ว่าเป็น “กุนซือตัวตึง” ก็คงจะไม่มีใครคัดค้าน


กำลังโหลดความคิดเห็น