xs
xsm
sm
md
lg

บรรยากาศเปลี่ยน ก้าวไกลไม่ร้อนแรง !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 ปิยบุตร แสงกนกกุล - ปดิพัทธ์ สันติภาดา
เมืองไทย 360 องศา


แน่นอนว่า ไม่กี่วันที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกตั้งคำถามกลับไปอย่างหนักหน่วงจากกรณีเกิดปัญหา “คุกคามทางเพศ” ภายในพรรคมาอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นว่า ถูกเยาะเย้ยว่า เป็น “พรรคสุรา-นารี” ไปโน่น ซึ่งเสียงที่ออกมาในทางลบดังกล่าว สาเหตุหนึ่งที่สำคัญก็น่าจะมาจากพวกเขาพยายามจะแสดงให้เห็นว่า เป็นพรรคการเมือง “แนวทางใหม่” วางมาตรฐานเอาไว้สูง ขณะเดียวกัน มองพรรคอื่นในทำนองล้าหลัง อนุรักษนิยมจารีต อะไรประมาณนั้น

วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการวินัยพรรค แถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี ส.ส.พรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาว่าส่งข้อความคุกคามทางเพศสุภาพสตรีที่เป็นทีมงานหาเสียง

โดย นายพริษฐ์ ระบุว่า ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ต้องขอเริ่มต้นโดยการยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่า เหตุผลที่ตนมายืนอยู่ตรงหน้าทุกคนในวันนี้ เป็นเพราะพรรคก้าวไกล กำลังมีปัญหาเรื่องการคุกคามและความรุนแรงทางเพศ ปัญหาเรื่องการคุกคามทางเพศเป็นปัญหาใหญ่ในสังคม ที่กระทบความปลอดภัยของประชาชนหลายคน ในฐานะพรรคการเมืองที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระดับประเทศ เมื่อปัญหาดังกล่าวกลับเกิดขึ้นจากบุคลากรภายในองค์กรเราเอง สิ่งที่เราต้องทำให้ได้ คือ การยอมรับปัญหา เผชิญหน้ากับปัญหา และหาความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยไม่สร้างวัฒนธรรมในการปกปิดเรื่องดังกล่าว หรือปกป้องคนในองค์กรที่กระทำผิด

“ผมเข้าใจว่า วันนี้ สื่อมวลชนหลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับกรณีล่าสุดที่ปรากฏในข่าว ที่เป็นข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศของ ส.ส. ปราจีนบุรี แต่วันนี้ ตนขออนุญาตแถลงถึงภาพรวมทั้งหมดของปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางของพรรคในการแก้ไขปัญหา ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กรณีของ ส.ส. ปราจีนบุรี โดยขอแบ่งเนื้อหาการแถลงออกเป็น 3 ส่วน

ส่วนที่หนึ่ง บทสรุปของข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ได้ข้อสรุปจาก กก.บห. พรรค ไปแล้ว 2 กรณี ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ทางพรรคได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมคุกคามทางเพศโดยสมาชิกพรรค ซึ่งคณะกรรมการวินัยของพรรคได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทุกฝ่าย และกรรมการบริหารพรรคได้มีมติลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ใน 2 กรณีดังต่อไปนี้

กรณีที่ 1 ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงโดย นายสิริน สงวนสิน ส.ส. กทม. โดยตัดสิทธิไม่ให้ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคทันที และกำหนดคาดโทษไว้ว่า หากมีเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่ สิริน กระทำผิดวินัยร้ายแรงอีกครั้งในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส. ทางพรรคจะยกระดับโทษเป็นการขับออกจากสมาชิกภาพ

กรณีที่ 2 ข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศโดย นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ ได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหายจริงตามข้อกล่าวหา ทางพรรคเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขัดต่ออุดมการณ์พรรคอย่างชัดเจน และถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง ตรงตามข้อบังคับพรรคที่ระบุถึงการกระทำผิดเรื่องการล่วงเกินทางเพศอย่างชัดเจน จึงได้มีมติให้ลงโทษนายเกรียงไกร โดยการขับออกจากสมาชิกภาพทันที

ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ โดย นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี หลังจากทางพรรคได้รับคำร้องจากผู้ร้องเรียน ทางพรรคได้ริเริ่มกระบวนการสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการวินัยพรรคเมื่อเดือน ส.ค.โดยได้เชิญแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมตลอดเดือนกันยายน

ขณะเดียวกัน จากการแถลงของโฆษกพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ ยังได้เปิดเผยอีกว่า ยังมี ส.ส.อีก 1 คน ที่ยังมีปัญหาในเรื่องการคุกคามทางเพศ และแม้ว่าทางพรรคยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรงจากบุคคลซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย ทว่า ตั้งแต่ทราบเรื่อง ทาง คณะกรรมการวินัยของพรรคได้เร่งติดต่อไปยังบุคคลดังกล่าว โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรอความพร้อมของบุคคลดังกล่าว ในการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏ

จากหลายกรณีที่ปรากฏออกมาให้เห็น ทั้งเรื่องการคุกคามทางเพศภายในพรรคที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือกรณีมีอดีต ส.ส.ก่อนหน้านี้ที่เคยมีประวัติอาชญากรรมเคยถูกดำเนินคดีและมีโทษจำคุกทำให้ขาดคุณสมบัติ ต้องพ้นสภาพ ส.ส.จนต้องมีการเลือกตั้งซ่อม กรณี ส.ส. “เมาแล้วขับ” ต้องลาออกไป ไม่เว้นแม้แต่กรณีของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.พิษณุโลก ที่มีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายจากกรณี “เชียร์เบียร์” พฤติกรรมที่ถูกระบุว่า “ผลาญงบประมาณ” จากการยกคณะไปดูงานที่สิงคโปร์ในแบบที่ไร้ประโยชน์ รวมไปถึงเลี้ยงหมูกระทะแม่บ้านของบริษัทเอกชนที่รับจ้างเป็นงานแม่บ้านที่รัฐสภาจนถูกขนานนามว่า “ทั่นรองหมูกระทะ” ด้วยความขบขันไปแล้ว

หรือแม้แต่กรณีเกาะเก้าอี้รองประธานสภา แล้วใช้วิธี “เลี่ยงบาลี” ใช้วิธีขับออกจากพรรค เพื่อให้คงสถานะ ส.ส.โดยการไป “ฝากเลี้ยง” ด้วยการสังกัดพรรคอื่น มันก็ยิ่งตอกย้ำ “หวงเก้าอี้” ยึดติดกับตำแหน่งถูกมองว่าไม่ต่างจากการเมือง “น้ำเน่า” ที่เคยชี้หน้าด่าคนอื่น

อย่าได้แปลกใจที่ล่าสุดยังถูก นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่เป็นอดีตของพรรคก้าวไกล ออกมาตำหนิอีกครั้ง โดยคราวนี้โฟกัสไปที่เรื่อง “คุกคามทางเพศ” ทำนองว่า พรรคก้าวไกลได้ชี้แจงน้อย และมีการล่าช้าในเรื่องการสอบสวนหาข้อเท็จจริง อย่างไรก็ดี ในกรณีของ นายปิยบุตร ก็ทำท่าว่าจะกลายเป็นการเพิ่มความขัดแย้งภายในบานปลายขึ้นมาอีก หลังจากมีบรรดาผู้สนับสนุนของพรรคก้าวไกล หรือ “ด้อมส้ม” ดาหน้าออกมารุมถล่มอย่างรุนแรง ทำนองว่า “อิจฉา ริษยา” ขึ้นมาอีก

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกลเวลานี้ ถือว่าได้สร้างแรงสั่นสะเทือนกับพรรคมากพอสมควร โดยเฉพาะในเรื่อง “ภาพลักษณ์” และทำลายมาตรฐานที่พยายามเอาไว้ว่า “เหนือกว่า” พรรคการเมืองอื่น แต่เมื่อเจอเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแบบต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องการ “คุกคามทางเพศ” แบบถี่ๆ มันก็ยิ่งทำให้เกิดคำถามว่านี่คือพรรคการเมืองหรือเป็นอะไร ขณะเดียวกัน ก็น่าจะส่งผลกระทบต่อความนิยมไม่น้อย อย่างน้อยก็น่าจะมีผลต่อความร้อนแรงที่แม้ว่าเวลานี้อาจจะยังไม่ถึงขั้นถดถอย แต่ก็ไม่เหมือนเดิม กลายเป็นพรรคการเมืองดาษๆ คาดหวังอะไรไม่ได้ ยิ่งหากผลงานในสภาไม่เป็นชิ้นเป็นอันก็ยิ่งไปกันใหญ่

เพราะเวลานี้ พรรคก้าวไกลเริ่มถูกจับจ้องมากขึ้น จากเดิมที่เคยแต่ตรวจสอบคนอื่นอยู่ตลอดเวลา แต่กลายเป็นว่าตัวเองกลับต้องมาตั้งรับ อย่างไรก็ดี นี่คือของจริง และสถานการณ์จริงที่ต้องรับมือ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น