พีมูฟ แถลงยุติการชุมนุม ขู่รัฐบาลอย่าทิ้ง ลั่นถ้าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พร้อมเคลื่อนไหวใหญ่ม็อบข้ามปี ยันทุ่มเต็มที่กับการแก้ปัญหาระดับโครงสร้างระดับนโยบายเพื่อคนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่แก้รายกรณี
วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ด้านถนนราชดำเนิน ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการกรณียุติการชุมนุมพีมูฟทวงสิทธิโดยเริ่มที่ นายประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้ชี้แจงความคืบหน้าการเจรจาพูดคุยกับรัฐบาลต่อกรณีข้อเรียกร้อง 10 วาระนโยบายที่กลุ่มพีมูฟได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี กระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาของพีมูฟเรียบร้อยแล้ว ตอนหนึ่งว่า โดยสรุปที่หารือกันคือหลังจากมีมติ ครม. จะมีการประสานงานเอาฝ่ายเลขาฯ ส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาต่างๆ มาซักซ้อมทำความเข้าใจและกำหนดแผนร่วมกัน ได้มีการเชิญผู้แทนหน่วยงานในระดับกรมที่เกี่ยวข้องกับวาระนโยบายทั้ง 10 ข้อและปัญหารายกรณีอีก 266 กรณี มาทำข้อตกลงกัน ข้อตกลงที่ว่านั้นคือจะใช้กลไกอนุกรรมการแก้ไขปัญหาจากนั้นก็จะสร้างกลไกในการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาตามข้อตกลง และสุดท้ายเราต้องการหนังสือยืนยันจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ตลอดระยะเวลาการชุมนุม 15 วันได้มีกระบวนการต่างๆ ดังที่กล่าวไป และต่อไปนี้จะมีการดำเนินการตามแผนงานอย่างไร รวมทั้งเอกสารทั้งหมดถึงประธานคณะกรรมการบริหารพีมูฟเป็นการแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการเป็นหลักประกัน
นายประยงค์ กล่าวว่า ข้อตกลงวันนี้คือว่าอนุกรรมการทั้ง 7 คณะที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเชิงนโยบายและปัญหารายกรณีจะมีการจัดให้มีการประชุมนัดแรกภายในเดือนตุลาคม และบางคณะภายในต้นเดือนพฤศจิกายน ที่จะพิจารณาการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ก็คือ การกำหนดแผนระยะเวลาตามที่เราตกลงกันไว้ คือ บางเรื่องที่สั่งการได้เลยให้ยุติให้เสร็จภายใน 1 เดือน อันนี้ก็คือในกรณีปัญหาเร่งด่วน ในระยะกลางให้เวลา 90 วัน และที่เหลือที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย นโยบาย การแก้ไขมติ ครม.ต่างๆ เราก็ตกลงกันว่าเราจะผลักดันให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ส่วนกรณีเร่งด่วน 3 กรณีที่ไม่ได้อยู่ในมติ ครม.ครั้งที่แล้วคือกรณีหลีเป๊ะ กรณีบางกลอย และกรณีของปัญหาคลองโยง ตรวจสอบแล้วพบว่าอยู่ในรายงานการประชุมคณะกรรมการครั้งแรกและเป็นมติเรียบร้อยแล้ว และเมื่อสักครู่ได้เจรจากันว่าในสปน.ทำจดหมายแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบให้แก้ไขปัญหาเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงการของกรมทางหลวงชนบทที่ตัดถนน 4 เลน ตัดเข้าไปกลางโฉนดชุมชนที่คลองโยง และเรื่องของการแก้ไขปัญหาภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนเรื่องบางกลอยก็มีข้อเรียกร้องหลักๆ ที่เร่งรัดให้มีการดำเนินการเพื่อให้พี่น้องบางกลอย 37 ครอบครัว สามารถกลับไปอยู่พื้นที่เดิมได้ ส่วนกรณีหลีเป๊ะก็มีมติแจ้งให้หน่วยงานเร่งรัดดำเนินการ ซึ่งก็คือกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์มี่เป็นกรณีพิพาทกันอยู่ซึ่ง 3 กรณีนี้จะขับเคลื่อนทันที ไม่ต้องรอการประชุมอนุกรรมการ และมีการตกลงกันว่าอนุกรรมการทุกชุดจะมีการเรียกประชุมอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอเดือนละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย ส่วนคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานจะประชุมกันทุก 2 เดือน
นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) กล่าวว่า ยืนยันว่าถ้าไม่เป็นไปตามที่คุยกันไว้ เราพร้อมเคลื่อนไหวใหญ่อย่างแน่นอนและคราวนี้คงไม่ใช่ 15 วัน คงจะข้ามปีไปเลย อันนี้คือสิ่งที่ยืนยันว่าเราทุ่มเต็มที่กับการแก้ปัญหาระดับโครงสร้างระดับนโยบาย ไม่ใช่แค่แก้รายกรณี ถ้ารัฐบาลนี้ไม่เอาตนก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว เพราะสามารถนำแนว 10 นโยบายของพีมูฟไปแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศได้
“ยืนยันว่า ถ้าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันเราพร้อมเคลื่อนไหวใหญ่แน่นอน ไม่ใช่แค่ 15 วัน 20 วันหรือเดือน 2 เดือน ข้ามปีกันไปเลย” นายจำนงค์ กล่าว
ก่อนยุติการชุมนุม กลุ่มพีมูฟได้อ่านแถลงการณ์ ระบุว่า นับจากการเริ่มปักหลักชุมนุมหน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ในช่วงเย็นวันที่ 2 ตุลาคม และประกาศต่อสู้ทวงสิทธิของประชาชนบนฐานทางนโยบาย 10 ด้าน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม จนถึงวันนี้เป็นเวลา 16 วันแล้วที่พวกเราออกจากถิ่นฐานบ้านของเรามานอนอยู่กลางถนน เรียกร้องให้รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ต้องเปิดการเจรจากับพีมูฟเพื่อให้มีความชัดเจนในการเดินหน้าข้อเสนอเชิงนโยบาย สร้างหลักประกันทางนโยบายด้วยการมีมติเห็นชอบในการประชุมคณะรัฐมนตรี
จนถึงวันนี้เราบรรลุข้อเรียกร้องทั้งหมดตามเจตนารมณ์ โดยผ่านการประชุม ครม. 2 ครั้ง มีแนวทางในการผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบาย 10 ด้านอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงแก้ไขปัญหากรณีเร่งด่วนและกรณีอื่นๆ อีกรวม 266 กรณี มีกลไกให้ติดตามเร่งรัดดำเนินการต่อเนื่องหลังจากนี้ ซึ่งเราต้องขอบคุณรัฐบาลที่เร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเราด้วยความราบรื่นและมีประสิทธิภาพ รวมถึงขอขอบคุณแรงใจของพวกเราพี่น้องพีมูฟ กลุ่มประชาชนที่ทุกข์ร้อนจากปัญหาทั้งในระดับพื้นที่และโครงสร้างที่ได้ตัดสินใจลุกขึ้นมาต่อสู้ทวงสิทธิท่ามกลางปัญหาอุปสรรคหลากหลาย ทุกก้าวย่างของคนจนไม่เคยมีคำว่าสบาย แต่เรายังยืนหยัดในอุดมการณ์อันแน่วแน่ หล่อเลี้ยงความหวังถึงสังคมที่เป็นธรรมเท่าเทียม ฝันถึงวันที่ลูกหลานจะไม่ต้องออกมาลำบากต่อสู้ ถูกกดขี่ ขูดรีด เหมือนรุ่นพวกเรา
เราขอขอบคุณเพื่อนมิตรภาคประชาชนและฝ่ายการเมืองทั้งหลายที่แวะเวียนกันมาให้กำลังใจไม่ขาดสายตั้งแต่วันแรกของการปักหลักชุมนุมจนถึงวันนี้ เราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพี่น้องประชาชนทุกคน และขอส่งคืนความปรารถนาดีทั้งหมดสู่ทุกคนที่เราไม่อาจกล่าวถึงได้ทั้งหมด ชัยชนะนี้แม้จะไม่ใช่ชัยชนะครั้งสุดท้าย การเคลื่อนไหวของพีมูฟก็จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน แต่การยกระดับจากปัญหารายกรณีสู่ปัญหาระดับนโยบายและโครงสร้างจนสำเร็จลุล่วงไปได้ในครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของขบวนการภาคประชาชนของพวกเราที่ต่อสู้มาตลอด 13 ปี และเราขอยืนยันว่าการต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด เราจะกลับมาพบกันใหม่
เรายืนยันจะยังใช้การเมืองบนท้องถนนของเราติดตาม ตรวจสอบ การทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และจะยังใช้ทุกกลไก ทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ผลักดันข้อเรียกร้องของเราอย่างถึงที่สุด หากภายหลังรัฐบาลแสดงท่าทีไม่จริงใจต่อการแก้ไขปัญหา หรือจะสร้างผลกระทบด้วยการผลักดันนโยบายที่เอื้อพวกพ้องตนและกลุ่มทุน ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง เราก็พร้อมจะกลับมาชุมนุมเคลื่อนไหวทุกเมื่อ ตามสิทธิ เสรีภาพ ในการชุมนุมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และหลักการสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
สุดท้ายนี้ พีมูฟขอส่งกำลังใจถึงพี่น้องสมัชชาคนจนที่กำลังปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณใกล้เคียง และขอยืนยันว่า คนจนทั้งผองคือพี่น้องกัน มีแต่สองมือ สองเท้า และหัวใจอันเด็ดเดี่ยวของเราเท่านั้นที่จะนำเราสู่ชัยชนะที่ถาวร เราขออวยชัยให้พี่น้องสมัชชาคนจนบรรลุข้อเรียกร้องโดยเร็ว และเรายินดีจะหนุนเสริมทั้งแรงกายแรงใจร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงยุติการชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยกันเก็บสัมภาระ และขึ้นรถ บขส. ที่ทางรัฐบาลได้จัดเตรียมไว้ให้เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา


