“รองนายกฯ สมศักดิ์” สั่งที่ประชุมบูรณาการงบแก้ยาเสพติด ให้ปรับตัวชี้วัดด้านการปราบปราม เพิ่มเรื่องยึดอายัดทรัพย์เข้าไป ชี้ มีตัวเลขผลงานชัดเจน หวังทุกหน่วยงานบูรณาการปราบยาเสพติดทุกมิติ-ตำรวจต้องขยายผลคิดตามมูลค่า Value-based มั่นใจ ตัดวงจรเงินการค้ายาเสพติดได้
วันนี้ (13 ต.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2567 คณะที่ 2.2 แผนงานบูรณาการป้องกันปราบปรามและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น ป.ป.ส. กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ สำนักงบประมาณ ซึ่งตนได้เน้นย้ำในที่ประชุม ว่า การจัดทำงบประมาณด้านการแก้ปัญหายาเสพติด ต้องมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน ที่สามารถนำผลสำเร็จมาเป็นตัวชี้วัดได้ เพราะจะทำให้ทุกภาคส่วนสามารถปฎิบัติหน้าที่ ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากมีตัวชี้วัดเรื่องงบประมาณกำหนดไว้อย่างชัดเจน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตัวชี้วัดด้านการปราบปรามยาเสพติด จากในอดีตจะนำกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้กี่คดีมาเป็นตัวชี้วัด แต่ปัจจุบัน รัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในเรื่องการยึดอายัดทรัพย์สิน ซึ่งมีการกำหนดไว้ในแนวนโยบายของรัฐบาลอย่างชัดเจน ตนจึงมอบแนวทางให้ที่ประชุมปรับเปลี่ยนตัวชี้วัด ด้วยการเพิ่มเรื่องการยึดอายัดทรัพย์สินเข้าไปด้วย เพราะตัวเลขการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จะเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจน ในการบูรณาการแก้ปัญหายาเสพติด
“ที่ผ่านมา ผลการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ไม่เคยถูกนำมาเป็นตัวชี้วัด แต่ผมมองว่า การยึดอายัดทรัพย์ มีตัวเลขผลงานที่ชัดเจน ซึ่งสามารถนำมาเป็นตัวชี้วัดผลงานได้ จึงอยากให้มีการเพิ่มในเรื่องนี้ เพราะผมเชื่อว่า การยึดอายัดทรัพย์จะช่วยตัดวงจรการค้ายาเสพติดได้ โดยตั้งแต่ผมผลักดันเรื่องนี้ ด้วยการแก้กฎหมาย เพิ่มการยึดทรัพย์ ก็ทำให้สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้มากขึ้น จากเดิมปีละไม่เกิน 900 ล้านบาท แต่ปีสุดท้ายก่อนผมลาออกจาก รมว.ยุติธรรม ยึดอายัดได้แล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น หากเรานำเรื่องการยึดอายัดทรัพย์มาเป็นตัวชี้วัด ก็จะช่วยให้การทำงานในเรื่องนี้ รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และจะทำให้ขบวนการผู้ค้ายาเสพติด ไม่มีเงินหมุนเวียนไปกระทำผิดซ้ำได้อีก ซึ่งเรื่องนี้ สำนักงบประมาณ ได้เห็นด้วย ที่จะกำหนดเรื่องการยึดอายัดทรัพย์ ไว้ในตัวชี้วัดแล้ว ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมาร่วมกันเดินหน้ายึดอายัดทรัพย์กันอย่างเต็มที่มากขึ้น เช่น ตำรวจ หลังมีการจับกุม ก็ต้องมีการขยายผล รวมถึงคิดตามมูลค่า หรือ Value-based ที่ต้องนำมูลค่าการค้ายาเสพติดมาคำนวณ เพื่อยึดทรัพย์ย้อนหลัง โดยถือว่า เป็นผลดีกับพี่น้องประชาชน ที่รัฐบาล เร่งแก้ปัญญายาเสพติดแบบทุกมิติ เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานเรา“ รองนายกรัฐมนตรี กล่าว