นายกฯ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้บริหาร ปปง. ย้ำความรวดเร็ว กระชับ มีธรรมมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามมาตรฐานสากล
วันนี้ (5 ตุลาคม 2566) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุม 1201 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมการประชุมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้บริหารสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยสาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้
นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายถึงบทบาท และความสำคัญของ ปปง. ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านความมั่นคง โดยการใช้มาตรการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด อันถือเป็นการตัดวงจรการประกอบอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการ ดังนี้
1. เสริมสร้างภาพลักษณ์สำนักงาน ปปง. ให้โปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรมในการปฏิบัติงาน ผลักดันการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตที่ดีและความคาดหวังของประชาชน ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ปราบปรามยาเสพติดเพื่อคืนลูกหลานให้กับครอบครัว ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นต้น โดยกำชับให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและมาตรฐานสากลเป็นสำคัญ
2. เร่งรัดดำเนินการยกระดับการปฏิบัติงานตามมาตรฐานสากล เพิ่มบทบาทการทำงานของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะที่เป็นประเทศที่มีการดำเนินงานตามมาตรฐานสากลในระดับเดียวกับนานาอารยประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเงินของประเทศไทย และสร้างความน่าเชื่อถือด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
3. ให้สร้างภาคีเครือข่ายในการปฏิบัติงานร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่ของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเครือข่ายภาคประชาชน ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ในรูปแบบความร่วมมือ ปปง. ภาคประชาชน เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยยึดหลักคุณธรรมและสุจริต
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า สำนักงาน ปปง. ต้องมีการพัฒนาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกรรมทางการเงิน เรื่อง Digital Asset ซึ่งมีกลไกที่จะเสี่ยงต่อการฟอกเงินได้ จึงอยากมอบเป็นนโยบายให้ ปปง. สร้างองค์ความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน รวมทั้งการทำงานร่วมกับภาคเอกชน ก็เป็นเรื่องสําคัญ จึงขอให้ศึกษา ทำความเข้าใจธุรกรรมต่าง ๆ อย่างถ่องแท้ ให้เกิดความเท่าเทียม โปร่งใสในการทํางาน รวมทั้งเรื่องยาเสพติด ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญชัดเจนว่า ภาครัฐต้องจัดการเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้เสพคือผู้ป่วย พัฒนาสุขภาพชีวิต ส่งเสริมอาชีพเขากลับคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้อง รวมไปถึงเรื่องของการทําลาย ยาเสพติด การยึดทรัพย์โดยเร็ว เพราะว่าหากไม่ยึดโดยเร็ว อาจมีการหมุน มีการผลิตต่อได้ ถือว่าเป็นกลไกสําคัญ ไปจนถึงประเด็นการแสดงข้อมูลโปร่งใสขึ้นเว็บไซต์ เพื่อให้เป็นที่ทราบของสาธารณชน
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบนโยบายหลัก คือ ความรวดเร็ว ฉับพลัน กระชับ และมีธรรมมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องคงไว้ซึ่งนิติธรรมและคุณธรรมด้วย จึงขอให้ช่วยกันทำงาน ช่วยกันดูแลบ้านเมือง ในช่วงที่ธุรกิจสีเทากำลังเฟื่องฟู ซึ่งสำนักงาน ปปง. ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะนําพาประเทศอย่างก้าวหน้า