xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กทิน” ชี้ ปมกราดยิง ผู้ปกครองต้องสอดส่องสุ่มเสี่ยงดูแลเป็นพิเศษ ยันกองทัพเข้มอาวุธ-กรองงบดีที่สุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รมว.กห. ชี้ ปมกราดยิงพารากอน ผู้ปกครองต้องสอดส่องคนในครอบครัว สุ่มเสี่ยงต้องดูแลเป็นพิเศษ ย้ำ กองทัพเข้มงวดเรื่องอาวุธตลอด ลั่น จะกลั่นกรองงบกองทัพให้ดีที่สุด
วันนี้ (4 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน โดยคนร้ายใช้สิ่งเทียมอาวุธปืน เมื่อเย็นวันที่ 3 ต.ค. ว่า เรื่องการขึ้นทะเบียนปืนเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม จะดูแลในเรื่องของอาวุธสงคราม ทราบว่า กระทรวงมหาดไทย กำลังทบทวนกันอยู่ อย่างไรก็ตาม อาวุธที่อยู่กับประชาชนต้องยอมรับว่ามีอยู่ไม่น้อย และถูกต้องตามกฎหมายก็เยอะ แต่สิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายก็อาจจะนำมาใช้ผิดกฎหมายได้ ดังนั้น หน่วยงานที่มีการเก็บอาวุธไว้ ทั้งตำรวจและทหาร จึงต้องกวดขัน อย่าให้หลุดรอดไปได้

นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. กับเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 63 มีความต่างกันอยู่ เพราะเหตุการณ์ที่ จ.นครราชสีมา เป็นเรื่องของกำลังพลที่อยู่กับอาวุธโดยตรง แต่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเรื่องของเด็ก ซึ่งผู้ปกครองต้องสอดส่องดูแลคนในครอบครัว หากมีความสุ่มเสี่ยงผู้ปกครองต้องดูแลเป็นพิเศษ

เมื่อถามถึงการดูแลรักษาอาวุธในคลังของทหาร ต้องเข้มงวดขึ้นหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เราดูแลกันอยู่ เรื่องนี้ทหารมีการกำชับกันมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่เคยเกิดเหตุเมื่อหลายปีก่อน และในขณะนี้มีจเรทหารคอยตรวจสอบเรื่องเหล่านี้โดยตลอด ทั้งเรื่องอาวุธ น้ำมัน และยิ่งเกิดเหตุเหมือนเมื่อวันที่ 3 ต.ค. กองทัพยิ่งตระหนัก เพราะเราเป็นหน่วยงานที่เก็บอาวุธเยอะ จึงต้องไม่ให้รั่วไหลออกไป แม้แต่กำลังพลที่จะใช้อาวุธก็ต้องทำระเบียบกติกาอย่างเคร่งครัด เมื่อถามว่า ในการประชุมสภากลาโหมจะมีการกำชับเรื่องอาวุธหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เรามีการกำชับอยู่แล้ว

นายสุทิน ยังให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมงบบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ตึกบัญชาการ 1 จะมีประเด็นเรื่องการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ว่า วันนี้ตนมาคุยเรื่องงบประมาณ การของบประมาณบูรณาการในพื้นที่ชายแดนจะทำอย่างไร ส่วนจะขอลดหรือเพิ่มต้องดูก่อนว่าแต่ละหน่วยงานเสนอขึ้นมาอย่างไร แต่ต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ หากไม่จำเป็นก็นำไปใช้ทางอื่น ทั้งเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจหรือการแก้ปัญหาให้กับประชาชน แต่หากจำเป็นจริงๆ ถือว่าโอเค เราเน้นย้ำคำว่าจำเป็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องงบประมาณ คิดว่า จำเป็นต้องมีงบประมาณพัฒนากองทัพอยู่ด้วยหรือไม่ หรือจะให้ใช้งบเดิม นายสุทิน กล่าวว่า เราต้องดู เพราะนโยบายยังต้องคงความเข้มแข็งของกองทัพไว้ และต้องดูงบประมาณ หากส่วนไหนมีอยู่แล้วให้ใช้ส่วนนั้นไป หากมีความจำเป็นจริงๆ และอธิบายสภาได้ เราเชื่อว่ามีระบบกลั่นกรองที่ดี ตนจะกลั่นกรองให้ดีที่สุด และทั้งสองสภาต้องช่วยกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น