จับตา! จับสลากกาชาปอง ยุติปมประธาน กมธ. หากตกลงกันไม่ได้ “เพื่อไทย” ขอถอยคนละก้าว ยันขอ 2 กมธ.หลัก “ก้าวไกล” ยันต้องได้ 11 กมธ.ตามสัดส่วน ส.ส.ที่เพิ่มขึ้น ก่อนตกลงกันไม่ได้สั่งพักประชุม-ถกนอกรอบ
วันนี้ (21 ก.ย.) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมตัวแทนพรรคการเมืองเพื่อจัดสรรโควตาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ว่า พรรคการเมืองใดจะได้ประธาน กมธ. ชุดใด โดยมี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม และตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมประชุม อาทิ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ, นางมนพร เจริญศรี จากพรรคเพื่อไทย, นายชัยธวัช ตุลาธน, นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล, นายรังสิมันต์ โรม จากพรรคก้าวไกล, นายไผ่ ลิกค์ พรรคพลังประชารัฐ, นายชัยชนะ เดชเดโช พรรคประชาธิปัตย์ และนายวิทยา แก้วภราดัย พรรครวมไทยสร้างชาติ
สำหรับการประชุมจัดสรรโควตา กมธ. นั้น มีการพิจารณามาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ทำให้ต้องมีการพิจารณาครั้งที่ 3 ซึ่งครั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการเตรียมกล่องสี่เหลี่ยมใส บรรจุสลากในไข่สีทอง และสีน้ำเงิน
เมื่อเริ่มการประชุม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้แต่ละพรรคถอยคนละก้าว เพื่อจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ซึ่งในฐานะที่พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคอันดับ 2 และได้ กมธ. 10 คณะ แต่พรรคเพื่อไทย ขอ กมธ. หลักๆ 2 คณะ ที่เหลือ 8 คณะ เรายอมก็ได้ ก็ขอให้ถอยกัน แล้วดูว่าหลักๆ เราจะเอาอะไร และที่เหลือจะตกลงกันได้ ซึ่งก็ถือว่าเราใจกว้างมากแล้ว และคิดว่าแต่ละพรรคต้องถอย ไม่เช่นนั้นการเจรจาวันนี้ก็จะไม่สำเร็จ
ขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การเจรจาที่ผ่านมา เรามีการถอยให้กันบ้าง และเห็นด้วยกับนายวิสุทธิ์ว่าวันนี้ภายในห้องต้องมีการจบกันให้ได้ และวันนี้ส.ส.ระยองพรรค ก.ก.ได้ปฏิญาณตนแล้ว โดยรวมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งยังคงสถานะ ส.ส. อยู่ จะทำให้สถานะประธาน กมธ. ของพรรคก้าวไกล จากที่ได้ 10 คณะ เพิ่มมาเป็น 11 คณะ ดังนั้น ยืนยันว่าเราต้องได้ 11 คณะ ตามจำนวนที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคำนวณมา
ต่อมาประธานในที่ประชุมได้เชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม ซึ่งเมื่อผ่านไป 30 นาที ที่ประชุมได้สั่งพักการประชุม เพื่อให้ทุกพรรคไปพูดคุยตกลงกันให้เรียบร้อยก่อน แล้วกลับเข้าที่ประชุมอีกครั้ง เนื่องจากเหลืออยู่ 3 คณะที่ยังตกลงกันไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มีการถกเถียงเรื่องเรื่องจำนวน ส.ส. ของพรรคก้าวไกลที่ได้เพิ่มจากการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดระยอง ทำให้พรรคก้าวไกลจะได้ กมธ. เพิ่มมา 1 คณะ และพรรครวมไทยสร้างชาติลดลงไปเหลือ 2 คณะ แต่ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส. ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หยิบยกกรณีของนายพิธา ที่ขณะนี้ถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. ว่า ไม่ควรนำมารวมด้วย แต่ฝ่ายกฎหมาย ยืนยันว่า แม้นายพิธา จะหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่ยังเป็น ส.ส. อยู่จึงสามารถนำมาคิดคำนวณได้ แต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงทำให้พรรคก้าวไกลได้ กมธ. 11 คณะ พรรครวมไทยสร้างชาติได้ กมธ. 2 คณะ