xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา” เปิดตึกไทยฯ คุย “ชัชชาติ” ชื่นมื่น ชนกำปั้นโชว์มิตรภาพ จ่อตั้ง คกก.ชุดเล็กสนับสนุนพัฒนา กทม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เศรษฐา-ชัชชาติ” นั่งคุยแบบพี่น้องสบายๆ ไม่ต้องมีองคาพยพใหญ่ จ่อผุด คกก.ชุดเล็ก สนับสนุนพัฒนา กทม. ชี้กรุงเทพฯ ศูนย์รวมความคาดหวังรายได้คนไทย ก่อนชนกำปั้นโชว์มิตรภาพ ด้าน “ชัชชาติ” หนุน คกก.ไม่ควรเกินพิชซ่า 2 ถาด เพื่อเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วน

เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 18 ก.ย. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดโอกาสให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พบหารือข้อราชการร่วมกันเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะกรรมการเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร โดย นายกฯ กล่าวว่า วันนี้บรรยากาศสบายๆ อยากจะเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง เวลามีการพูดคุยกันจะได้เป็นกันเอง ซึ่งเชื่อว่า วิธีอย่างนี้เป็นวิธีการที่เราสามารถพูดคุยกันได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องมีองคาพยพใหญ่ กรุงเทพฯเป็นจังหวัดที่ใหญ่ 1 ใน 3 ของจีดีพีของประเทศอยู่ที่นี่ เป็นอะไรที่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ มีความคาดหวังเรื่องรายได้จากการท่องเที่ยว เรื่องฝุ่น เรื่องปัญหารถติด เรื่องการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง กรุงเทพฯ ถูกเป็นที่หมายตาของทุกๆ ท่าน

นายกฯ กล่าวอีกว่า ตน กับ นายชัชชาติ รู้จักกันมานาน วันนี้อย่างที่บอกคุยกันสบายๆ เราก็มีการคุยกันตั้งแต่ก่อนโควิด-19 จำได้นายชัชชาติ มาหาตนที่ทำงานเก่า โดยตนยังบอกว่า ท่านน่าจะสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีไปเลย ไม่ต้องผู้ว่าฯ หรอก ท่านยังบอกว่า ขอเป็นผู้ว่าฯ ดีกว่า และให้ตนมาเป็นนายกฯแทน เราจะได้ทำงานร่วมกันเหมือนพี่ๆ น้องๆ มานั่งคุยกันอย่างสบายๆ วันนั้นจริงๆ ก็ไม่นึกไม่ฝันจะมีบรรยากาศอย่างวันนี้ ที่เรามานั่งคุยกันอย่างพี่ๆ น้องๆ ได้ พอตนเข้ารับตำแหน่งอาทิตย์ที่ผ่านมา หนึ่งในบุคคลสำคัญที่คิดถึงคนแรก คือ นายชัชชาติ ซึ่งท่านมาด้วยฉันทามติที่ท่วมท้น 1.4 ล้านคะแนน ซึ่งถือว่าสูงมากในประวัติศาสตร์ และถือว่า เป็นภารกิจแรกๆ ที่ตนอยากจะทำ อยากจะพูดคุย อยากจะสนับสนุนนายชัชชาติ ให้ทำงานลุล่วงไปด้วยดี เพราะกรุงเทพฯเป็นภาคส่วนที่สำคัญมากของการขับเคลื่อนประเทศ ปัญหาต่างๆ มีเยอะมาก


นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า วันนี้เรามานั่งคุยตรงนี้เกิดจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตนรับประทานอาหารกลางวันแบบเป็บกันเองกับผู้ว่าฯ และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ดำริกันว่า จะตั้งคณะกรรมการชุดเล็กขึ้นมาประมาณ 6-7 คน เท่านั้น ในการขับเคลื่อนกรุงเทพฯ โดยการใช้นโยบายเป็นหลัก ส่วนเรื่องการใช้งบประมาณคงมีน้อยมาก

“หน้าที่รัฐบาลคือ สนับสนุนผู้ว่าฯ ชัชชาติ ให้แก้ไขปัญหา อย่างน้อยๆ อะไรทำได้ก็ทำก่อน โดยที่อาจจะใช้งบประมาณน้อยหรือไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเลย หนักไปในเรื่องการประสานงานระหว่างหน่วยงานราชการที่ขึ้นตรงอยู่กับผมเอง ซึ่งให้ท่านเหล่านั้นมาซัปพอร์ตผู้ว่าฯ ชัชชาติ ทั้งเรื่องการจราจร อาชญากรรม หรือเรื่องรถติด ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่มาก ซึ่งสามารถบรรเทาลงไปได้ ผมใช้คำว่าบรรเทาลงไปได้จากการประสานงานที่ดีกว่า ฉะนั้น ผู้ว่าฯเองก็มีพูดคุยเสนอและมีคณะกรรมการที่เราพูดคุยกัน หน้าที่ผมคือสนับสนุนผู้ว่าให้ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าอยู่” นายกฯ กล่าว

ด้าน นายชัชชาติ กล่าวว่า ทำงานมา 1 ปี พบว่า ปัญหาของกรุงเทพฯ ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นปัญหาที่เกิดจากการประสานของหน่วยงาน เพราะ กทม.มีอำนาจค่อนข้างจำกัด เพราะฉะนั้นถ้าหากเรามีการประสานงานที่เข้มข้นและมีทิศทางที่ชัดเจนจากฝ่ายบริหาร ปัญหาหลายๆ ที่เจอก็จะบรรเทาไปได้มาก

“จึงขอกราบเรียนนายกฯ ว่า อยากให้มีคณะกรรมการที่เป็นคณะทำงานเพียงไม่กี่คน ที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น รมว.มหาดไทย รมว.คมนาคม ตำรวจ นายกฯ และเลขาธิการนายกฯ และผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นกลุ่มทำงานโดยไม่เน้นเมกะโปรเจกต์ ไม่เน้นเรื่องการลงทุน แต่เน้นเรื่องการผลักดันสิ่งที่เป็นข้อปัญหาติดขัดต่างๆ” นายชัชชาติ กล่าว


ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในส่วนการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ต้องทำไปอีกส่วนหนึ่ง อาจจะมีการแก้ไขพระราชบัญญัติ ซึ่งเป็นเรื่องระยะยาวที่ต้องดำเนินการ แต่ปัญหาเร่งด่วนเรื่องการประสานงานก็จะทำโดยคณะทำงานชุดนี้

“ผมได้เรียนนายกฯ ไปแล้วว่า คณะทำงานจะต้องไม่เกินพิซซ่า 2 ถาด อย่าให้เยอะ เพราะถ้าคณะทำงานเยอะแล้วมันไม่จบ ขอให้เป็นเรื่องสั้น ๆ ทานข้าวกัน คุยกัน และอัปเดตข้อมูลซึ่งกันและกัน ซึ่งนายกฯ ก็เร็วและเห็นด้วย ซึ่งผมเห็นว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี” นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการจราจร ทุกคนเห็นว่าเป็นปัญหา เรื่องนี้กทม.รับผิดชอบส่วนหนึ่ง ขณะเดียวกัน ถ้าดูเรื่องการก่อสร้างในพื้นที่ กทม. ก็จะเกี่ยวข้องทั้งในส่วนของรถไฟฟ้า รถไฟทางหลวง การทางพิเศษ การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง ดังนั้น การไปผลักดันด้วยตัวเราเองมันไม่ง่าย แต่ถ้าเรามีคณะกรรมการ ซึ่งสามารถสั่งการและมีทิศทางที่ชัดเจน ปัญหาเหล่านี้ก็จะบรรเทาได้มาก หรือแม้แต่การทำเรื่องรถไฟฟ้าที่มีแนวคิดในการเชื่อมโยงฟุตปาททางเท้า มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถไฟฟ้า รถประจำทาง ซึ่งทั้งหมดคือภาพของการเดินทาง รถจะหายติดได้ไม่ใช่เฉพาะแค่รถไฟฟ้า แต่จะต้องเป็นองคาพยพที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งรถประจำทาง ฟุตปาททางเท้า ทางเดินต่างๆ มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เป็นภาพรวม ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องของการลงทุน เป็นเรื่องเชิงนโยบายที่สามารถสั่งลงไปได้ หรือแม้แต่เรื่องทางเศรษฐกิจ นายกฯได้ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของซอฟต์เพาเวอร์ การสร้างอัตลักษณ์ ซึ่ง กทม.มีทั้งหมด 50 เขต ปัจจุบันสร้างเป็นซอฟต์เพาเวอร์ 50 ด้าน จึงอยากเสนอกับนายกฯ ว่า เรื่องที่อยู่อาศัย ถือเป็นเรื่องสำคัญกับคนที่มีความยากลำบาก ปัญหาปัจจุบันคือคนจนไม่มีที่ดิน หาบเร่แผงลอย ต้องมาอาศัยฟุตปาททางเท้า เนื่องจากไม่มีที่ทำกิน แต่หากทางภาครัฐนำพื้นที่ของตนเอง เช่น ใต้ทางด่วน พื้นที่หน่วยราชการที่อาจสามารถแบ่งปันให้ประชาชนทำมาหากินได้ โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม แค่การแบ่งปันพื้นที่ก็จะสามารถบรรเทาปัญหาเศษฐกิจของประชาชนได้


นายชัชชาติ กล่าวว่า อีกแนวคิดคือ เรื่องการท่องเที่ยว ปัญหาที่เราเจอและทุกคนพูดถึง คือ เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว การโกงนักท่องเที่ยว ทั้งรถตุ๊กตุ๊ก รถแท็กซี่ ไกด์ผี ที่สร้างความไม่สบายใจกับนักท่องเที่ยว ซึ่ง กทม.แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่สุดท้ายตำรวจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถ้าเราสามารถร่วมมือกันได้อย่างบูรณาการก็จะเป็นตัวแก้ปัญหาได้ดี

นายชัชชาติ กล่าว่า นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดจัดเทศกาลฤดูหนาว ช่วงปลายเดือน ธ.ค.โดยจะขอทุกภาคส่วนมาร่วมมือกัน ก็จะทำให้ กทม.มีเทศกาลฤดูหนาวอย่างยิ่งใหญ่เหมือนที่เคยมา และอยู่ในปฏิทินโลก ทุกคนจะเดินทางมาท่องเที่ยว รายได้ก็จะลงไปถึงรากหญ้า สร้างความเชื่อมั่นให้เราดีขึ้นได้ รวมไปถึงการแก้ไขปัญหา ฝุ่น PM 2.5 การควบคุมการเผาขยะ การควบคุมการใช้รถยนต์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในนโยบายอยู่แล้วก็จะเดินหน้าต่อ

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาที่ชาว กทม.บ่นกันมาก คือ เรื่องของสายสื่อสารที่เลอเทอะ รกรุงรัง ซึ่ง กทม. ทำเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) การไฟฟ้านครหลวง ซึ่ง กทม.เองมีอำนาจแค่การขอความร่วมมือ แต่ถ้ามีเชิงนโยบายที่ชัดเจน ก็จะสามารถผลักดันได้เร็วขึ้น ซึ่งหากมีคณะกรรมการชุดนี้ ก็จะเป็นชุดที่สามารถแก้ปัญหาเร่งด่วนของ กทม.ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเราไม่ได้พูดถึงงบประมาณ แต่อยากให้มีการประสานงานและเป้าหมายรวมกัน ก็จะสามารถเห็นภาพได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ตนเห็นด้วยกับสิ่งที่นายชัชชาติ พูดและเสนอมา หน้าที่ตนสนับสนุนน้องชายที่ดูแลภาคส่วนที่ใหญ่ของกรุงเทพฯ และจะช่วยสั่งการในหน่วยงานที่ผู้ว่าฯไม่มีอำนาจสั่งการโดยตรง ก็จะสั่งการผ่านคณะทำงานเล็กๆ ของเรา ถ้าเป็นชุดใหญ่ก็จะเป็น นายอนุทิน จะเป็นเรื่องการไฟฟ้าก็ทำได้หลายอย่าง ขณะที่กระทรวงคมนาคมก็มีเรื่องรถเมล์รถไฟฟ้า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็เป็นเรื่องการจราจรความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว สกัดการโกงกิน วันนี้ที่เราพูดคุยกันก็จะมีคณะกรรมการเกิดขึ้น และจะมีการนำเสนอผลงานและขั้นตอนการทำงานต่างๆให้กับสื่อมวลชนฟังอย่างต่อเนื่อง วันนี้เป็นเพียงการมาพูดคุยกันและแจ้งให้ทราบเฉยๆ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกัน นายกฯ ได้ยืนคู่กับนายชัชชาติ ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ พร้อมกับชนกำปั้นกัน และนายกฯ ได้เอามือโอบไหล่นายชัชชาติ อย่างอารมณ์ดี พร้อมหมุนตัวให้ช่างภาพได้บันทึกภาพอย่างทั่วถึง

เมื่อถามว่าจะทำงานในลักษณะพี่น้องหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ใช่ครับ ก่อนขออนุญาตจบการแถลงข่าวเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปสหรัฐอเมริกา


กำลังโหลดความคิดเห็น