ข่าวปนคน คนปนข่าว
** สับสวิตช์ หรี่แสง "บิ๊กโจ๊ก" "บิ๊กเด่น" ผบ.ตร. โอนคดีกำนันนกให้ "บิ๊กก้อง" พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ลุย
คดี"กำนันนก" คืบหน้ามาถึงจุดที่สังคมเพ่งเล็งมากที่สุดว่า "ตำรวจ" จะจัดการกับ"ตำรวจ" อย่างไร? และจะหาความจริงในคดีทั้งหมดออกมาเปิดเผยให้หายเคลือบแคลงกันอย่างไร ?
เพราะก่อนหน้านี้ คนเป็นตำรวจใหญ่ที่ควรจะทำ กลับไม่ทำ ที่ไม่ควรทำกลับทำ
มีทั้งข้อสงสัยตำรวจจะช่วยเหลือพวกเดียวกัน และ "ตำรวจใหญ่" ก็เอาแต่ "หิวแสง" จนเกิดความไม่เชื่อมั่น และ ศรัทธาต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติของประชาชน ริบหรี่เต็มที
ส่วนของ "โปลิศจับตำรวจ" ตามรายงานข่าว เห็นว่าพนักงานสอบสวนได้รวบรวมข้อมูลภายหลังได้หลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด และสอบสวนพยานหาหลักฐานเพิ่มเติม มีบางส่วนไม่สอดคล้องกับคำให้การไว้เดิม
ต่อมา "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้ข่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีตำรวจที่เข้าข่ายกระทำความผิดรวม 14 นาย เป็นกลุ่มตำรวจที่ไม่ให้การช่วยเหลือ "สารวัตรแบงค์" พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และ “รองวศิน” พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ผู้บาดเจ็บ
รายชื่อที่ปรากฏ คือ 1.พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม 2.พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท 3.จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล. กก.2 4. ร.ต.อ.นุชิต บรรณชัย รอง สว.ปทส.5 5.จ.ส.ต.อภิรักษ์ โรจน์พวง ผบ.หมู่ กก.5 ปคม.
6.ส.ต.ท.สุทธิกานต์ แซ่ล้อ ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม 7.ส.ต.ต.ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม
8. ร.ต.อ.ประสมมาศ แสงสุขมี รอง สว.จร.สภ.กำแพงแสง 9. ด.ต.ถนอม ศักดิ์มีศรี ผบ.หมู่ สภ.สามความเผือก
10.ส.ต.ต.สรรเสริญ ศรีอุบล ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม 11.ด.ต.สมโชค บัวไชย บก.สส. ภาค 7 12. ร.ต.อ.จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองนครปฐม 13. ร.ต.ท.มนัส จันทร์มีทรัพย์ (น้าไก่) รอง สว.จร.สภ.นครชัยศรี 14. ร.ต.อ.ศิริชัย รูปสวย บก.ป.
คนสำคัญที่โซเชียลฯ จับตา อย่าง "พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร" ผู้กำกับการ สน.พญาไท นั้น "บิ๊กโจ๊ก” บอกว่า จะเข้าข่ายถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ม.157 ส่วนข้อหาให้การเท็จ อยู่ระหว่างการพิจารณา
ขณะที่ พ.ต.อ.วชิรา หรือ "ผู้กำกับเบิ้ม" ผู้ปลิดชีพตัวเอง ก็มีข้อมูลว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจาก "เสียชีวิต" พนักงานสอบสวนจะระบุท้ายสำนวนว่า เสียชีวิตแล้ว จึงจะไม่รวมใน 14 นาย ที่จะถูกดำเนินคดี
ตำรวจที่ผิด เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ถูกข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 และให้การเท็จโดยไม่ละอายใจต่อเกียรติภูมิความเป็นตำรวจ
ส่วนตำรวจที่ไม่ถูกดำเนินคดีมีทั้งหมด 7 นาย รอดเพราะให้การช่วยเหลือ สารวัตรแบงก์ และพ.ต.ท.วศิน อยู่ในฐานะผู้เสียหาย
ว่าด้วยเรื่องการดำเนินคดีนี้
มีคำสั่งจาก"บิ๊กเด่น" พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ลงนามให้โอนสำนวนการสอบสวน คดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทั้งหมด เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดียิงสารวัตรแบงค์
เรียกว่า จากนี้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การสั่งการของ "บิ๊กก้อง"' พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) จะกำกับดูแลเอง
เรื่องนี้ก็ต้องชื่นชม ผบ.ตร.ที่มองเห็นปัญหาซ้อนกับปัญหา เรียกใช้บริการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ที่ขึ้นชื่อว่า"ตรงไปตรงมา" มากู้ภาพลักษณ์ตำรวจ และทำความจริงให้ปรากฏแก่ประชาชน และสังคม
“บิ๊กเด่น”ลงนามครั้งนี้มีนัยสำคัญยิ่ง!
ด้านหนึ่ง สารวัตรแบงค์ ถือเป็นสายตรงของ "บิ๊กก้อง" ส่งมาปราบ "ส่วย" ของมาเฟียนครปฐม ต้องมาจบชีวิตแบบนี้ การดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะตำรวจนอกรีต ยอมเชื่อมั่นได้ว่า "บิ๊กก้อง" ต้องไม่ละเว้นโดยเห็นแก่พวกพ้องตำรวจด้วยกัน
งานนี้ได้เห็นคดีไปจนสุดซอยแน่
จุดนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนคดี ที่ถ้าใครไถโซเชียลฯ ติดตามเรื่องนี้ก็จะเห็นว่ามีกระแสข่าวปล่อยมาทางโซเชียลฯ ตลอดวัน ว่า "คดีจะพลิก" อย่างนั้น อย่างนี้
ตามมาด้วยเรื่องที่ว่ามี "กลุ่มตำรวจ" ที่อยู่ในบ้านกำนันนกวันนั้น แม้จะถูก "ตั้งข้อหา" ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และให้การเท็จ กันหลายคน แต่จะจับได้ไล่ทัน ไม่มีล็อบบี้ช่วยเหลือกันหรือไม่ ชาวโซเชียลฯ ล้วนไม่กล้าฝากความหวังไว้กับ "บิ๊กโจ๊ก"
กลุ่มนี้ว่ากันว่า มีทั้งคนที่ "สมควรโดน" โดยเฉพาะคนที่ให้การกลับไปกลับมา พูดจาไม่ซ้ำกันสักวันแอบอ้างเป็นพระเอก ช่วยเหลือนำ "สารวัตรแบงค์" ส่งรพ.ในตอนแรก แต่ "โป๊ะแตก" เพราะกล้องวงจรปิดทำให้ชีวิตจะเปลี่ยน
ชาวโซเชียลฯ ถึงกับตั้งฉายาให้เป็นนายตำรวจที่ "แถได้โล่" โดยกล้องวงจรปิดชี้ชัด หนีเอาตัวรอดตั้งแต่วินาทีเสียงปืนดังแล้วยังจะมาอวดเป็นพระเอก
จาก"ผู้กำกับ" กลายเป็น "ผู้กำกับหนัง" ที่ไม่อายฟ้าดิน ส่วนคนๆนี้ เป็นใคร ลองตรวจรายชื่อที่ปรากฏออกมา ก็จะรู้ได้ไม่ยาก
นี่ยกตัวอย่างมาแค่ผู้กำกับคนเดียว ก็ทำให้สังคมสับสน และมีเสียงหรือเสียงเล่าอ้างยังจะช่วยเหลือกันอีกโดยเฉพาะตำรวจที่พรีเซนต์ตัวเองเป็นคนดี แต่ความจริงยัง "เลว" อย่างคาดไม่ถึง
เมื่อ “บิ๊กเด่น” ผบ. ตร. สั่งโอนคดีสำคัญให้สอบสวนกลางคุม เท่ากับสับสวิตช์ หรี่แสง "บิ๊กโจ๊ก" ลง ให้ตำรวจได้ทำหน้าที่ตำรวจ “บิ๊กก้อง” เป็นคนที่ใช่ ถูกคน ถูกเวลา อะไรที่มันควรจะเป็น ก็น่าเป็นไป
กำนันนก ไปจนถึงตำรวจรับส่วย ต้องรับผลในสิ่งที่ตัวเองทำ ตามที่พระท่านว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" กฎแห่งกรรมหนีไม่พ้น
ที่สำคัญจะได้ใจคนในสังคมกลับคืนมา นี่คือผลกรรมดีที่ “บิ๊กเด่น”ไม่ต้องรอ
**งานนี้ว้าวุ่นแน่ เมื่อ"เด็จพี่"ได้เล่นบทถนัดไล่ปะฉะดะ "สมชัย" - "ก้าวไกล"
มาจะกล่าวบทไปถึง "เด็จพี่" พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เพลานี้ดูกระเหี้ยนกระหือ ขยันขันแข็งเป็นพิเศษ พร้อมปะฉะดะกับใครก็ตามที่แหลมมาแตะ "เพื่อไทย"
แถมการออกโรงมาแต่ละครั้ง "เด็จพี่" อดีตพระเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ไม่มีทำงงๆ งวยๆ ร่ายรำลิเกให้เสียเวลาเหมือนคราวทำหน้าที่โฆษกพรรค
ดูเอาเถิด กรณีของ "สมชัย ศรีสุทธิยากร" อดีตกกต. ที่วิพากษ์คนเพื่อไทย "เด็จพี่" เปิดฉากด้วยบทบู๊ดุดัน
เรื่องของเรื่องก็มาจากควันหลง ที่ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีคำสั่งแต่งตั้งคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จำนวน 9 คน ซึ่งมีชื่อ "พิชิต ชื่นบาน" ทนายคนดังด้วย
“สมชัย” นั้นฟาดพิชิตไปเต็มๆว่า เคยต้องคำพิพากษาในคดีละเมิดอำนาจศาล ขณะที่ “พิชิต” มอบหมายให้"เด็จพี่" ฟ้องร้องเอาผิดกับ “สมชัย” เรียกค่าเสียหายเสียชื่อ เป็นเงิน 50 ล้าน
งานนี้ “สมชัย” ก็ไม่อยู่เฉย ฟาดกลับไปอีกดอก โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า “ฟ้องมาก็ฟ้องกลับครับ ไม่ว่าอะไร”
พร้อมทั้งขยี้ปมคุณสมบัติ พิชิต “เคยสมัครส.ส. นั่นคุณสมบัตินึง คุณสมบัติรัฐมนตรี ก็อีกคุณสมบัตินึง ไม่เหมือนกันคนละมาตรา จะมาอ้างว่าเคยสมัคร ส.ส. แล้วไม่มีปัญหาไม่ได้...
“อ่านรัฐธรรมนูญให้ครบก่อนมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้วย"
ข้างฝ่าย "เด็จพี่" พร้อมพงศ์ โพสต์เฟซบุ๊ก สวนตามมา บอกว่า “พิชิต” มอบอำนาจให้ตัวเองฟ้องคดีฐานหมิ่นประมาทต่อ “สมชัย” โดยที่สมชัยโต้มาว่า "ฟ้องมาก็ฟ้องกลับ"นั้น เห็นว่า สมชัยรออ่านคำฟ้องที่จะไปยื่นก่อนดีไหม ว่าพิชิต ฟ้องเรื่องอะไร และการที่ไล่พิชิต ไปอ่านรัฐธรรมนูญ น่ะ ตัวเองระวังให้ดี อ่านกฎหมายห้ามให้ชัด ให้ดีแล้วกัน คำฟ้องจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า "ใครโง่เขลาเบาปัญญา" หรือดีแต่จ้อรายวัน รอบนี้เอาตัวให้รอดแล้วกัน กับ ep1 ยังมี ep2 ระหว่างทำหน้าที่ กกต. ว่า ใครที่น่าจะมีลักษณะไม่ซื่อสัตย์ สุจริต เดี๋ยวเที่ยววิจารณ์ชี้นิ้วใส่คนอื่นไปทั่ว จะเข้าตัวเอง ทำนอง “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง”
ไม่ใช่แค่ฟาดกับ “สมชัย”เท่านั้น “เด็จพี่” ยังเปิดแนวรบ ปะทะกับก้าวไกลอีกด้าน
ผลพวงจากกรณี "เพชร" กรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และ รองโฆษกพรรคก้าวไกลกรีด "เด็จพี่" ให้ระวังเสียผู้เสียคน ที่มาขยี้ปมฝากเลี้ยง "หมออ๋อง" ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เพื่อรักษาเก้าอี้รองประธานสภาฯ พ่วงคว้าผู้นำฝ่ายค้าน เพราะไม่จริง
“เด็จพี่”ระบุว่า "ก......การละคร ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง จะใช้เทคนิคทางการเมือง เพื่อรักษาอำนาจ พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ธาตุแท้น่าจะอุดมการณ์กำมะลอ พรรคก้าวไกล ไม่ควรทำการเมือง น่าจะเหมือนเด็กเล่นขายของ ความสง่างาม ทางการเมืองที่ตรงไปตรงมา ตามสโลแกนของก้าวไกล หรือพูดจริง ทำจริง ซึ่งก้าวไกลคงไม่ลืม ห่วงว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
นี่ก็เป็นบทถนัดของ "เด็จพี่" ซึ่งก็ต้องรอชมความสนุกสนานกัน ตอนต่อไป
ที่แน่ๆ บรรดา "แม่ยก" เพื่อไทย ได้เห็นบทบาทแบบนี้ของ "เด็จพี่" ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจนักหนา แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า "สมชัย" ก็ไม่ธรรมดา ขณะที่ "ก้าวไกล" มีทัพโซเชียลฯ ของ"ด้อมส้ม" พร้อมยกขบวน"ทัวร์ลง" ได้ตลอดเวลา
ใครจะอยู่ ใครจะไป ได้ว้าวุ่นกันแน่ๆ เลยทีนี้