“เศรษฐา” รับเรื่อง ม็อบผู้เดือดร้อนสร้างเขื่อนห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ขอช่วยเหลือที่ทำกิน-เงินชดเชย แวะ ถามชาวนาขอนแก่น ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ขออดใจรอดิจิทัลวอลเล็ต เตรียมชง ครม.ลดค่าครองชีพ ค่าไฟ ค่าน้ำมันทันที
วันที่ 8 ก.ย. 66.ภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ แวะทานอาหารเช้าที่ร้านเอมโอช อ.เมืองขอนแก่น ก่อนจะเดินทางต่อไปยังเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญ พื้นที่ทำกิน และการบริหารจัดการน้ำ กับประชาชนที่อยู่โดยรอบ
โดยทันทีที่มาถึง ขบวนรถผ่านกลุ่มประชาชน กว่า 500 คน เป็นชาวบ้านที่มาถือป้ายขอให้ช่วยแก้ปัญหาคนที่ได้รับผลกระทบเรื่องที่ดินทำกินจากโครงการ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ในพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดอุบลราชธานี มาถือป้ายเรียกร้อง
โดยขบวนรถนายกฯไม่ได้หยุดแวะ แต่ขับเลยขึ้นมายังจุดที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ โดยนายเศรษฐารับฟังสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากกรมชลประทาน ก่อนพูดคุยรับฟังปัญหาจากตัวแทนท้องถิ่น ซึ่ง นายเศรษฐา ยืนยัน การลงทุนในภาคการเกษตรเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และหากรัฐบาลลงทุนทำให้ไม่ท่วมไม่แล้ง เชื่อว่าจะช่วยเกษตรกรและทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงมารับหนังสือจากกลุ่มชาวบ้านแล้ว
จากนั้น เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ พบว่า นายเศรษฐาได้จอดรถลงมารับฟังเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกลุ่มดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยชาวบ้านเรียกร้อง ว่า ไม่ได้รับเงินชดเชยการย้ายที่อยู่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน รวมถึงขอเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินของประชาชน โดยรอคอยรัฐบาลเพื่อไทยมานานแล้ว
ซึ่ง นายเศรษฐา กล่าวสั้นๆ ว่า ได้ครับ และได้เดินพบปะทักทายประชาชน ทำให้ชาวบ้านพอใจปรบมือส่งเสียงดีใจ
โดยระหว่างการเดินทางจากเขื่อนอุบลรัตน์ ไปจังหวัดอุดรธานี นายเศรษฐาได้แวะพูดคุยสอบถามปัญหาการทำนากับนายอุดร พื้นทอง อายุ 65 ปี ที่กำลังหว่านปุ๋ยลงในแปลงนาอยู่ข้างทาง สอบถามว่า ลุงมีนากี่ไร่ ทำนาได้ราคาเท่าไหร่ นายอุดร บอกว่า แต่ขาดทุน เรื่องการเลี้ยงวัว ในช่วงโควิดโรคระบาดทำให้วัวตาย เป็นหนี้ 3,000,000 บาท ส่วนราคาข้าว ตอนนี้ค่อนข้างลำบากอยู่ที่ 11 บาทต่อกิโลกรัม อยากได้ 16 บาท ซึ่งในสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้ราคาที่ 15 บาท ก็พออยู่ได้ บางปีน้ำแล้งแต่ปีที่แล้วน้ำท่วมข้าวตายหมด ทำนาไม่ได้กำไร แต่เป็นชาวนาต้องทำ ไว้กินเอง จะใช้ที่ปลูกมันสำปะหลัง หรือปลูกอ้อยก็ไม่ได้
นายเศรษฐา กล่าวกับ นายอุดร ว่า การเกษตรต้องแม่นยำ ต้องทดสอบค่าดินและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม หากรู้ค่าดินจะสามารถ ทำให้ได้ผลผลิตได้ดีขึ้น โดยเน้นการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ผลผลิตต่อไร่ ได้ข้าว 400-500 กิโลกรัม ถือว่าน้อย เพราะมีบางประเทศได้ถึงรายละ 700 กิโลกรัม
นายกฯ ย้ำว่า ต้องเน้นรายได้สุทธิ อย่างที่ลุงอุดร บอกว่า ได้ 1,000 บาทต่อไร่ หากมีอยู่ 10 ไร่ปลูกปีละ 2 ครั้ง ก็ได้ 24,000 บาท เฉลี่ยรายได้ต่อเดือนคือน้อยมาก เพราะฉะนั้นหากเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นถ้าเกิดราคาข้าวดี และหากความสามารถรัฐบาลในการเจรจาการค้าข้าว เปิดโควตาให้มากขึ้นได้ เชื่อว่าก็จะดีขึ้น พร้อมขอให้อดใจรอ ดิจิทัล วอลเล็ต รัฐบาลเตรียมลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดค่าไฟ ค่าพลังงาน ค่าน้ำมัน ขอให้รออีกนิด ใน ครม.นัดแรกที่จะถึงนี้ นายอุดร ขอให้รัฐบาลใหม่ ขอให้นายกฯ ช่วยหน่อย จะตายแล้ว จากนั้นนายเศรษฐาและคณะ เดินทางต่อไปยังจังหวัดอุดรธานี
