ข่าวปนคน คนปนข่าว
**พะยี่ห้อ“ธรรมนัส”เป็นเหตุ เกษตรกรนอนผวา หวั่นปลุกผี 3 สารพิษกลับมา
จากรายชื่อรัฐมนตรีคนใหม่ที่มีข่าวจะเข้ามากำกับดูแลกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาล “เศรษฐา 1” ทอดตาดูทั่วทั้งแผ่น ก็ต้องบอกว่า มีทั้ง “อึ้ง ทึ่ง เสียว” ปะปนกันไป
เนื่องเพราะ หลายๆคน เป็น“คนหน้าเดิม”ที่มี “โปรไฟล์”จัดอยู่ในขั้นเป็นตำนาน “รัฐมนตรีเต้าหู้ยี้” แล้วยังมีมาเพิ่มเติมด้วย “รัฐมนตรีมีตำหนิ” อย่าง “ทนายถุงขนม” อยู่ร่วมคณะ
พอชาวบ้านชาวช่องเห็นชื่อรัฐมนตรีเหล่านี้นอกจากจะร้องยี้ ยังทำใจให้ “ไว้วางใจ” ไม่ลง ยิ่งเป็นกระทรวงหลักๆ ที่เป็นหัวใจของการขับเคลื่อนประเทศ และมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่กับประชาชน ยิ่งขวัญหนีดีฝ่อ
ถามว่ารัฐมนตรีคนไหน กระทรวงใด อยู่ในข่ายถูกจับตามากที่สุด งานนี้เดากันไม่ยาก
แว่วว่า สปอตไลต์ทุกดวงของเครือข่ายเกษตรกร ตอนนี้โฟกัสไปที่ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พรรคพลังประชารัฐ พรรคของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้แบ่งสันปันส่วนมา
ถกเถียงกันหนักว่า “ธรรมนัส” เหมาะสมแล้วหรือที่จะมานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญเช่นนี้
วันก่อน เกษตรกรพะเยาถิ่นของ “ธรรมนัส” ขนกันมาให้กำลังใจคนกันเองว่า เหมาะสมครับพี่ ดีครับผม
แต่เกษตรกรที่อื่นๆ ก็แซวกันว่า “ธรรมนัส” มาจะดีต่อเกษตรกรบางประเภทเท่านั้น แค่ “ชาวไร่มัน” อ๊ะป่าว!
ต้องไม่ลืมว่า “ธรรมนัส พรหมเผ่า” เคยถูก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถีบพ้นเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ มาแล้ว
ในตอนนั้นใครๆก็คิดว่า “ธรรมนัส” จบเห่ไปแล้ว ที่ไหนได้ หลบเลียแผลไปเปิดพรรคใหม่ แต่ไปไม่รอด กลับมาพึ่งใบบุญ “บิ๊กป้อม” ที่พปชร. เหมือนเดิม แถมได้รับมอบหมายให้เป็นแม่ทัพจับศึกเลือกตั้งอีกด้วย
กลับมาครั้งนี้ “ธรรมนัส” มาใหม่ใหญ่บิ๊กเบิ้ม ได้รับการอวยยศขึ้นลิฟต์เป็น “ว่าการ” แต่ พะยี่ห้อผู้กอง ที่มาพร้อมวลีในตำนาน “มันคือแป้ง” สะท้อนว่า ตัวตนเป็นผู้ที่มี “วรีกรรม” โดดเด่นกว่าผลงาน
เมื่อมานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่มีงบประมาณมากเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ เกษตรกร จึงนอนผวา
แว่วว่า เกษตรกรในหลายพื้นที่ เริ่มเคลื่อนไหวพูดคุยกันในกลุ่ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรคนใหม่จะบริหารช่วยเหลือเกษตรกรในแนวทางไหน เรื่องหลักๆ สำคัญ เช่น เรื่องการบริหารจัดการน้ำ การควบคุมราคาต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ทั้งปุ๋ย ยาฆ่าแมลง น้ำมัน เมล็ดพันธุ์ ที่ราคาแพงสะสมต่อเนื่องมาหลายปี จนเกษตรกรเป็นหนี้สินท่วมท้น ลืมตาอ้าปากไม่ได้ จะมีนโนบายการทำงานอย่างไร ?
ทั้งหลายทั้งปวง ถ้ารัฐมนตรีบริหารจัดการไม่ดี และถ้ายิ่งมีข้อครหา บนผลประโยชน์ของงบประมาณแผ่นดินก็ดี การวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง กรม กอง ต่างๆ ภายในกระทรวงที่มักมีข่าวอื้อฉาวกันบ่อยๆ
หรือ แม้กระทั่งผลประโยชน์จาก “ทุนข้ามชาติ” ที่พร้อมเปย์ ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง สารพิษต่างๆ ที่มีเดิมพันมูลค่ามหาศาล
ถามกันดังๆ จะไว้วางใจ “ธรรมนัส” เอาอยู่มั้ย?
งานนี้กระดูกสันหลังของชาติเขาเป็นห่วงกันหนักมาก หวั่นหวาดว่า เมื่อเป็น “ธรรมนัส” ดูแล จะยังคงยืนหยัดอยู่ข้างเกษตรกร หรือจะโอนอ่อนตามทุนใหญ่ที่พยายามรุกให้ปลดล็อก “แบน 3 สารพิษ” ที่ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ จับลงหม้อถ่วงวิญญาณไว้
ปัญหาสารเคมีเกษตร 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต กว่าจะจับลงหม้อได้นั้น ยากเย็นแสนเข็ญ เพราะฤทธิ์นายทุนเยอะ ล็อบบี้กันสุดลิ่มทิ่มประตูไม่มีพัก ทั้งๆ ที่เป็นสารเคมีที่ทำให้เกษตรกร ตายผ่อนส่ง อันตรายมีผลต่อสุขภาพ และทำลายภาวะแวดล้อมมาช้านาน
จับตาดูดีๆ เขาว่า ผี 3 สารพิษตนนี้ อาจจะถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง! ในยุคสมัยของ “ธรรมนัส”
เรื่องนี้เรื่องเดียวแค่คิดก็ขนลุกขนพองสยองเกล้าแล้วเจ้าข้าเอ๊ย!
** ปิดฉาก 3 ป. “บิ๊กป้อม” ลาออกส.ส. ปิดบ้านป่ารอยต่อ
หลังผ่านการเจรจาอย่างเข้มข้น ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลถึงการจัดสรรโควตารัฐมนตรี และการจัดวางตัวบุคคลที่จะไปกำกับดูแลกระทรวงต่างๆ ถึงวันนี้ชัดเจนแล้วว่าจะมีการยื่นทูลเกล้าฯ “ครม.เศรษฐา1” ในวันที่ 1 ก.ย.นี้
วันก่อน (30ส.ค.) “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้จัดอำลาตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ที่นั่งมา 9 ปีเต็ม โดยเชิญสื่อมวลชน รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน มี “นริศ ขำนุรักษ์” รมช.มหาดไทย “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูง ร่วมด้วย บรรยากาศชื่นมื่น
“บิ๊กป๊อก” บอกว่าหลังจากนี้ คงต้องพักผ่อน ดูแลสุขภาพในช่วงท้ายของชีวิตให้ดี ไม่ให้มีปัญหาสุขภาพมาก ไม่ได้ไปเลี้ยงหลาน เพราะลูกมีครอบครัวแล้ว แต่ไม่มีหลาน
ขณะที่วันวาน (31ส.ค.) “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ก็เข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล และเลี้ยงอาหารมื้อกลางวันแก่นักข่าว เป็นการอำลาทำเนียบฯเช่นกัน โดย“บิ๊กตู่” บอกว่าจะเข้ามาทำงานที่ทำเนียบฯ เป็นวันสุดท้าย แม้จะยังต้องรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ฯ ก็ตาม แต่จะไปนั่งทำงานที่บ้าน เพื่อเปิดโอกาสให้นายกฯและรัฐมนตรีชุดใหม่ ได้เข้ามาจัดเตรียมห้องทำงาน
บรรยากาศการอำลาตำแหน่ง “บิ๊กตู่” ที่เป็นนายกฯมา 9 ปี ก็เป็นไปด้วยความประทับใจเช่นกัน
ส่วน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เก็บตัวเงียบ หลังจากที่รัฐสภา โหวตเห็นชอบให้ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยวันนั้น “บิ๊กป้อม” ไม่ได้เข้าสภาไปโหวตด้วย
เรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งรอบนี้ แม้จะไม่เคยออกปาก แต่ก็เป็นที่รับรู้กันว่า “บิ๊กป้อม” มีความใฝ่ฝันที่จะนั่งเก้าอี้ตัวนี้สักครั้ง เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเอง และวงศ์ตระกูล
ว่ากันว่า คืนวันที่ 21 ส.ค.ก่อนวันโหวตนายกฯ “บิ๊กป้อม” ได้เรียก “บิ๊กตู่” ไปหารือด่วนที่บ้านป่ารอยต่อฯ เพื่อเจรจาใช้ความเป็นพี่น้อง ชักชวนให้ร่วมรบในเกมการเมืองครั้งสำคัญ ด้วยการให้สว.ในสาย“บิ๊กตู่” งดออกเสียงเพื่อบล็อก “เศรษฐา” ไม่ให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ “บิ๊กตู่” ไม่โอเค... ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น คือมีเสียง ส.ว.ในสายบิ๊กตู่ สนับสนุน “เศรษฐา”กว่า 100 เสียง ทำให้คะแนนเห็นชอบนายกฯท่วมท้นไปถึง 482 เสียง...แล้วจากวันนั้น “บิ๊กป้อม” ก็เก็บตัวเงียบ
กระทั่งล่าสุด วานนี้ (31ส.ค.) “บิ๊กป้อม” ต้องไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอนักข่าว เมื่อถูกถามถึงเรื่องอนาคตทางการเมือง “บิ๊กป้อม” บอกว่า จะไม่เล่นการเมืองแล้ว จะลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อในเร็วๆ นี้ เพื่อให้บัญชีรายชื่อในลำดับถัดไปคือ “สันติ พร้อมพัฒน์” เลขาฯพรรค ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส. แต่ตัวเองจะยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอยู่
“บิ๊กป้อม” บอกว่าเรื่องการเมืองเพื่อชาตินั้น ตนเองทำมาเยอะแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นบ้าง ต่อไปนี้จะขอทำเพื่อพรรคบ้าง
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า หลังจากนี้คงจะมีเวลาทำผัดซีอิ๊วอร่อยๆ เลี้ยงลูกน้องที่บ้านป่ารอยต่อฯ แต่ “บิ๊กป้อม” ตอบเสียงดังว่า “บ้านป่าฯ ปิดแล้ว” ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าปิดจริงหรือ ทำไมจึงปิด “บิ๊กป้อม” ตอบว่า “ทำแต่มูลนิธิฯ อย่างเดียว” จากนั้นก็อวยพรสื่อฯ ขอให้โชคดีทุกคน
เป็นอันว่า “พี่ใหญ่แห่ง 3ป.” ก็ปิดฉากไปอีกคน แม้ภาพที่ออกมาจะดูไม่ค่อยสวยงามเหมือน “บิ๊กป๊อก-บิ๊กตู่” แต่ก็ถือว่า ได้ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ นั่นคือสามารถส่ง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องเลิฟ ขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถมยังผลักดัน “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ลูกรัก ขึ้นนั่งเก้าอี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สำเร็จ
“3ป.”ที่เคยยิ่งใหญ่ในวงการเมืองมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ถึงวันนี้ก็เข้าสู่ช่วงโรยรา และคงเลือนหายไปตามกาลเวลา