“ยิ่งชีพ” นำทีม “ไอลอว์” ยื่น 2 แสนรายชื่อ ทำประชามติร่าง รธน.ฉบับใหม่ต่อ กกต. หวัง กกต.เร่งตรวจสอบรายชื่อยื่น ครม.ทันก่อนประชุมนัดแรก พร้อมเกาะติด
วันนี้ (30 ส.ค.) โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw พร้อมเครือข่ายนำโดย นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำกลุ่มราษฎร และเครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ นำรายชื่อประชาชน 212,139 คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอคำถามทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มายื่นต่อ กกต.
นายยิ่งชีพ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประชาชนได้พิสูจน์และประกาศออกมาชัดๆ ว่า อุปสรรคในการจัดการทางธุรการ ไม่สามารถหยุดยั้งการออกสิทธิออกเสียงเพื่อจะเสนอในสิ่งที่เราต้องการได้ จากปรากฏการณ์นี้เราใช้เวลาเพียงนิดเดียว ซึ่งแปลว่ายากกว่านี้เราก็ทำได้และพร้อมจะทำ ใครที่รู้สึกว่ากิจกรรมครั้งนี้ทำให้มีความหวัง ประเทศและประชาชนไปต่อได้ ขอให้คิดว่าท่านมีความหวังจากการกระทำของท่านเอง ไม่ใช่ iLaw หรือเครือข่าย แต่เป็นทุกคนที่ร่วมมือกัน
นายยิ่งชีพ กล่าวด้วยว่า ใช้เวลา 3-4 วัน ในการคีย์รายชื่อประชาชนลงในระบบไมโครซอฟท์เอ็กเซล จึงหวังว่า กกต.ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบจะเร็วกว่าเรา และอยากถาม กกต.ว่าจะตรวจสอบรายชื่อเสร็จกี่โมง
“เรารออยู่อย่าช้ากว่าเรา เพราะเราอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง ยื่นแล้ว ท่านสามารถตรวจสอบเสร็จได้เลย และนำข้อเสนอนี้ไปวางที่โต๊ะก่อนการประชุม ครม.นัดแรก นี่คือสิ่งที่เราอยากเห็น ซึ่งครั้งนี้ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราต้องออกแรงเพื่อไปสู่เป้าหมาย คือวันที่เรามีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เรายังคงต้องออกแรงอีกเรื่อยๆ และตราบใดที่ยังไปไม่ถึง จะมีกิจกรรม มีความท้าทายก็จะพยายามฝ่าฟันไปให้ถึง”
ด้านตัวแทนเครือข่าย กล่าวว่า มองว่า การเข้าชื่อครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะทุกคนที่ต้องการประชาธิปไตยต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 โดยให้มีการร่างใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คำถามที่จะทำประชามติจะต้องถูกเสนอโดยประชาชน เพราะที่ผ่านมาคนที่มีอำนาจในทางการเมืองเป็นผู้กำหนดคำถาม ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนจะเป็นผู้กำหนดคำถามเอง และเข้าชื่อเสนอโดยประชาชนเอง ซึ่งจริงๆ เราต้องการเพียงแค่ 50,000 รายชื่อ แต่กลับได้รายชื่อมา 212,139 รายชื่อ ตรงนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนำไปสู่การยกร่างหนทางที่เราจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังอีกยาวไกล เราคาดหวังว่า หลังจากที่ได้ส่งรายชื่อให้ กกต.แล้ว กกต.จะทำงานอย่างรวดเร็วและส่งให้กับ ครม. และเราจะได้ทำประชามติตามคำถามที่เราได้ออกแบบมา
นอกจากนี้ ยังเห็นว่า การร่วมลงชื่อครั้งนี้เป็นการแสดงพลังของประชาชนอย่างมหาศาล ตอนแรกคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ 50,000 รายชื่อ เมื่อไม่สามารถใช้การลงชื่อผ่านระบบออนไลน์ได้ แต่ประชาชนได้แสดงพลังให้เห็นว่าไม่ได้หายไปไหน คนที่ต้องการประชาธิปไตยยังมีอีกมาก และได้แสดงให้เห็นแล้วผ่านการลงชื่อในครั้งนี้ เราจึงคาดหวังที่จะส่งไม้ต่อให้ กกต.ร่วมเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“แม้วันนี้เราจะได้มายื่นรายชื่อต่อ กกต.แล้ว ตามกฎหมายให้ กกต.ตรวจสอบรายชื่อไม่เกิน 30 วัน แต่ก็ไม่มั่นใจว่า กกต.จะปฏิบัติหน้าที่ได้เร็วมากแค่ไหน และเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วจะต้องส่งรายชื่อไปยังสำนักเลขาธิการ ครม. เพื่อตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ตรงนี้ไม่มีกรอบเวลาชัดเจนว่าต้องเสร็จภายในเมื่อใด และไม่ทราบว่าสำนักเลขาธิการ ครม.มีการออกระเบียบแล้วหรือยัง และเราก็ไม่มั่นใจเมื่อสำนักเลขาธิการ ครม.ได้รับรายชื่อแล้ว จะต้องส่งไปตรวจสอบกับหน่วยงานไหนอีก หรือต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญเหมือนเรื่องอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งเราจะติดตามอย่างต่อเนื่อง”
