สภาไม่ยอมเลื่อนญัตติถกคำถามประชามติแก้ไข รธน. ของพรรคก้าวไกล ขึ้นมาพิจารณาก่อน แม้ “ไอติม” อ้างคุยทุกพรรคแล้ว ด้าน “ครูมานิตย์” ขออย่ามาพาดพิงเพื่อไทย ประชดพรรคท่านเป็นผู้ที่เจริญแล้ว ขอนิมนต์อย่ามายุ่งกันอีก
วันนี้ (30 ส.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทยนราษฎร นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้เปลี่ยนระเบียบวาระ โดยนำญัตติขอให้สภาพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งถูกบรรจุในเรื่องที่ค้างพิจารณาลำดับที่ 33 ขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาวาระอื่นๆ ที่กำหนดไว้ในระเบียบวาระ
นายพริษฐ์ อภิปรายว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่สภาต้องทำให้เกิดความชัดเจน หลังจากที่สังคมถกเถึยงในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะใช้เวลาดำเนินการจากวันนี้ จนถึงมีรัฐธรรมนูญใหม่ คือ 2 ปี ซึ่งการเสนอคำถามประชามติเดียวกันที่หลายพรรคการเมืองเคยลงมติเห็นชอบแล้วในสภาชุดที่ผ่านมา เมื่อ 3 พ.ย. 65 ดังนั้น การเสนอของตนเพื่อยืนยันหลักการของสภา ที่เคยลงมติมาแล้วในรอบที่ผ่านมา
“มีความจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน โดยใช้เวทีของสภา เพราะ ครม.ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะทำได้โดยเร็วหรือไม่ แม้จะระบุว่าจะทำเรื่องในนัดแรกที่มีการประชุม หรือหาก ครม.ทำได้โดยเร็วต่อการจัดทำประชามติหรือไม่ อย่างไร บทบาทในสภา ที่มีทุกพรรคต้องถกเถียงให้ตรงกัน ในคำถามประชามติที่ควรออกแบบให้ดี” นายพริษฐ์ อภิปราย
ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าว มีผู้เห็นคัดค้าน โดย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทา พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายคัดค้าน เนื่องจากว่า เรื่องที่บรรจุในวาระพิจารณาลำดับก่อนหน้านั้น มีความสำคัญและเร่งด่วนต่อการแก้ปัญหาให้เกษตรกร เช่น ผู้เลี้ยงกุ้ง ซึ่งตนเสนอและบรรจุไว้ในลำดับที่ 3 อย่างไรก็ดี การเลื่อนระเบียบวาระตนไม่ขัดข้อง หากทุกพรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกัน ดังนั้น ตนไม่เห็นด้วยและต้องการให้คงระเบียบวาระไว้เช่นเดิม
อย่างไรก็ดี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายเพื่อหาทางออกว่า ในวันที่ 31 ส.ค. ทราบว่าจะมีการเสนอข้อหารือเพื่อปรึกษาปัญหาของประชาชนในประเด็นเรื่องสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ดังนั้น อาจใช้โอกาสเพื่อหารือถึงประเด็นกุ้งร่วมด้วยได้ หาก นายอรรถกร รับปากว่า ในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) จะพิจารณาญัตติเรื่องคำถามประชามติ พรรคก้าวไกลพร้อมถอนญัตติของนายพริษฐ์เพื่อเปลี่ยนระเบียบวาระ
ขณะที่ นายอรรถกร ตอบโต้ว่า ตนไม่สามารถให้คำสัญญาได้ เพราะตัดสินใจเองไม่ได้ หากจะเปลี่ยนวาระ ต้องหารือกันจะสำเร็จหรือไม่ ตนไม่รับรอง และขณะนี้มี ส.ส. หลายคนที่ยื่นญัตติไว้ ดังนั้น อย่าแซงดีกว่า อย่างไรก็ดี มี ส.ส.จากกพรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคภูมิใจไทย สนับสนุนนายอรรถกร และขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระ ทำให้ต้องใช้การลงมติตัดสิน อย่างไรก็ดี แม้ นายวันมูหะมัดนอร์ กดสัญญาณให้แสดงตนแล้ว แต่ยังมีการอภิปรายพาดพิงไปมา ระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งพรรคก้าวไกล ย้ำว่า ได้เดินคุยกับพรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติแล้วไม่มีใครขัดข้อง
ทั้งนี้ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ขอใช้สิทธิพาดพิงว่า “อีก 1-2 สัปดาห์ ครม.จะมีการประชุมนัดแรกแล้ว ดังนั้น ไม่อยากให้หารือซ้ำซาก อย่าพาดพิงพรรคเพื่อไทย พรรคท่านที่เป็นผู้เจริญแล้ว จะทำอะไรก็ทำ แต่ขอนิมนต์อย่ามายุ่งกับเขา”
จากนั้นได้มีการลงมติ โดยผลการลงมติพบว่า เสียงข้างมาก 262 เสียง ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนระเบียบวาระ ต่อ 143 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวตอนท้ายว่า ตนเห็นด้วยกับการเลื่อนหรือไม่เลื่อนระเบียบวาระ แต่ขณะนี้ยังไม่มีคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ทำให้ไม่มีการหารือร่วมกัน ทั้งนี้ การหารือในห้องประชุมถือว่าทำได้ แต่การใช้เวทีวิปจะทำให้ไม่เสียเวลาที่ประชุม.