เลขาฯ กกต. ยัน “พงศธร” ก้าวไกลเป็นผู้สมัคร ส.ส. ตาม กม.แล้ว ชี้นั่งควบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่เป็นปัญหา สามารถแจ้งไม่ขอถูกเรียกได้ แต่รายละเอียดสภาต้องหารือ ปัดตอบเลี่ยงภาษีรอสรรพากรตรวจสอบ
วันนี้ (29 ส.ค.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวกรณี นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส. ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ยังมีชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ว่า ขอชี้แจงในหลักกฎหมายก่อนว่า มีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า เมื่อ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งแล้วก็ให้สิ้นสุดความเป็นผู้สมัคร นั่นหมายความว่า ผู้สมัครสามารถไปสมัครรับเลือกตั้งถ้ามีการเลือกตั้งแทนในที่ว่างได้ แต่ ณ วันสมัครต้องมีคุณสมบัติไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด “หมายความว่า ทุกคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง ที่ กกต.ส่งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรตอนนี้ไม่มีสถานะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว แต่ท่านก็เป็นผู้ที่อาจจะถูกเรียกให้เป็นผู้แทนราษฎรในลำดับถัดไปได้ถ้ากรณีตำแหน่งของพรรคการเมืองนั้นว่างลงตามมาตรา 105(2) ดังนั้น ผู้สมัครที่ระยองสามารถสมัครรับเลือกตั้งได้ จริงๆ เมื่อพ้นจากความเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขาก็เป็นคนธรรมดา แต่ขอให้ ณ วันลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ของผู้สมัคร ส.ส.”
เมื่อถามว่า หากถึงคิวเรียกนายพงศธร มาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะสามารถเป็นได้หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า จะมีเรื่องของการสละสิทธิ์ ขอถอนชื่อ หรือไม่ก็แสดงเจตจำนงไม่ขอเป็นผู้ถูกเรียก ส่วนจะต้องแสดงความจำนงเป็นรายลักษณ์อักษร หรือหลักฐานอย่างไร รวมถึงต้องแสดงความจำนงก่อนจะเป็นสส.หรือไม่นั้นเป็นประเด็นที่สภาผู้แทนราษฎรต้องพิจารณา แต่วันนี้ ในฐานะของผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขาได้ทำถูกต้องตามระเบียบการรับสมัครรับเลือกตั้ง
เมื่อถามต่อว่า ถ้านายพงศธรไม่ได้รับเลือกตั้งจะยังถือว่ายังเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ในมาตรา 105(2) บอกว่าให้เรียกผู้อยู่ในบัญชี แต่เจ้าตัวแสดงความจำนงว่า จะไม่ขอเป็นผู้ถูกเรียกเป็น ส.ส. สามารถข้ามชื่อได้เลย แต่ก็ต้องมาดูว่า ความต้องการของคนกับกฎหมายเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นคนประเด็นกับการเป็นผู้สมัครเพราะวันนี้เราพิจารณาเรื่องการเป็นผู้สมัครเท่านั้น ดังนั้น วันนี้ ยืนยันว่าในประเด็นนี้ไม่ถือว่าเป็นปัญหาของผู้สมัคร และกรณีแบบนี้ไม่ได้เกิดเป็นกรณีแรก เป็นเรื่องที่เราดำเนินการตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ว่า เมื่อ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งไปแล้ว การเป็นผู้สมัครก็สิ้นสุดลง
ส่วนกรณี นายพงศธร เป็นผู้สมัครที่ไม่เสียภาษีย้อนหลัง 3 ปี นายแสวง กล่าวว่า การเสียภาษีไม่ใช่คุณสมบัติต้องห้ามแต่เป็นเงื่อนไขในการสมัครที่ทุกคนจะต้องยื่น ถ้าไม่ได้เสียก็ต้องยื่นแบบรับรองตนเองว่าไม่ได้เป็นผู้เสียภาษีเพราะอะไร ซึ่งกรณีของระยองผู้สมัครรับรองตัวเองว่า เขาไม่ได้เป็นผู้ต้องเสียภาษี ซึ่ง กกต.ระยองได้รับรองเป็นผู้สมัครแล้ว ถือว่า ทำถูกต้องตามกระบวนการและรูปแบบของระเบียบสำนักงาน กกต.
เมื่อถามว่า สังคมสงสัยว่าเป็นผู้ที่มีรายได้จากหลายทาง จะมีการหลบเลี่ยงไม่เสียภาษีหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เป็นคนละประเด็น การเสียภาษีนั้นเป็นเรื่องของสรรพากร แต่ตอนนี้นี้เขาได้ทำตามแบบการลงสมัครรับเลือกตั้ง
เมื่อถามต่อว่า หากสรรพากรตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นบุคคลที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่แจ้ง กกต.ต้องมาดำเนินการเรื่องแจ้งเท็จหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า อย่างที่บอก เขาทำถูกต้องตามแบบเสียภาษี แล้วถ้าทางสรรพากรไปตรวจ ก็ต้องไปดูว่าผลเป็นอย่างไร ตนไม่อยากคาดคะเนไป ถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่วันนี้เขาได้ทำครบถ้วนตามกระบวนการสมัครรับเลือกตั้ง