“วิโรจน์” หวังร่วมงาน “ณัฐวุฒิ” #กระโดดโรจน์เต้น หลังประกาศหยุดบทบาทในเพื่อไทย “สมยศ” ชี้บาทบาทในพรรคจบไปแล้วหลังเลือกตั้งเสร็จ ลาออกคือบันไดลงตรงเส้นแบ่งระหว่างนักการเมืองผู้กล้าหาญและนักการเมืองจอมกะล่อน
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(21 ส.ค.66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ระบุว่า
“[อยากฟังการแถลงของพรรคก้าวไกล]
“นับตั้งแต่ “ส่งไม้” การจัดตั้งรัฐบาลให้พรรคเพื่อไทย มาจนถึงวันที่พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ และ ส.ว. ปฏิเสธไม่ให้พรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล จนวันนี้ พวกเขารวมหัวกันตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง โดยยืนยันเด่นชัดในประโยคแรกของแถลงการณ์ว่า “ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล”
สถานการณ์ “ชัดยิ่งกว่าชัด” “ชัดจนไม่รู้จะชัดอย่างไร” แต่เราก็ยังไม่เห็นพรรคก้าวไกลแถลงประกาศแบบทางการอลังการ แสดงจุดยืนชัดเจน ตรงไปตรงมา ทระนงองอาจ พร้อมสู้รบกับทุกสถานการณ์ นับจากนี้เป็นต้นไปเลย
ไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการยอมรับสถานะฝ่ายค้าน และจะใช้เสียง ส.ส.151 คน และ 14.4 ล้านเสียง ในการเดินหน้าต่อสู้ตามแนวทางของตน
ไม่มีข้อความหรือการสื่อสารอย่างเป็นทางการออกจากพรรคก้าวไกลหรือคณะผู้นำของพรรคก้าวไกล ในลักษณะปลุกใจ ปลุกเร้า ให้กับสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุน และประชาชนเลย
ถึงตอนนี้ ต้องเลิกหวังเรื่อง “โอกาสจะกลับมาจัดตั้งรัฐบาล”
เดินหน้าอย่างทรนง
เป็นตัวแทนของ “พลังใหม่” ดีกว่าครับ”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. และแกนนำพรรคก้าวไกล โพสต์ภาพ “เต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” พร้อมข้อความระบุว่า
“[ จากใจวิโรจน์ ถึง พี่เต้น ไอดอลของผม ]
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
จากแถลงการณ์จัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง เป็นที่แน่นอนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ได้ตัดสินใจจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับ พรรคที่เป็นกลไกในการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ "ทั้ง 2 พรรค" คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถือเป็นการผิดคำพูดที่แกนนำสำคัญ ตลอดจนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ได้เคยให้สัจจะวาจาเอาไว้กับประชาชน ระหว่างการหาเสียงเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา
ซึ่งคงไม่ต้องถกเถียงอะไรให้มากนัก เพราะ Digital footprint มีอยู่เต็มไปหมดในโลกอินเตอร์เน็ต
ผมพอจะเข้าใจความรู้สึกของพี่เต้นได้ประมาณหนึ่ง และไม่ว่ายังไง ผมก็ยังคงเชื่อมั่น และศรัทธาพี่เต้น ในฐานะ Role Model ของผมเสมอ
ไม่มีใครคาดคิดหรอกครับ ว่าการตระบัดสัตย์ ทรยศหักหลังประชาชนจะเกิดขึ้น และต่อให้มีความโลภ และความหื่นกระหายในการเข้าสู่อำนาจมากขนาดไหน ก็ไม่มีใครเชื่อหรอกครับว่า จะมีใครกล้าที่จะหักหาญน้ำใจของคนเสื้อแดง เพื่อนแท้ที่ร่วมต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย เคียงบ่าเคียงไหล่ แลกเลือดแลกเนื้อกันมาร่วม 20 ปี แล้วยอมเอาตัวเองไปเป็นที่สิงสู่ เป็นนั่งร้านให้กับเผด็จการได้สืบทอดอำนาจ
สำหรับการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดง พี่เต้น ไม่ต้องรู้สึกเคว้ง ไม่ต้องรู้สึกเป็นห่วงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะพี่เต้นสามารถประสานผมมาได้ทุกเมื่อ ผมพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับพี่เต้นอย่างเต็มที่ เพราะการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนเสื้อแดง นั้นเป็นปณิธานอันหาญมุ่งของผมอยู่แล้ว
ยินดีต้อนรับครับพี่ ผมพร้อมทำงานร่วมทีมกับพี่เต้นเสมอ แล้วเรามาทำงานเพื่อประชาชนร่วมกันนะครับ
เอาไว้หลังจากช่วงเวลาแห่งความโกลาหลผ่านพ้นไป และประชาชนพอที่จะทำใจยอมรับกับความผิดหวังในครั้งนี้ได้บ้างแล้ว ผมขออนุญาตไปอุดหนุนร้านอาหารเยี่ยมใต้ (https://g.co/kgs/YXmg9b) นะครับพี่ อ่านรีวิวแล้วมีเมนูอร่อย ที่ต้องลองอยู่หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ไก่เยี่ยมใต้ กุ้งผัดกะปิสะตอ ฯลฯ และขออนุญาตถือโอกาสพูดคุย และขอคำแนะนำจากพี่เต้นด้วยครับ
ไม่ต้องเสียใจนะครับพี่ ที่ผ่านมาพี่ทำดีที่สุดแล้ว แล้วเรามาผนึกกำลังกันครับ
#กระโดดโรจน์เต้น ผมคิดแฮ็ชแท็กไว้รอเลยครับ”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า
“เส้นแบ่งระหว่างคนกะล่อนกับจริยธรรมนักการเมือง
"ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ประกาศ ยุติบทบาท "ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย" แล้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบประการใดต่อการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยขณะนี้ ไม่ได้มีผลต่อความรับผิดชอบทางจริยธรรมสำหรับณัฐวุฒิ เพราะ ณัฐวุฒิ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจากการถูกตัดสิทธิ์ ส่วนครอบครัวเพื่อไทยจัดตั้งขึ้นมาเพื่อการโฆษณาหาเสียงและหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายจับผิดของการเลือกตั้งเท่านั้น หลังจากนี้ไปก็หมดหน้าที่ ดังนั้นอย่างไรเสียตำแหน่ง ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยก็หมดบทบาทไปในที่สุด
การประกาศยุติบทบาทในครอบครัวเพื่อไทยจึงเป็นบันไดลงที่สวยงามตรงเส้นแบ่งระหว่างคำว่านักการเมืองผู้กล้าหาญทางจริยธรรมและนักการเมืองจอมกะล่อน”