“อนุทิน” ย้ำ โควตา ครม.ควรดีลจบก่อนโหวตนายกฯ หากคุยกันเรียบร้อย ทุกคนก็ต้องทำตามข้อตกลง ระบุได้สานงานกระทรวงเดิมต่อก็ดี รับไม่ได้หากถูกเบรกด้วยข้ออ้างส่อขยายอิทธิพล ชี้ จะได้อะไรต้องคุยกัน ไม่มีใครได้ทุกอย่าง
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนการแบ่งโควตากระทรวง ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย (พท.) เพิ่มเติมหรือไม่ ว่า ขณะนี้รอการนัดพูดคุยกัน ทุกอย่างคงต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะรับพิจารณาเรื่องการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นญัตติซํ้าหรือไม่ ซึ่งเรายังไม่ทราบว่า หากรับหรือไม่รับ จะมีวิธีการอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลเคลียร์เรื่องการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีไม่ลงตัว นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยมีการคุยไม่ลงตัว อย่าไปกังวลตรงนั้น
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรค ภท.ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่าได้สูตร 4+4 นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกันเบื้องต้น ยังไม่ได้ซีเรียสอะไร เมื่อถึงเวลาพูดคุยกันเราก็ต้องคำนึงถึงองค์รวม
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องสานต่องานกระทรวงเดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ามีความต่อเนื่องก็ดีเหมือนกัน แต่เวลาพูดคุยกันก็ไม่ควรตั้งข้อจำกัดอะไร ต้องว่ากันด้วยเหตุและผล คนรู้จักกันทั้งนั้น แต่ถ้าบอกเหตุผลว่าอยู่กระทรวงเดิมไม่ได้เพราะจะขยายอิทธิพล หรือจะทำให้ไม่โปร่งใส อย่างนี้ตนก็รับไม่ได้
แต่ถ้าคุยด้วยเหตุผลอื่น เช่น อยากจะใช้นโยบายของแต่ละพรรคมาทำบ้างก็ต้องมาคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า ได้คุยกับพรรค พท.หรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า คุยไปหลายครั้งแล้ว
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าต้องโหวตนายกฯ ให้ก่อน ถึงจะมีการตกลงเรื่องแบ่งกระทรวง นายอนุทิน กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะต้องคุยกันก่อน ควรจะคุยให้จบก่อนการโหวตเลือกนายกฯ ส่วนท่าทีของพรรค พท.นั้น ไม่เคยยืนยันว่า จะต้องโหวตนายกฯ ก่อน น่าจะมีการนัดพูดคุยกันอีกใน 2-3 วัน
เมื่อถามว่า ทางพรรค พท. ขอดูแลกระทรวงเศรษฐกิจ ทางพรรค ภท.จะขัดข้องหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องคุยกัน
เมื่อถามว่า หากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เข้ามาร่วมรัฐบาล จะทำให้รัฐบาลมีความมั่นคงขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเราสามารถทำให้ความมั่นคงของรัฐบาลมีความชัดเจนได้ก็ยิ่งดี เราไม่มีปัญหา อยู่ที่พรรคแกนนำจะพิจารณาว่าจะเชิญใครเข้ามา เราไม่เคยมีเงื่อนไขอะไรกับพรรคไหน และไม่ต้องการให้พรรคไหนมีเงื่อนไขอะไรกับเรา
เมื่อถามว่า ดูจากท่าที ส.ว.บางคนขณะนี้ ดูเหมือนการเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. เป็นนายกฯ อาจจะมีอุปสรรค มีการเตรียมแผนว่าจะมีการเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. หรือนายอนุทินต่อจากนั้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ให้เป็นไปตามขั้นตอนและสถานการณ์ อย่าไปคิดในสิ่งที่ยังไม่เกิด การเตรียมการเหล่านี้มีขั้นตอนของมันอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินว่า การโหวตนายกฯ จะจบที่นายเศรษฐาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเราคุยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและพรรคร่วมให้เรียบร้อย การนำเสนอแคนดิเดตนายกฯ ก็เป็นการเสนอของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้าคุยกันเรียบร้อยทุกอย่าง แถลงข่าวร่วมกัน และเสนอชื่อต่อที่ประชุมสภาก็ต้องเป็นไปในรูปแบบนั้น ทุกคนก็ต้องทำตามข้อตกลงและกติกา ยิ่งมีเงื่อนไขมากก็ยิ่งใช้เวลา เราก็จ้องรับฟังซึ่งกันและกัน ไม่มีใครกำหนดอะไรได้ฝ่ายเดียวหรอก
เมื่อถามว่า เงื่อนไขจะทำให้มีการยื้อเวลาตั้งรัฐบาลออกไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องค่อยๆ แกะไปทีละเปลาะ เป็นเรื่องธรรมดาที่มีการเจรจา เหมือนกับเจรจาธุรกิจ ก็ต้องเริ่มจากเงื่อนไขที่รับไม่ได้กันทั้งคู่ และก็ต้องเริ่มคุยกัน ว่าอะไรจะได้หรือไม่ได้ ถือเป็นเรื่องปกติ ทุกคนต่างก็อยากได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่จะได้แค่ไหนก็ต้องคุยกัน การรักษาความสัมพันธ์ที่จะอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมกัน เมื่อมาทำงานร่วมกันแล้วก็ถือว่าเป็นทีมเดียวกัน ก็ไม่ต้องไปแคร์มากว่าใครจะอยู่ตรงไหน