หน.ก้าวไกล ดอดเข้าสภา ให้กำลังใจ ส.ส.อภิปราย เผย คุย “เพื่อไทย” วานนี้ เป็นการรับฟังกันและกัน ไม่รีบเคาะมติโหวตนายกฯ ส่วนความเห็นประชาชน ก็ต้องรับฟัง ส่วนปมหุ้นสื่อยังไม่มีติดต่อมา คดียุบพรรคให้ฝ่าย กม.ดู
วันนี้ (10 ส.ค.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังกลับเข้าสภามาให้กำลัง ส.ส. โดยระบุว่า วันนี้มาให้กำลังใจเพื่อน ส.ส. จากพรรคก้าวไกลในการอภิปราย เห็นว่า มีอยู่หลายเรื่องอย่างเรื่องของ กสม. ก็เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกล อยากอภิปรายกันเยอะ วันนี้เลยลงมากินไอติม และน้ำมะพร้าวปั่น
เมื่อถามว่า วานนี้ (9 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทยไปพูดคุยนั้น เป็นอย่างไรบ้าง นายพิธา ระบุว่า ก็รับฟังกัน อย่างที่ได้พูดกับนักข่าวสั้นๆ ไปแล้วเป็นการสื่อสารทั้งสองฝ่าย เรารับฟังกันทั้งสองฝ่าย ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากไปกว่านั้น หลังรับฟังหากมีคำถามก็คงนัดเจอกันเรื่อยๆ ส่วนจะโหวตให้หรือไม่นั้น ตอนนี้รับฟังกันก่อน แล้วรอดูว่ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม ก็อาจสอบถาม แต่สาระสำคัญจริงๆ คงต้องรับฟังกันและคิดให้รอบคอบ
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยอยากจัดตั้งรัฐบาลแบบสลายขั้วนั้น นายพิธา มองว่า ก็รับฟัง และฟังในสิ่งที่เขาเสนอ เราตั้งใจฟังอยู่ อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่รับฟังมากกว่า และต้องเปิดใจคิดให้รอบคอบในหลายเรื่อง โดยใช้หลักการเป็นสำคัญ และยึดในสิ่งที่เคยให้คำสัญญาตอนหาเสียงไว้ รวมถึงต้องรับฟังประชาชน
เมื่อถามว่า กระแสในโซเชียลมีความเห็นว่าไม่อยากให้พรรคก้าวไกลโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยนั้น นายพิธา ระบุว่า ไม่ใช่แค่ในโซเชียล แต่การลงพื้นที่ก็เป็นเช่นนั้น ด้วยความที่เราเป็นผู้แทนราษฎร คนที่มีอำนาจจริงๆ คือ ราษฎร จึงให้ลงพื้นที่ และลองถามความคิดเห็นเมื่อเวลาตัดสินใจอะไรยากๆ ถ้าตัดสินใจเองก็ยาก เมื่อคิดไม่ออกก็ต้องลงไปหาประชาชนว่าอย่างไร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบการตัดสินใจ ซึ่งตอนนี้ยังไม่เข้ากระบวนการตัดสินใจแต่ต้องรับฟังให้รอบคอบ และนำมาวินิจฉัย ตอนนี้ยังไม่มีกำหนด และยังมีเวลาให้คิด
เมื่อถามต่อว่า หากพรรคก้าวไกลไม่โหวตให้ ก็จะไม่สามารถแก้ไขธรรมนูญ 60 ได้ นายพิธา กล่าวว่า ในประเด็นนี้ต้องรับฟัง และพิจารณาว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามในการแก้ไขธรรมนูญหลายครั้ง แต่ละคนโหวตอะไรไว้ ก็เห็นอยู่ หากคนที่ขัดขวางการแก้ธรรมนูญ นำมาเป็นเหตุผลเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มันมีความขัดแย้งกันอยู่พอสมควร จึงเป็นประเด็นที่ต้องพูดคุยกันเพื่อให้เกิดความชัดเจน
เมื่อถามถึงความคืบหน้าของคดีหุ้นสื่อ และการร้องเรียนให้ยุบพรรคนั้น นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีใครติดต่ออะไรมาเลย และไม่มีโอกาสได้ชี้แจงในเรื่องหุ้น ส่วนเรื่องยุบพรรคที่ให้เอกสารเพิ่มเติม ก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดู รอให้มีการชี้แจงและดูหลักฐานประกอบว่ามีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน