“กัณวีร์” ย้ำ จริงๆ ม.272 ควรยกเลิกไปนานแล้ว ยังหวัง 8 พรรคร่วมเดิม จับมือกันได้อีกครั้ง ยันไม่อึดอัดความสัมพันธ์ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” พร้อมร่วมมือ "ชัยธวัช" จัดตั้งรัฐบาลให้ได้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ส.ค. ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ที่สุดท้ายแล้วจะมีการแก้ไขหรือคงไว้ ว่า จริงๆแล้วมาตรา 272 ควรแก้ไขและยกเลิกนานแล้ว เพราะเป็นกลไกหนึ่งในการขัดขวางประชาธิปไตย พรรคเป็นธรรมชัดเจนในการสนับสนุนยกเลิกมาตรา 272
เมื่อถามว่า ทางพรรคเป็นธรรมมีแนวทางในการโหวตมาตรา 272 อย่างไร นายกัณวีร์ กล่าวว่า สนับสนุนยกเลิกมาตรา 272 เราเห็นว่าการเลือกนายกฯในครั้งแรก ก็ใช้มาตรา 272 ที่มีสว.อยู่ ที่ไม่สามารถทำให้เราโหวตนายกฯ ได้
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีการเลื่อนการโหวตนายกฯออกไปเพื่อรอคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ การเสนอการแก้ไขเป็นทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากการเสนอรอ 10 เดือนให้สว.หมดวาระหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า เป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นเดอะรีเทนต์ออฟพิธาก็ได้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว เราก็สามารถให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯอีกครั้งหนึ่ง เพราะวันที่เลือกนายกฯวันที่ 13 ก.ค. มีปัญหาที่มาตรา 41 ที่ไม่สามารถเสนอญัตติที่เสนอไปแล้ว กลับเข้ามาใหม่ได้ แต่ครั้งนี้เราจะบอกว่าการเลือกนายกฯไม่ใช่ญัตติ ก็จะทำให้มีโอกาส ในการตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ได้เหมือนเดิม
เมื่อถามว่า คิดว่าแก้มาตรา 272 เป็นทางเลือกหนึ่งหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า เป็นทางเลือกหนึ่งและเป็นทางเลือกที่ดีด้วย เพราะควรจะเป็นตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตามมีความพยายามจะคุยกับ ส.ว.อย่างต่อเนื่องว่าจะขอให้มีการยกมือให้แคนดิเดตนายกฯตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนักในเรื่องที่คุยกับ ส.ว.ฉะนั้นนี่จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทางพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคก้าวไกล(ก.ก.)ได้เสนอขึ้นไป
เมื่อถามถึงกรณี สว.บางคนระบุว่าการแก้ไขมาตรา 272 จะต้องทำประชาพิจารณ์จากประชาชนก่อนไม่สามารถแก้ไขในที่ประชุมรัฐสภาได้ นายกัณวีร์ กล่าวว่า เป็นหนึ่งทางในการซาวน์เสียง จริงๆทางสส.ก็เป็นตัวแทนของประชาชนเช่นกัน ฉะนั้นการทำประชาพิจารณ์จริงๆก็จำเป็น เพียงแต่ตอนนี้จำเป็นต้องทำทุกวิถีทาง ตัวเลือกต่างๆต้องเอามาวางบนโต๊ะให้สามารถพิจารณาได้
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็น สส. การประกาศตัวว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้านนั้น เป็นความเห็นส่วนตัวหรือมติพรรค นายกัณวีร์ กล่าวว่า “ เป็นทั้งความเห็นส่วนตัว และมติพรรคพูดคุยกับหัวหน้าพรรคเรียบร้อยซึ่งนี่คืออุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรมด้วยว่าเราจะสนับสนุนประชาธิปไตย”
เมื่อถามว่า อึดอัดใจหรือไม่ที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล เหมือนจะไปกันไม่ได้ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ไม่อึดอัด เพราะการเมืองคือการต่อรองและการพูดคุยกัน ถ้ามีทางเลือกที่ทำให้ดีที่สุดก็คงต้องเป็นไปอย่างนั้น แต่ก็ตาม การพูดคุยต่อรองต้องให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง จริงๆและต้องเอาอำนาจคืนสู่ประชาชน
เมื่อถามว่ายังมีความหวังหรือไม่ที่ 8 พรรคจะมาจับมือกันได้อีก นายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนมีความหวัง เพราะ จะเป็นสิ่งเดียวที่มติมหาชนเป็นแหล่งที่มาที่เดียวของอำนาจที่จะไปสถาปนาอำนาจรัฐ ฉะนั้นการพูดคุยกัน 2 พรรคใหญ่ รวมถึงอีก 6 พรรค ที่ร่วมเซ็น mou กันแต่แรก จะเป็นแหล่งที่มาที่เดียวของอำนาจรัฐตอนนี้
“ข้อเสนอ 10 เดือนอาจจะถึง ขอให้ทุกคนมีความมั่นใจว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการนำมาซึ่งรัฐบาลของประชาชนจริงๆ” นายกัณวีร์ กล่าว
นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า ได้คุยกับนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ซึ่งมีการคุยกันว่า “จริงๆ คุณกัณวีร์จะไปสุดซอยขนาดนั้น เราจะไปร่วมจัดตั้งฝ่ายค้าน เรายังมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเพราะพวกเราถึงแม้จะร่วมมือกัน ไม่ใช่เราจะร่วมมือฝ่ายค้านอย่างเดียวเพราะเรามีฉันทมติของมหาชน จะทำให้เราเป็นฝ่ายรัฐบาลได้ ฉะนั้นบอกไปเลยให้เสียงดังๆ ว่าเราจะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้”