แกนนำเพื่อไทย แถลงนัด 3 ส.ค.เปิดตัวพรรคร่วมรัฐบาล รอดูมี “รทสช.- พปชร.” หรือไม่ ย้อนก้าวไกลมีปัญหาสื่อสารสมาชิก ปัดประวิงเวลา จะโหวตให้หรือไม่เป็นเอกสิทธิ์ ย้ำ แก้ 112 เป็นไปไม่ได้ มุ่งใช้ประสบการณ์แก้วิกฤตการเมือง-ศก.
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค แถลงภายหลังหารือแนวทางจัดตั้งรัฐบาลกับแกนนำพรรคก้าวไกล (ก.ก.)
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรค ก.ก.วิพากษ์วิจารณ์พรรค พท.ประวิงเวลา ไม่เรียกประชุมพรรคร่วมเสียที ว่า ไม่ใช่การประวิงเวลา แต่ที่ช้าเพราะเราถูกร้องขอจากแกนนำพรรค ก.ก.ให้รอถึง 23.00 น.คืนวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเรารอถึงเที่ยงคืนของวันที่ 1 ส.ค. แต่พรรค ก.ก.ก็ไม่มีการติดต่อกลับมา เราจึงดำเนินการตามแนวทางของเราตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. โดยเราหารือกับพรรค ก.ก.มาตลอด แต่แกนนำพรรค ก.ก.อาจจะมีปัญหาการสื่อสารภายในกับสมาชิก เราได้โทรศัพท์ชี้แจงพรรคร่วมที่เหลือแล้ว ว่าเราต้องตั้งรัฐบาลเพื่อคลี่คลายวิกฤติที่เกิดขึ้น
“การตกลงกันครั้งนี้ระหว่างพรรค พท.และพรรค ก.ก.ไม่ใช่การเกี้ยเซี้ยะทางการเมือง แต่เป็นการต่างคนต่างทำหน้าที่โดยไม่มี ก.ก.ร่วมตั้งรัฐบาลด้วย ส่วนนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชน เราพร้อมร่วมผลักดันไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย คือ การแก้ไขมาตรา 112 โดยเราจะทำหน้าที่ใช้ประสบการณ์ของเราแก้วิกฤตเศรษฐกิจ การเมืองให้เข้าสู่ระบบปกติทั้งหมด” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า การประสานงานหลังจากนี้ ทุกพรรคการเมืองไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในการเข้าร่วม โดยเป้าหมายของพรรค พท.คือ ต้องได้ตัวนายกฯ ก่อน ส่วนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลใหม่นั้นต้องเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อการบริหารประเทศได้
ด้าน นายประเสริฐ กล่าวถึงกรณีอีก 6 พรรคร่วมจะตัดสินใจร่วมรัฐบาลใหม่กับพรรค พท.หรือไม่ ว่า ขอให้เป็นดุลพินิจของแต่ละพรรค หากเห็นด้วยกับแนวทางของพรรค พท. เราก็ยินดี บางพรรคร่วมตอบรับ บางพรรคยังไม่แสดงท่าที ส่วนเรื่องการโหวตของ ก.ก. จะช่วย พท.หรือไม่นั้น เราได้แจ้งพรรคร่วมแล้วว่าเป็นเรื่องของเอกสิทธิ์ของพรรค ก.ก. ในวันที่ 3 ส.ค.ช่วงบ่าย เราจะออกแถลงการณ์ตั้งรัฐบาลใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ส่วน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของพรรค ก.ก. ว่าจะลงคะแนนให้หรือไม่ก็ได้ ส่วนพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะแถลงอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) โดยคาดว่า น่าจะเป็นช่วงบ่าย และจะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หรือพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่นั้น ก็ขอให้รอดูในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน