xs
xsm
sm
md
lg

8 พรรคร่วมถึงทางแยก ฉีกเอ็มโอยูสลัดก้าวไกล!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ทวีสิน - พิธา  ลิ้มเจริญรัตน์
เมืองไทย 360 องศา

แม้ว่าข่าว “ดีลลับต่างแดน” ทำท่าจบลง พร้อมๆ กับข่าว “พี่โทนี่” นายทักษิณ ชินวัตร เลื่อนกลับไปออกไปอีก จากเดิมที่ประกาศเอาไว้ว่าจะกลับมาวันที่ 10 สิงหาคมนี้ แต่ถึงอย่างไร ข่าวดังกล่าวนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันออกมาจากปากของเจ้าตัวและคนในครอบครัว เช่น “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว ที่เคยเป็นตัวแทนออกมาเปิดเผยเอง มีแต่เพียงบรรดา “กูรู” ทั้งหลายที่ฟันธงกันมา แต่ว่าคนในครอบครัวชินวัตร รวมถึง “อุ๊งอิ๊ง” ก็ยังไม่พูดอะไรมาก เพียงแค่ตอบโต้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่มั่นใจว่า นายทักษิณ ยังไม่กลับมา ซึ่งเธอก็ได้โพสต์สั้นๆ ว่า “เพ้อเจ้อ” ยังสื่อความหมายปฏิเสธว่าไม่จริงอยู่

อย่างไรก็ดี สำหรับ “ดีลลับ” ตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เวลานี้ก็เหมือนกับว่ามีความคืบหน้าไปมาก อย่างน้อยก็คงไม่เจอทางตัน เหมือนกับกรณีของพรรคก้าวไกล ล่าสุด ทางแกนนำพรรคเพื่อไทยได้นัดประชุม 8 พรรคร่วมกัน ในวันที่ 2 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทยแล้ว และแสดงท่าทีว่าจะมีการดึงพรรคอื่นเข้ามาร่วมเพิ่มเติม พร้อมกับเตรียมเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตเห็นชอบในวันที่ 4 สิงหาคม ตามที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภานัดหมายวันประชุมแล้ว

ขณะเดียวกัน ก็ได้เห็นท่าทีที่ชัดเจนของพรรคเพื่อไทยแล้วว่า น่าจะมีการแจ้งให้พรรคก้าวไกลทราบอย่างเป็นทางการให้ “ต้องตัดสินใจ” ด้วยเหตุผลที่ว่า หากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ใน 8 พรรค การจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่มีทางสำเร็จ เนื่องจากไม่มีพรรคไหนเอาด้วย รวมถึง ส.ว.ที่มีท่าทีชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่การโหวตคว่ำ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตของพรรคมาตั้งแต่แรก ที่เห็นชัดก็คือ คำพูดของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทีมเจรจาของพรรคได้อธิบายให้เห็นภาพในทำนองว่า “ไม่มีใครคบ” ก้าวไกลนั่นแหละ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการนัดประชุม 8 พรรคร่วม ภายหลัง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เตรียมออกวาระการประชุมรัฐสภา เพื่อเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ว่า

เบื้องต้นจะนัดประชุม 8 พรรคร่วมวันที่ 2 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย เนื่องจากวันที่ 1 สิงหาคม ยังเป็นวันหยุด หลายคนอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่สะดวกมาร่วมประชุม จากการพูดคุยกับทั้ง ส.ว.และ ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ จนถึงขณะนี้ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ยังแสดงความเห็นตรงกัน ว่าพร้อมยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย แต่ต้องไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะหากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ พวกเขายังยืนยันว่าจะไม่ให้เสียงสนับสนุน

“นี่คือ สภาพปัญหาที่เรายังเผชิญอยู่ขณะนี้ ซึ่งคงต้องนำไปหารือกันในที่ประชุมพรรคร่วมต่อไป จากนั้นพรรคเพื่อไทยจะนัดประชุม ส.ส.วันที่ 3 สิงหาคม ที่รัฐสภา ก่อนจะโหวตผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ วันที่ 4 สิงหาคม”

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า ในการนัดหมายประชุมร่วม 8 พรรค ซึ่งจะมีขึ้นก่อนถึงวันประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 สิงหาคม เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น พรรคเพื่อไทยเตรียมแจ้งต่อที่ประชุม 8 พรรคว่า แนวทางการโหวตนายกฯ ซึ่งจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน จำเป็นต้องดึงเสียงส.ส.จากพรรคนอกขั้วเข้ามาเติม เพื่อให้เสียงเห็นชอบเกินกว่า 375 เสียง

โดยยืนยันว่า สูตรตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย จะรับฟังเสียงของประชาชน ลดการต่อต้าน ด้วยการไม่มีพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ามาร่วมอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะนำเสนอข้อเรียกร้องของ ส.ว. และพรรคการเมืองอื่น ที่เตรียมจะมาร่วมสนับสนุนการโหวตนายกฯ ซึ่งไม่ยอมรับพรรคก้าวไกล เพื่อให้ที่ประชุม 8 พรรคตัดสินใจร่วมกัน

ด้าน นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวทำนองเดียวกัน เชื่อว่า พรรคจะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ให้รัฐสภาโหวตตามที่เป็นข่าวออกมา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และมั่นใจว่า วันที่ 4 สิงหาคม จะเลือกนายกฯ ได้สำเร็จ เนื่องจากการเลือกตั้งผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้ว ประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลใหม่ไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จัดทำงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามที่ฝ่ายต่างๆ เรียกร้อง

ถ้าการตั้งรัฐบาลช้าออกไป ประเทศจะเสียประโยชน์ แนวคิดที่จะให้รอไป 10 เดือน เพื่อให้ ส.ว.หมดอำนาจ คงเป็นไปได้ยาก เพราะประชาชนเขารอรัฐบาลอยู่ ส่วนสมการรัฐบาลใหม่ เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจ ข้อมูลข้อเท็จจริงแต่ละพรรคชัดเจนหมดแล้ว เวลานี้ไม่ใช่เวลาหาข้อมูล แต่เป็นเวลาตัดสินใจบนข้อมูล และท่าทีทางการเมืองของแต่ละพรรคเท่าที่มี

ส่วนองค์ประกอบของรัฐบาล คงต้องรอฟังคณะเจรจาของพรรคที่จะมาแจ้ง ส.ส.ในการประชุมพรรค วันที่ 3 สิงหาคม ว่า สุดท้ายจะเป็นตามที่มีการวิเคราะห์หรือไม่ ส่วนจะเป็นอย่างไร เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ และดีที่สุดในสมการการเมืองและตัวเลือกที่มี โดยเคารพเจตจำนงประชาชนและเคารพประชาธิปไตย และได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพทางการเมืองเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาของประเทศต่อไป

จากคำพูดดังกล่าว โดยเฉพาะจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เป็นทีมเจรจา เห็นได้ชัดเจนว่า ผลจากการไปหารือพูดคุยกับบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ รวมทั้ง ส.ว.ต่างก็ไม่ใครเอาพรรคก้าวไกล นั่นคือ หากก้าวไกลยังร่วมอยู่ในรัฐบาล พวกเขาก็จะไม่โหวตให้และเสียงก็จะถึง 375 เสียงตามกำหนด นั่นคือ แม้ว่าจะมีการเสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย คือ นายเศรษฐา ทวีสิน เข้ามา แต่หากยังมีก้าวไกลอยู่ ยังไงก็ไม่ผ่าน ขณะเดียวกัน วิธีการที่จะยื้อเวลาออกไปนานถึง 10 เดือน เพื่อให้ ส.ว.หมดวาระลงไปตามความคิดของก้าวไกล ก็ไม่มีใครเห็นชอบด้วย

ดังนั้น นาทีนี้แรงกดดันก็กำลังตกมาอยู่ที่พรรคก้าวไกลแล้ว ว่าจะ “เกาะ” เพื่อไทยและ 7 พรรค ไม่ยอมปล่อยมือตลอดไปไม่ได้แล้ว เพราะหากยังอยู่ในสภาพเดิม โหวตยังไงก็ไม่ผ่าน เพราะทุกพรรครังเกียจก้าวไกล ขณะเดียวกัน ก็น่าจะถึงเวลาของพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกันที่จะนำมาใช้เป็นเหตุผลในการ “สลัดทิ้ง” ออกไป ตามที่มี “สมการใหม่” เข้ามานั่นคือ “ไม่มีทั้งลุง และก้าวไกล”

โดยสูตรล่าสุดที่ปล่อยออกมาก็น่าจับตา นั่นคือ มีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ โดยเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ มีพรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า รวมทั้งพรรคเล็กๆ แล้วสลัดพรรคก้าวไกลออกไปเป็นฝ่ายค้าน โดยสูตรนี้ยังไม่มีทั้งพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ เพื่อลดเงื่อนไข “สองลุง” ออกไป แม้ว่าในภายหน้ายังมีโอกาสที่จะดึงพลังประชารัฐเข้ามาก็เป็นไปได้สูง เมื่อพิจารณาจากการปรับโครงสร้างพรรคใหม่ และมีการตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย “บิ๊กป้อม” เข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค จนมองว่าเพื่อเตรียมรับตำแหน่งในรัฐบาล

พิจารณาตามแนวทางนี้ มันก็เชื่อว่า ถึงเวลาที่พรรคเพื่อไทยจะต้องตัดสินใจ “บอกเลิก” พรรคก้าวไกล ในที่ประชุมพรรคร่วม 8 พรรค ในวันที่ 2 สิงหาคม นี้ โดยใช้แรงบีบจากพรรคอื่นที่ไปดีลกันมาก่อนหน้านี้ที่ตั้งเงื่อนไขชัดเจนว่าไม่เอา ขณะเดียวกัน “สูตรใหม่” ที่เบื้องต้น “ยังไม่เอาลุง” เพื่อลดเงื่อนไข ลดแรงต้านจากภายนอก และแน่นอนว่าทุกอย่างเดินมาถึงทางที่ต้องแยกกันเกรงใจกันไม่ได้แล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น