ข่าวปนคน คนปนข่าว
** จากพริตตี้-แม่ค้าออนไลน์ - CEOแบรนด์เครื่องสำอาง “บอสจ๋า” ดวงใจ พิจิตอำพล ทำเพื่อ?...ด้อมส้มคลั่งรัก หรือ มาร์เกตติ้ง !!??
วันที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นได้แค่ “นายกทิพย์” หลังรัฐสภาลงมติไม่ให้โหวตซ้ำ พร้อมกับเจ้าตัวยังถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ว่ากันว่า บรรดาด้อมส้มหัวใจสลาย ร้องห่มร้องไห้ บ้างก็โพสต์ว่า “แดดดี้พิธา” ถูกกลั่นแกล้ง บ้างลงคลิป ฟาดคนขวาง ไปจนถึงด่าทอ ส.ว.เกรี้ยวกราดใส่ กกต. เก็บอาการโมโหโกรธากันไม่อยู่
ขณะที่หน้าสภา ปรากฏภาพเดือดๆ สาวชุดส้มอุ้มท้อง นั่งวีลแชร์ ด่าเป็นชุด สาปแช่งพวกที่ทำพิธา เป็นนายกทิพย์ โดยมีคนใส่ชุดส้ม ยืนถือป้ายอยู่ข้างๆ มองเผินๆ เหมือนกำลังโฆษณาสินค้า ที่ต่อมาช็อตนี้เป็นไวรัล ที่ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียล เผยแพร่แชร์ต่อๆ กันไปเหมือนไฟลาม
โดยเป็นคลิปจากแพลตฟอร์ม Tiktok ของผู้ใช้นาม “EVE ‘S SKINCARE” หรือ อีพส์ สกินแคร์
ถามไถ่กันว่าเธอเป็นใคร มาอย่างไร ?
สาวเจ้าดังกล่าว คือ “จ๋า-ดวงใจ พิจิตอำพล” หรือ “บอสจ๋า” ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อีฟส์ นั่นเอง
“จ๋า ดวงใจ” เคยเป็นพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์มาก่อน โดยมีฉายาว่า “พริตตี้กรรมกร” เพราะคนเห็นว่า นอกจากความสวยแล้วยังขยันทำงานประเภทสู้ชีวิต
ว่ากันว่า “จ๋า ดวงใจ” ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง และครอบครัว ปากกัดตีนถีบส่งตัวเองเรียนตั้งแต่อายุ 15 ปี
ผ่านมรสุมชีวิต หนี้ท่วมหัว บ้านโดนยึด เงินก็ไม่มี จึงต้องดิ้นรนทำงานหาเงินทุกทางเหมือนกับกรรมกร เพื่อช่วยประคองชีวิตตัวเองกับครอบครัว
ต่อมา “จ๋า ดวงใจ” ได้ผันตัวเข้าสู่วงการแม่ค้าออนไลน์ เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอาง ฟังว่า ขายดิบขายดี แพ็กสินค้าส่งทุกวัน ได้นอนวันละแค่ 2 ชั่วโมงกว่า 1 ปีเต็ม ก่อนจะก้าวขึ้นแท่นเป็นผู้บริหาร CEO แบรนด์ความงามอีฟส์
ปัจจุบัน “ดวงใจ พิจิตอำพล” นั่งเป็นกรรมการ เช่น บริษัท ดีงาม กรุ๊ป จำกัด ดำเนินธุรกิจ จำหน่ายเครื่องสำอาง บริษัท อีฟส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำหน่ายอาหารเสริม และเครื่องสำอาง
ฟังว่า ทุกวันนี้เธอก็ยังขยันทำคอนเทนต์ ส่งเสริมการขาย ทำการตลาด พัฒนาธุรกิจตัวเองต่อเนื่อง เพราะนี่เป็นเบื้องหลังการทำยอดขายให้ปัง
แน่นอนว่า ทัศนคติความหลงใหลการเมืองเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นด้อมส้ม ผู้ภักดีต่อพิธา ก็ว่ากันไป แต่ชาวเน็ตก็อดสงสัยไม่ได้ว่า...
ภาพที่เห็น “บอสจ๋า” ด่าเป็นชุดปนสะอื้นไห้ ด้วยความคับแค้นใจนั่น จะเป็นด้วยทำไปเพราะ “ด้อมส้มคลั่งรัก” หรือ “สร้างคอนเทนต์ทำมาร์เกตติ้ง” ...ไม่รู้เลยจริงๆ
** “ก้าวไกล” อยากเกาะขา...“เพื่อไทย” อยากสลัดแข้ง!!
เมื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเรื่องถือหุ้นสื่อ ไอทีวี ... ถูกที่ประชุมรัฐสภามีมติว่า ไม่สามารถเสนอชื่อเพื่อโหวตนายกฯได้เป็นรอบที่ 2
“ก้าวไกล” จึงอยู่ในสภาพ แพ้ซ้ำซาก แพ้เกมเลือกประธานสภา แพ้เกมเลือกนายกฯ สถานภาพของ “พิธา” ที่เคยเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นขวัญใจด้อมส้ม ตอนนี้แทบเรียกได้ว่าหลุดจากวงจรการเมืองไปแล้ว
ถึงกระนั้นบรรดาแกนนำพรรคก้าวไกล ก็ยังมีทีท่า ไม่ยินยอม อย่างเช่น “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พูดในที่ประชุมสภา วานนี้ (20 ก.ค.) ว่า ที่ “พิธา”กล่าวอำลาสภาเมื่อวันก่อน แล้วเดินออกจากห้องประชุมไปนั้น เป็นการรับทราบคำสั่งศาล ไม่ไช่การยอมรับ เพราะยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยของศาล รธน. ว่าเป็นผู้กระทำผิด หรือมีลักษณะต้องห้ามตาม รธน. จึงถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แถมยังบอกว่าสามารถหยิบชื่อ “พิธา” มาสู้ต่อในฐานะแคนดิเดตนายกฯได้อีก
ในวันเดียวกัน ก้าวไกลก็ได้เรียกประชุมพรรคโดยมีวาระสำคัญเพื่อหาข้อยุติว่า จะลดเพดาน ม.112 ลงมาหรือไม่ และจะยอมปล่อยมือให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้หรือยัง ... ถกเครียดกันเกือบ 4 ชั่วโมง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติทั้งสองเรื่อง ผู้ที่ออกมาจากห้องประชุมก็ได้แต่บอกว่า ก้าวไกลยังสู้ต่อ
ขณะที่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.ก้าวไกล บอกว่า เราจะประคองความกลมเกลียวของ 8 พรรคร่วมให้แน่นแฟ้นที่สุดเหมือนจักรยาน 8 คัน เดี๋ยวก็รู้ว่าจะเข้าถึงเส้นชัย ก็ต้องผลัดกันนำแล้วแต่เป้าหมายของจักรยานทั้ง 8 คัน ซึ่งเป็นจักรยานแห่งความหวังของประชาชน และจะเข้าเส้นชัยไปด้วยกัน ไม่มีคันไหนเลี้ยวโค้งก่อน เพียงแต่ตอนนี้กำลังฝ่ากระแสลม...ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ที่สุดแล้วก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้าน...แต่เราไม่รู้สึกอย่างนั้น!!
เห็นชัดว่า ก้าวไกลพยายามสุดฤทธิ์ ที่จะรักษาสถานภาพเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเอาไว้ให้ได้ หลังจากที่พลาดทั้งประธานสภา และ นายกฯ
ด้าน พรรคเพื่อไทย ก็มีการประชุมเพื่อเตรียมยื่นข้อเสนอในการเจรจากับพรรคก้าวไกลเช่นกัน และมีรายงานว่า บรรดา ส.ส.อีสานของพรรค เห็นว่า “เพื่อไทย” ควรตั้งรัฐบาลให้ได้เร็วที่สุด เพราะประเทศมีปัญหามาก ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง ที่รอรัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไข เมื่อพรรคอันดับหนึ่งอย่างก้าวไกล ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพื่อไทยที่เป็นพรรคอันดับสอง ต้องรับไม้ต่อ และต้องรีบดำเนินการ...
อันดับแรก ต้องสลาย 8 พรรคร่วมก่อน เพราะผลคะแนนที่ออกมาเห็นชัดว่า บรรดา ส.ว.ไม่เห็นด้วยกับการให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล หากเพื่อไทยจะตั้งรัฐบาล ก็ต้องแยกตัวออกมา หาพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ ร่วมกับ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา ก็ได้เสียงเกินครึ่งแล้ว ... ไม่ต้องกลัวกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคนฉีกเอ็มโอยู ถ้าแก้ปัญหาปากท้องประชาชนได้ คนก็จะลืมเรื่องเหล่านี้
ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯ โดย เศรษฐา ได้หารือกับแกนนำพรรคเป็นการภายใน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ราบรื่น เบื้องต้นเห็นว่าแม้จะดึงพรรคอื่นมาร่วม แต่จะต้องมีพรรคก้าวไกลร่วมเป็นรัฐบาลด้วย เพื่อให้มีเสียงสนับสนุนของประชาชน
นอกจากนี้ “เศรษฐา” ขอมีส่วนร่วมในการจัด ครม. และมีส่วนร่วมเจรจากับพรรคร่วม โดยไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ มาเข้าร่วมรัฐบาล เพราะสองพรรคนี้เป็นพวก กปปส. ที่เคยออกมาขับไล่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และถ้าจะเอาพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมก็ได้ แต่ต้องไม่มี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุววรณ ใน ครม.
อย่างไรก็ตาม แม้ต่อมา “เศรษฐา” จะออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว แต่ก็เน้นไปตรงจุดที่ว่า ตนเองยังไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ เพราะต้องมีมติจากคณะกรรมการบริหารพรรคก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็คงเป็นแค่ข่าวลือ อย่างเช่น เงื่อนไขว่าพรรคไหนจะเข้าร่วมบ้าง ก็อยู่ที่การตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคเช่นกัน ...รออีกนิด รอให้ 8 พรรคร่วมเขาคุยกันก่อน มีมติอย่างไร ถึงจะมาหารือกับเพื่อไทย
ภาพของความเคลื่อนไหวทางการเมืองในตอนนี้ จะเห็นได้ว่า ก้าวไกลพยายามยึดเกาะกับเพื่อไทย โดยอ้างถึงเอ็มโอยู 8 พรรค ขณะที่พรรคเพื่อไทย เห็นว่า ถ้ายังอยู่กันแค่ 8 พรรคเดิม เสียงไม่พอแน่ เพราะ ส.ว.ไม่โหวตให้ ตราบใดที่ยังมี ก้าวไกลอยู่ จึงต้องหาทางแยกตัวออกมาจับขั้วใหม่โดยไม่มีก้าวไกล
วงในการเมือง มองว่า ด้วยความเก๋าเกมของเพื่อไทย ในสถานการณ์เฉพาะหน้าเช่นนี้ ก็ต้องรักษาน้ำใจกันไปก่อน เพราะอีกหลายวันกว่าจะถึงวันที่ 27 ก.ค.ที่จะมีประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตนายกฯ
ให้จับตาวันที่ 26 ก.ค.จะมีความชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทย จะดึงพรรคการเมืองใดมาร่วมรัฐบาลบ้าง และส่งชื่อใครขึ้นไปให้สมาชิกรัฐสภาโหวต...งานนี้ไม่มีหยั่งเชิง เป้าหมายต้องครั้งเดียวผ่าน!!
