ส.ส.ปชป.แนะ ก้าวไกลถอนความต้องการแก้ ม.112 ออกไปก่อน พร้อมช่วยหยุดยั้งด้อมส้มคุกคามคนอื่น ชี้ ที่ชนะในการเลือกตั้ง คือ นโยบายค่าแรง 450 เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 เงินอุดหนุนเด็กเล็ก 1,200 ต่อเดือน ดังนั้น ควรทำก่อน เพราะ ปชช.ต้องการให้ดำเนินการแก้ไขมากกว่า
วันนี้ (18 ก.ค.) นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงจุดยืนในการโหวตนายกรัฐมนตรี ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ว่า ตนและทางพรรค จะมีการดำเนินการประชุมอย่างเร่งด่วน หากมีสถานการณ์เฉพาะหน้าที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ทางพรรคประชาธิปัตย์ ขอย้ำว่า จุดยืนของพรรคในการโหวตนายกรัฐมนตรี ก็คือ พรรคที่เสนอแคนดิเดตนายกฯ จะต้องไม่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ต่อมา พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อย จะมีอายุสั้น และที่สำคัญ พรุ่งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเรื่องคุณสมบัติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว ทางพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีสิทธิอันชอบธรรมในการพิจารณาว่า ใครที่ควรจะเป็นนายกรัฐมนตรี ตามเงื่อนไขและจุดยืนของพรรคข้างต้น
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้น ตนจึงอยากฝากไปยังพรรคก้าวไกล ช่วยดำเนินการที่จะหยุดยั้งการกระทำของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรค ในการโพสต์ข้อความหรือการแสดงออกในข่มขู่ คุกคาม หรือแอนตี้คนที่ไม่เห็นด้วยกับการแสดงออกที่ไม่เป็นไปตามที่ผู้สนับสนุนต้องการ เพราะหากกลุ่มคนเหล่านี้ ยึดมั่นกฎ กติกา มารยาท และแนวทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริงแล้ว จะต้องยอมรับในสิ่งที่สมาชิกรัฐสภาตัดสินใจ และนำไปแก้ไขให้ถูกต้อง ไม่ใช่มาดึงดันให้คนอื่นเห็นด้วยตามที่ตัวเองต้องการ
รวมทั้งตนเห็นว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกล ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ไม่ใช่การแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นนโยบายค่าแรง 450 บาท เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท เงินอุดหนุนเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน ดังนั้น ตนอยากให้พรรคก้าวไกล ทำ 3 นโยบายนี้ให้สำเร็จก่อน เพราะประชาชนต่างคาดหวังให้พรรคก้าวไกลดำเนินการมากกว่าการไปแก้ไขกฎหมายที่คนไม่กี่คนได้ประโยชน์ แต่มีคนเดือดร้อนกันทั้งประเทศด้วย