โฆษกประชาธิปัตย์ เผย พรรคเตรียมเคาะแนวทางโหวตนายกฯ 12 ก.ค.นี้ ยันไม่มีฟรีโหวต ต้องเป็นไปตามมติพรรค
วันนี้ (11 ก.ค.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า หลังจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคฯ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ไม่สามารถเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ได้นั้น ว่าในวันที่ 12 ก.ค. รักษาการคณะกรรมการบริหารจะมีการนัดประชุมเพื่อพิจารณาการงดเว้นข้อบังคับพรรคข้อที่ 37 วรรค 2 และจะได้กำหนดวันเวลา สถานที่จัดประชุมใหญ่ และปรับเรื่ององค์ประชุมใหม่ด้วย
นอกจากนี้ จะมีการประชุม ส.ส.พรรคทั้ง 25 คน ในวันที่ 12 ก.ค. เวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา เพื่อกำหนดท่าทีในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยหลักเบื้องต้นเรามีอุดมการณ์ของพรรคฯชัดเจน ในการพิจารณาคุณสมบัติ และพิจารณาจากนโยบายของพรรคที่เสนอตัวเป็นนายกฯ เกี่ยวกับการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ซึ่ง ส.ส.ของพรรคฯจะต้องนำมาประกอบการพิจารณากับเหตุผลอื่นๆ ด้วย
นายราเมศ ยืนยันว่า ประชาธิปัตย์ไม่มีไปดีลกับพรรคการเมืองอื่น และเป็นสิทธิของ ส.ส.ในฐานนะที่พรรคเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยึดความเป็นเอกภาพ ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในสภาฯ เป็นเรื่องสำคัญสุด เมื่อที่ประชุม ส.ส.มีมติอย่างไรนายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบขีรีขันธ์ ในฐานะประธาน ส.ส.จะนำมติมาพูดคุยในที่ประชุม กก.บห.ชุดรักษาการ ที่จะมีขึ้นในเวลา 15.00 น.ด้วย เพื่อกำหนดให้เป็นมติพรรคออกมาอีกครั้ง
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่กระแสสังคมอยากให้ประชาธิปัตย์ฟรีโหวต นายเรเมศ กล่าวว่า ในหลักการของพรรคในเรื่องที่สำคัญแบบนี้ ต้องมีมติพรรค และทุกคนก็ต้องดำเนินการตาม
“ยืนยันว่า ไม่ฟรีโหวตเพราะเราเป็นสถาบันทางการเมือง การเลือกนายกฯก็ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และความเป็นเอกภาพจากนี้ไปต้องมีความชัดเจนในทุกย่างก้าว”
นายราเมศ กล่าวว่า ด้วยว่าตนเชื่อว่าที่พรรคก้าวไกลพยายามให้กระบวนต่างๆ กดดันพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งที่เขามีสิทธิตัดสินใจยกมือให้ใครเป็นนายกฯ เพราะการยกมือให้ใครเป็นนายกฯ อาจจะผูกโยงกรณีของการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ทุกอย่างเชื่อมโยงและสอดคล้องกันทั้งหมด ไม่ใช่ว่ายกมือให้เสียงข้างมากฝ่ายเดียว ซึ่งไม่ใช่ระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย
“สมมติประชาชนเลือกประชาธิปัตย์มา 25 เสียง เขาก็มีหลักคิดของเขาว่าที่เลือกประชาธิปัตย์เพราะต้องการให้นำนโยบายของประชาธิปัตย์มาใช้ แต่คนที่ได้รับเลือกตั้งได้สิทธิจากประชาชนกลับไปเลือกพรรคที่ได้เสียงข้างมาก ผมว่านั่นคือความผิดหวังของประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน” นายราเมศ กล่าว