รองเลขาฯ ก้าวไกล ยัน ส.ส.ยังอยู่กับพรรคครบทุกคน ไม่มีใครถูกซื้อเสียงเพื่อโหวต “ประวิตร” ชี้ ได้บทเรียนแล้ว เป็นงูเห่าสอบตกยกแผง แจง 3 เหตุผล ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้ ย้ำ สู้ใน 2 สมรภูมิให้ดีที่สุด รับผิดชอบต่อประชาชนในฐานะพรรคอันดับ 1
วันที่ 17 กรกฎาคม 2566 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวการซื้อ ส.ส. พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย รวม 50 คน เพื่อเตรียมโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ขอยืนยันว่า ส.ส. ก้าวไกล อยู่ครบ ไม่มีใครถูกซื้อแน่นอน ครั้งที่แล้วประชาชนลงโทษ ส.ส. งูเห่าทุกคนสอบตกหมด คะแนนต่ำพันก็มี ทุกพรรคเห็นตัวอย่างกันดีอยู่แล้วว่าการทรยศต่อประชาชน ผลออกมาเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร แข่งนั้น ขอพรรคเพื่อไทยอย่ากังวล ประชาชนจะกังวลไปด้วย เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผล 3 ข้อ
ข้อแรก ภายใน ส.ว. เองก็ไม่ได้มีเอกภาพ แม้ส่วนใหญ่จะไม่โหวตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ แต่ก็ไม่ได้หมายความทุกคนจะโหวตให้ พล.อ.ประวิตร ข้อสอง พรรคฝั่งรัฐบาลเดิมก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ ว่า ใครจะเป็นนายกฯ ถ้ามีการเสนอแข่ง ยังแย่งชิงกันอยู่ และข้อสาม สำคัญที่สุด แม้ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ แต่ก็บริหารไม่ได้ ดังนั้น ถ้า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในปัจจุบันยังจับมือกันเหนียวแน่น แผนนี้ก็ไม่มีวันสำเร็จ
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า พรรคก้าวไกลสนใจแต่วาระทางการเมือง ไม่สนใจวาระประชาชน ความเดือดร้อนประชาชนต้องมาก่อนวาระการเมือง มัวลากยาวสู้ใน 2 สมรภูมิตามที่ประกาศเพียงจะทำเรื่องเชิงสัญลักษณ์นั้น นายณัฐชา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลออกโรดแมปมาให้ประชาชนเห็นชัดๆ แล้วว่าเรามีแผนการอย่างไร จะสู้ในสองสมรภูมิ ซึ่งมีกรอบเวลาชัดเจนทั้งสองสมรภูมิ สมรภูมิโหวตนายกฯ ถ้าวันที่ 19 กรกฎาคม คะแนนโหวตนายกฯ รอบ 2 ยังห่างจาก 376 ก็เป็นอันจบ รอสมรภูมิต่อไป คือ การยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งต้องเข้าสภาภายใน 15 วันหลังยื่นร่าง คือ ภายในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ และถ้าผลออกมาคือร่างตก ก็จบเช่นกัน เรายอมถอยให้เพื่อไทยตั้งรัฐบาล พิธาเองก็ประกาศไปแล้วว่าถ้าไปต่อไม่ได้จริงๆ ก็จะถอย เปิดโอกาสให้ประเทศ เพราะเวลาเรามีจำกัด จะลากไปเรื่อยๆ ไม่ได้ เราคงไม่สามารถพูดชัดได้กว่านี้อีกแล้ว
ส่วนการที่บอกว่า มัวแต่สู้เชิงสัญลักษณ์ ทั้งที่รู้ว่าแพ้ เรื่องนี้พรรคก้าวไกลยืนยันว่าเรามีภารกิจต้องรับผิดชอบต่อประชาชนในฐานะพรรคอันดับหนึ่ง ถ้าสู้เหยาะๆ แหยะๆ ก็เท่ากับบอกประชาชนว่าเรายอมรับกฎที่อยุติธรรมและความผิดปกติในประเทศนี้ เราเป็นพรรคการเมือง เป็นผู้แทนราษฎร ต้องพิทักษ์เสียงของประชาชนอย่างดีที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เขาเอาไปทิ้งน้ำ ต้องสู้ถึงที่สุดก่อน เพื่อให้สมกับความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้