รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย รัฐบาลเร่งส่งเสริมการออมพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ระดมบัณฑิตอาสากว่า 2 พันคน ถ่ายทอดความรู้ รับบำนาญผ่าน กอช. หวังให้มีความมั่นคงยามชรา
วันนี้ (17 ก.ค.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้การออมเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อสร้างหลักประกันและความมั่นคงในการดำรงชีวิตยามชราภาพ จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ ที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้เกิดการส่งเสริมและสร้างความตระหนัก เนื่องจากเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีแรงงานนอกระบบในภาคการเกษตรจำนวนมาก และเป็นครอบครัวใหญ่ การออมเงินเพื่อรับบำนาญในยามชราจึงเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) กับกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนส่งเสริมให้ประชาชนแรงงานนอกระบบในภาคใต้ ได้รับสิทธิประโยชน์การเป็นสมาชิก กอช. อย่างทั่วถึง ซึ่ง กอช. เป็นกองทุนบำนาญ สำหรับแรงงานนอกระบบ จัดตั้งขึ้นในปี 2554 เปิดรับสมัครสมาชิกครั้งแรก เมื่อปี 2558 ซึ่งประชาชน อายุระหว่าง 15-60 ปี ที่ไม่มีสวัสดิการบำนาญ หรือ สวัสดิการใดๆ จากรัฐ อาทิ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า ชาวไร่ชาวนา รวมถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษา สามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้
นางสาวรัชดา เน้นย้ำว่า การออมกับ กอช. ไม่ขัดตามหลักชะรีอะฮ์ ประชาชนสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ด้วยบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว เริ่มต้นการออมตั้งแต่ 50-30,000 บาทต่อปี รัฐบาลจะจ่ายสมทบให้อีกส่วนหนึ่ง 50%-100% หรือ สูงสุด 1,800 บาทต่อปี รวมกับผลประโยชน์ตอบแทนจากการลงทุนที่ กอช. นำเงินไปบริหารแล้วจะช่วยให้ประชาชนมีเงินบำนาญรายเดือน กับ กอช. ไว้ใช้ในยามเกษียณ โดยแต่ละคนจะมีเงินบำนาญมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการออมและจำนวนเงิน สำหรับช่องทางอำนวยความสะดวกในการให้บริการสมาชิก ทั้งการสมัคร การส่งเงินออม และการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ กอช. สามารถติดต่อได้ที่หลากหลายช่องทาง เช่น ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สำนักงานคลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขา สถาบันการเงินชุมชน ตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ที่ทำการไปรษณีย์ไทย เซเว่นอีเลฟเว่น เทสโก้โลตัส และ ตู้บุญเติม อีกทั้ง กอช. ได้มีการออมที่ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีให้สมาชิกให้ประชาชนเข้าถึงการออมง่ายยิ่งขึ้น ด้วยความสะดวกสบายได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟน อาทิ แอปพลิเคชัน กอช., ไลน์ กอช., แอปเป๋าตัง, แอป K PLUS, แอป Krungthai NEXT และ แอป Mymo GSB
“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีชื่นชม พร้อมสนับสนุน ส่งเสริมให้พี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ และประชาชนทั่วประเทศรักการออมเงิน หวังให้มีความมั่นคงในการดำรงชีวิตช่วงวัยเกษียณ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบ ในปี 2566 รัฐบาลเตรียมบัณฑิตอาสา กว่า 2,000 คน ลงพื้นที่นำร่องจังหวัดชายแดนใต้ถ่ายทอดความรู้ของ กอช. ผ่านกลไกเครือข่ายต่าง ๆ เช่น ชุมชน สถานศึกษา และกลุ่มศาสนา ในการดำเนินงานเชิงรุกควบคู่ไปกับผู้ว่าราชการจังหวัดและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยต่อไป” นางสาวรัชดา กล่าว