xs
xsm
sm
md
lg

“พิธา” พบ GISTDA สาวๆ แห่กรี๊ด หล่อมากอยากให้เป็นนายกฯ เร็วๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พิธา“ นำทีมพบ GISTDA ศูนย์ราชการแทบแตก แห่กรี๊ด หล่อมาก อยากให้เป็นนายกเร็วๆ ด้านเจ้าตัวปัดแจกลายเซ็นหนังสือ “วิถีก้าวไกล” ให้ “เรืองไกร” ที่มายื่นค้านหนังสือ กก.แย้ง กกต.พิจารณาเชือดไม่ชอบ ชี้ กกต.ไม่ได้เร่งรัด ยกยุบไทยรักษาชาติ เทียบยังใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ ส่วน 5 เสือ กกต.เริ่มประชุมถกส่งศาล รธน.ต่อ

วันนี้ (11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเนตนายกรัฐมนตรี พร้อมสมาชิกพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบผู้บริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยเมื่อ นายพิธา เดินทางมาถึง ได้มีกลุ่มแฟนคลับ พนักงาน ข้าราชการ และประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่ทำงานและมาติดต่อหน่วยงานภายในอาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ มารอให้กำลังใจ ส่งเสียงเชียร์ บอก “ตัวจริงหล่อมาก นายกฯ หล่อมาก อยากให้เป็นนายกฯ ไวๆ” และต้องการถ่ายภาพร่วมกับนายพิธา

ขณะที่ประชาชนบางส่วนเมื่อทราบว่า นายพิธา เดินทางมาถึง ก็รีบออกมาและเดินไปส่งนายพิธาถึงลิฟต์ทางขึ้นสำนักงาน GISTDA ซึ่ง นายพิธา ก็ได้มีการโบกมือทักทายข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่ออกมายื่นต้อนรับโดยตลอด และเมื่อเดินผ่านสำนักงาน กกต.


ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงเรื่องที่ กกต.กำลังมีการประชุมพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติตนเอง แต่ นายพิธา ปฏิเสธที่จะตอบ ระบุเพียงว่า วันนี้ได้รับเชิญจากทาง GISTDA ให้มาพูดคุย

แต่เมื่อสื่อถามว่า นายเรืองไกร อยากขอให้ลายเซ็นนายพิธา กล่าวว่า เอาไปทำอะไรครับ ผมไม่ทราบเรื่อง ปกติลายเซ็นไม่ให้พร่ำเพรื่อ ปกติก็ให้พี่น้องประชาชน ก็จะไม่เหมือนกับที่เซ็นเป็นหลักฐานทางเอกสาร ฉะนั้น ถ้าจะเอาไปตรวจคงไม่มีประโยชน์ ให้เดานะ

เมื่อผู้สื่อข่าวอธิบายว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อยากให้เซ็นหนังสือวิถีก้าวไกล นายพิธา กล่าวว่า อ๋อ ไม่ล่ะครับ วันนี้ตั้งใจมาประชุมกับ GISTDA ซึ่งน่าจะติดต่อมาหลังเลือกตั้งแต่ก็ยังไม่มีโอกาสมา เป็นเรื่องเกี่ยวกับภัยแล้งที่เกิดขึ้น ก็จะคุยว่าจะสามารถใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาภัยแล้งได้หรือเปล่า

เมื่อถามว่า นายเรืองไกร บอกว่า เอกสารที่พรรคยื่นคัดค้าน กกต.เป็นการใช้กฎหมายผิดมาตรา นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าฝ่ายกฎหมายของเราเช็กมาอย่างดีแล้ว อย่างไรก็ตาม คงต้องให้ กกต.วินิจฉัยว่าถูกหรือไม่ โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายได้เตรียมมาพอสมควร ไม่ได้เร่งรีบทำอย่างแน่นอน ซึ่งคาดเดากันมาในหลายเรื่องอย่างที่สื่อหลายสำนักสัมภาษณ์ว่ามีความคล้ายกันกับคดีวีลัค มีเดีย ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ฉะนั้น ฝ่ายกฎหมายของเราได้เตรียมตัวและเตรียมพร้อมไว้แล้ว ซึ่งถ้ามีกรณีเร่งรัดผิดขั้นตอนใกล้วันเลือกนายกฯก็เป็นเรื่องที่เราคาดเดาไว้เรียบร้อยแล้ว


อย่างไรก็ตาม เมื่อนายพิธาขึ้นไปถึงห้องประชุมของสำนักงาน GISTDA เจ้าหน้าที่ GISTDA ต่างก็ผละจากโต๊ะทำงานมาส่งเสียงเชียร์ต้อนรับนายพิธากันอย่างคึกคัก ซึ่งทางสำนักงาน GISTDA แจ้งว่า การหารือระหว่างผู้บริหารสำนักงานกับนายพิธาจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ และจะมีการแถลงข่าว

ทั้งนี้ ผู้สี่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ นายพิธา กำลังจะเดินทางมาถึง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อคัดค้านหนังสือของนายพิธา ที่ส่งถึง กกต.เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา โต้แย้งกระบวนการพิจารณาพิจารณากรณีที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะของนายพิธา ว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยระบุว่า หนังสือที่นายพิธา ส่งถึง กกต.อ้างมาตราข้อกฎหมายไม่ถูกต้อง และเห็นว่าการดำเนินการของ กกต.ชอบด้วยกฎหมายแล้ว โดย กกต.ดำเนินการสอบสวนในลักษณะเดียวกับที่ดำเนินการกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีถือหุ้นวีลัค และศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำววินิจฉัยในคดีดังกล่าวไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วว่า กระบวนการพิจารณา กกต.ชอบด้วยกฎหมาย

นอกจากนี้ นายเรืองไกร ยังเห็นว่า ก่อนที่ กกต.จะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีของนายพิธา ไม่จำเป็นต้องต้องเชิญนายพิธามาชี้แจงก่อน เพราะเป็นกรณีการยื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ไม่ใช่การดำเนินการตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่ตนก็เห็นว่าถ้าเป็นกรณีนี้จำเป็นต้องเชิญผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงก่อน และการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคแรกที่ให้สิทธิ ส.ส.เข้าชื่อยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่ได้มีการให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงก่อน ซึ่ง ส.ส.พรรคก้าวไกลก็เคยใช้ขั้นตอนนี้ในการยื่นเรื่องผ่านประธานสภา ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะของ รมว.คมนาคม มาแล้ว และการพิจารณาของ กกต.ก็ไม่เร่งรีบเพราะตนยื่นเรื่องนี้ตั้งแต่ 10 พ.ค. และถ้าเทียบกับกรณียุบไทยรักษาชาติใช้เวลาแค่ 2 อาทิตย์เอง


นายเรืองไกร ยังกล่าวด้วยว่า ที่ครั้งนี้มายื่นหนังสือด้วยตนเองต่างจากที่ผ่านมาจะยื่นทางไปรษณีย์ไม่ใช่เป็นเพราะทราบว่านายพิธาจะเดินทางมายังอาคารศูนย์ราชการ แต่ทราบว่ากกต.จะมีประชุมพิจารณาเรื่องนี้ต่อในวันนี้ จึงเกรงว่าหากส่งหนังสือทางไปรษณีย์จะมาถึงสำนักงาน กกต.ไม่ทัน จึงต้องเดินทางมายื่นเอง

“แต่เมื่อจะนายพิธาจะเดินทาง ก็อยากจะพบ อยากจะขอลายเซ็นให้เซ็นหนังสือวิถีก้าวไกล ที่ตนซื้อมา และได้อ่านแล้ว ซึ่งนายพิธา ก็เขียนดี เหมือนกับที่นายธนาธร และนายปิยบุตร เขียน นายเรืองไกร กล่าวพร้อมกับยกหนังสือวิถีก้าวไกลที่ซื้อมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เริ่มประชุมในเวลา 10.00 น. เป็นการประชุมต่อ เนื่องจากเมื่อวานนี้กรณีนายพิธา ถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ซึ่งเมื่อวานนี้ในการประชุมครั้งแรก กกต.ยังไม่ได้ได้ลงมติว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพียงแต่เป็นการติดตามความคืบหน้าของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบ ดังนั้น กกต.จึงได้นัดประชุมในวันนี้ แต่ก็ยังไม่มีคำยืนยันว่าจะมีการลงมติหรือไม่ เนื่องจากการที่ กกต.ได้มีการนัดประชุมล่วงหน้าในวันนี้ และวันที่ 13 ก.ค.ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่า กกต.จะใช้เวลาในการพิจารณา ประกอบกับการที่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ระบุว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของคำร้องที่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื้อหาและข้อกฎหมาย โดยการพิจารณาของ กกต.ไม่ได้ระบุว่าจะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จเมื่อใด

ทั้งนี้ ในการพิจารณาของ กกต.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เป็นแนวทางในการพิจารณาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส่วนการพิจารณาตามมาตรา 151 ที่ กกต.ตั้งคณะกรรมการไต่สวนไปก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องของการดำเนินคดีทางอาญา แต่ทั้งสองกรณีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการถือครองหุ้นสื่อที่จะต้องพิสูจน์ข้อมูลและหลักฐานว่านายพิธา ถือหุ้นจริงหรือไม่ และหุ้นนั้นเป็นกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น