หัวหน้าก้าวไกล ปราศรัย หน้าลานเซ็นทรัลเวิร์ล ขอบคุณทุกคะแนนเสียง มอง เป็นโอกาสทองคืนความปกติให้ประเทศ ชื่นชม ส.ส. - ส.ว. ไม่โหวตสวนมติประชาชน ขอเป็นนายกฯ ของทุกคน สัญญา พรุ่งนี้จะสว่างไสวกว่าในวันนี้ที่มืดมิด
วันนี้ (9 ก.ค. 66) พรรคก้าวไกลจัดกิจกรรม “ขอบคุณประชาชน ฟังเสียงทุกคนก่อนโหวตนายก” นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณประชาชน
“ฝนจะตกฟ้าจะร้อง เราไม่เคยทิ้งประชาชน เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้แล้วครับพี่น้อง อีกนิดเดียวเราจะถึงเส้นชัยไปด้วยกัน เหลืออีก 4 วันที่จะเป็นเวลาประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกจับตาดู ว่าประเทศไทย และสังคมไทยให้คุณค่าความเป็นไทยแบบไหน เส้นชัยนั้นจะเป็นของใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่ของประชาชน” นายพิธากล่าว
นายพิธา กล่าวต่อว่าถ้าเราให้โอกาสประเทศไทย อยู่กับอนาคต ประเทศไทยจะเจริญไม่เป็นสองรองใครแน่นอน แต่ถ้าเราเลือกผิด ฝืนมติประชาชน ทำให้ความไม่ปกติของการเมืองไทยไม่ปกติต่อไป ผมก็ไม่รู้ว่าโอกาสแบบนี้จะมีอีกเมื่อไหร่ โอกาสที่ประชาชนให้มากับพรรคก้าวไกล และพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ที่ให้มามากกว่า 25 ล้านเสียง เป็นเสียงที่ให้มาเพราะว่าอยากเปลี่ยนแปลงประเทศ
นายพิธากล่าวว่า 2 เดือนผ่านมา เหมือนเลือกตั้งจะเสร็จแล้วแต่ยังไม่เสร็จ เป็นเพราะความไม่ปกติของการเมืองไทยที่มาจากรัฐธรรมนูญ 2560 ล้มล้างอำนาจประชาชนตลอด เดี๋ยวก็ยึดอำนาจ นิติสงคราม และยุบพรรค โอกาสนี้คือโอกาสประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่จะคืนความปกติให้สังคมไทย ทุกคนทั้ง 750 คน มีโอกาสจะคืนความปกติให้กับการเมืองไทย ไม่ว่าจะมาจากสภาฯ ล่าง สภาฯ บน ก็มีโอกาสในการคืนความปกติให้กับการเมืองไมย เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้า เท่าเทียมกัน เท่าทันโลกกับเขาสักที
“ผมขอส่งข้อความนี้ ไปยังประชาชน พวกคุณไม่ถอย ผมก็ไม่ถอยเช่นกัน เราพิสูจน์แล้วว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าพวกเราร่วมมือกัน และในวันที่ 13 ก.ค. นี้ ผมพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ของพวกคุณทุกคน” นายพิธากล่าว
นายพิธากล่าวว่า ไม่ว่าจะรวย ดี มี จน ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ หรือรุ่นใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่ที่รหัสไปรษณีย์ไหนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเลือกผมหรือไม่เลือก ขอโอกาสให้นายกฯ ที่ชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับใช้ทุกคน ถึงเพื่อน ๆ สมาชิกผู้แทนราษฎร ชื่อก็บอกแล้วว่า พวกเรามาจากประชาชน เราคือผู้แทนฯ ที่ต้องสู้ เพื่อเป็นผู้แทนฯ ของพี่น้องประชาชน เราทุกคนล้วนเป็นผลลัพธ์ของความไม่ปกติทางการเมือง ทุกคนผ่านการยุบพรรค และผ่านการทำรัฐประหารจากความไม่ปกติของการเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ท่านสามารถให้โอกาสประเทศไทย และคืนความเป็นปกติให้กับการเมืองไทย อย่าพลาดโอกาสนี้ และถ้าไม่ให้เรา ประชาชนอาจหมดศรัทธาในระบบผู้แทนรัฐสภา อย่าให้ประชาชนผิดหวัง
นายพิธา กล่าวอีกว่าแม้ว่าที่มาของเราจะต่างกัน แต่เราคือนักการเมืองของประชาชนเหมือนกัน ผมขอแสดงความชื่นชนในความกล้าหาญของท่าน ที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาของประชาชน และจะลงมติตามคะแนนเสียงข้างมาก ขอชื่นชม ส.ว. ที่บอกว่าไม่ว่าจะเรื่องนโยบาย หรือเรื่องคดี ก็ไม่ใช่เรื่องของ ส.ว. เป็นเรื่องที่มีองค์กรที่เกี่ยวข้องดูอยู่แล้ว และจะไม่โหวตสวนมติของประชาชนแน่นอน
นายพิธา กล่าวว่า พอมีโอกาสได้ทลายกำแพง พวกเขาก็เป็นห่วงชาติบ้านเมือง ต้องการแก้ไขปัญหาการศึกษา กีฬา เศรษฐกิจ ไม่ต่างจากตนเอง ท่านคือคนที่มีประสบการณ์ที่สามารถช่วยประเทศได้ เวลา 1 ปีที่เหลือ หลังจากตนเป็นนายกฯ ขออนุญาตปรึกษา และทำงานกับ ส.ว. เพื่อประชาชน ไม่มีดีลลับ มีแต่ดีลรัก และนี่มันหน้าร้อนหรือน่ารัก
“ทุกคน ฟ้าหลังฝนต้องสวยงามเสมอ ฝนตกมานานมากพอแล้ว ต้องถึงเวลาฟ้าเปิด พอกันทีกับการปล่อยให้ฝนตกขึ้นฟ้าที่ฝืนธรรมชาติ ให้ธรรมชาติเป็นธรรมชาติ ให้ระบบที่เป็นระบบ” นายพิธากล่าว
นายพิธา ระบุว่า ผมจะไม่เป็นนายกรัฐมนตรีที่สมบูรณ์แบบ แต่จะเป็นนายกฯ ที่ขยันที่สุด เพราะมีความท้าทายใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่มีใครในประเทศไทยแก้ไขปัญหาได้ แต่สัญญาว่า หากมีปัญหา คิดไม่ออก กลับมาที่ถนน เพื่อฟังพี่น้องประชาชน และถวายชีวิตนี้ให้พี่น้องประชาชน และไม่ขอสัญญาว่าการเดินทางของพวกเราจะราบรื่น คงมีอุปสรรคขวากหนาม แต่ขอรับรองว่าจะคุ้มค่า และไม่เหงาอย่างแน่นอน พร้อมขอเสียงคนที่จะเดินไปกับว่าที่นายกฯ ที่ชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
“วันนี้อาจดูมืดมิด แต่ไม่มีเหน็ดเหนื่อยไม่มีท้อแท้ เพราะเชื่อว่าหากเราร่วมมือกัน อะไรก็เป็นไปได้ และถึงเวลาที่ต้องขับเคลื่อนด้วยความหวัง ขอสัญญาว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันของประชาชนที่สว่างไสว ขอแค่เราร่วมมือกัน เปลี่ยนกรุงเทพมหานคร เปลี่ยนประเทศไทย เปลี่ยนโลกนี้ไปด้วยกัน” นายพิธา กล่าวทิ้งท้าย
