โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ชื่นชมความสำเร็จ ภาครัฐ-เอกชน ร่วมกันแสดงศักยภาพของไทยสู่สายตาชาวจีน ในงาน WCIF ครั้งที่ 19 พร้อมสนับสนุนโอกาสผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดจีน
วันนี้ (9 ก.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความสำเร็จอันเกิดจากการบูรณาการการทำงานของทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ได้ร่วมกันจัดแสดงผลงานและสินค้า ในงาน Western China International Fair หรือ WCIF ครั้งที่ 19 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากชาวจีนเป็นอย่างมาก โดยงานนี้จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติเทียนฝู่ เมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทย ในฐานะประเทศเกียรติยศ ในปีนี้ได้เปิดตัว Thai Pavilion “ศาลาไทย” ภายใต้ธีม Open. Connect. Balance. อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นการต่อยอด APEC 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยมีภาครัฐและเอกชนของไทยได้เข้าร่วมเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการนำเสนอ Soft Power ของไทย อาทิ วัฒนธรรมไทย ศิลปะการฟ้อนรำ มวยไทย และยังได้มีการจัดฟอรั่มไทย-เสฉวน เพื่อแสดงศักยภาพและโอกาสด้านการลงทุนของไทยต่อนักธุรกิจในภาคตะวันตกของจีน
งาน WCIF เป็นงานมหกรรมที่สำคัญที่สุดในจีนตะวันตก และเป็น 1 ใน 10 งาน ระดับชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้ง เป็นเวทีและพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนและส่งเสริมการลงทุนระหว่างประเทศ และกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและเสฉวน โดยในการจัดงานทั้ง 5 วัน ที่ผ่านมา สามารถดึงดูดผู้ประกอบการได้กว่า 3,500 รายจาก 56 ประเทศและภูมิภาค และมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 60,000 คน จากทั้งในและต่างประเทศ
“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน นำเสนอศักยภาพของไทยสู่สายตาผู้ประกอบการจีน ในงาน WCIF ครั้งที่ 19 นี้ เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพ และความเข้มแข็งในเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งของผู้ประกอบการไทย จะทำให้การร่วมงานนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้เพิ่มตลาดและช่องทางธุรกิจร่วมกัน ด้วยพื้นฐานความสัมพันธ์ในทุกระดับที่ดีระหว่างไทยจีนเชื่อมั่นว่ายังมีช่องทางที่จะทำให้ความร่วมมือของทั้งสองประเทศเติบโตได้อีกมาก” นายอนุชา กล่าว
ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า มณฑลเสฉวนเป็นมณฑลใหญ่ที่มีความสำคัญ มีตลาด และมีกำลังซื้อ เนื่องจากมีประชากรมากกว่า 80 ล้านคน และเศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ จึงเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทย และจีน