รมว.ดีอีเอส ระบุ ไร้สัญญาณ กก.ขอเสียง พปชร.โหวตนายกฯ แทนเสียง ส.ว.ย้อนถามให้ทำไม แนะ “ปดิพัทธ์” ลดเป็นตัวตึง ถ้าได้นั่งประธานสภา จริง ปล่อยมุก “ลุงป้อม” ไม่เก็บของ แต่ย้ายที่
วันนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า กทม. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกล จะได้ตำแหน่งดังกล่าว และมีชื่อของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ว่า จากที่มีข่าวและพรรคก้าวไกลเสนอชื่อนายปดิพันธ์ ส่วนตัวเท่าที่ดูตึงๆ ไปนิดนึง เพราะบุคคลที่มีลักษณะความเป็นตัวตน เป็นตัวตึง หรือคนที่สู้ให้พรรคมากๆ แล้วมาเป็นประธานสภา ก็จำเป็นต้องลดบทบาทลงไป เพราะตำแหน่งประธานสภาจะเป็นประธานที่ประชุม อันดับแรกจะต้องเป็นกลาง และจะต้องประสานงานกับทุกพรรคการเมือง เพราะการประชุมบางครั้ง พรรคการเมืองหรือสมาชิกอาจมีข้อตกลงบางอย่างที่ไม่ลงตัวกัน คนที่เป็นประธานสภาจะต้องประสานงานจึงจำเป็นต้องมีบารมีและต้องมีวุฒิภาวะที่จะคุยกับทุกพรรคได้ ก็ขอฝากให้คิดในเรื่องนี้ด้วยแล้วกัน
เมื่อถามว่า ถ้าเป็น นายปดิพัทธ์ เป็นประธานสภา การประสานงานต่างๆ จะราบรื่นหรือมีอุปสรรคหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องยังไม่เกิด ก็ยังไม่รู้ จากที่ดูจากแนวทางในอดีต ถ้าตึงเกินไปก็อาจจะทำงานกันก็ยาก จึงอยากได้คนที่สามารถทำให้สภาเดินหน้าได้ดีกว่า เพราะเราทราบกันดีว่า วันนี้ในทางการเมืองก็มีความขัดแย้งทางความคิดกันมาก โดยเฉพาะเรื่องของกฎหมายที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภามีหลายฉบับที่จะมีความขัดแย้งอย่างแน่นอน และอาจมีการทะเลาะกัน เพราะฉะนั้นคนที่เป็นประธานสภา จะต้องใช้วุฒิภาวะในการประสานงานให้สภาเดินหน้าไปได้
เมื่อถามย้ำว่า ความมีอาวุโสของประธานสภาจะมีส่วนต่อการทำงานด้วยหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มีส่วนในทุกๆ เรื่อง ความมีอาวุโส ความมีประสบการณ์ สไตล์การทำงาน ความสามารถที่จะพูดคุยกับทุกคนได้ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือความเป็นกลาง
เมื่อถามว่า จนถึงนาทีนี้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมมีโอกาสที่จะเสนอชื่อประธานสภาแข่งหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สรุปว่า พรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย ตกลงกันได้แล้วใช่หรือไม่ ยังดูข่าวไม่ทันเลย เพราะเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ยังมีข่าวว่ายังตกลงกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุด พรรคก้าวไกล จะไม่ใช้เสียง ส.ว. แต่จะใช้ในเสียงของพรรคพลังประชารัฐไปเติม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบ
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ได้ส่งสัญญาณอะไรมาหรือยัง นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่มีส่งสัญญาณและยังนิ่งๆ อยู่ ก็รอดูสถานการณ์ทางการเมืองไป สุดท้ายเราต้องรอดูพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำเอ็มโอยูกันว่าจะไปได้ถึงวันเลือกนายกฯหรือเปล่า
เมื่อถามถึง มีกระแสข่าวลือที่ค่อนข้างชัดเจนว่า พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลไม่ใช้เสียง ส.ว. แล้ว แต่จะใช้เสียงจากพรรคการเมืองมาเติม โดยพุ่งเป้ามาที่ พล.อ.ประวิตร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า แล้วเราจะไปเติมให้เพื่ออะไร และยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอะไร ยังไม่เห็นมีการเจรจาหรือการประชุมใดๆ พล.อ.ประวิตร ก็ยังนิ่งและไม่มีสัญญาณ และที่สำคัญ ยังไม่ได้เก็บของอะไรเลย รอดูสถานการณ์ไปก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ไม่ได้ย้ายของ เพราะจะอยู่ต่อใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ไม่ได้เก็บของ แต่ต้องย้ายที่”