“นายกฯ” ฝากสื่อพีอาร์แอปฯ “ไทยดี” หวัง ปชช.เข้าถึงบริการภาครัฐสะดวกขึ้น ยังไม่คุย “พีระพันธุ์” เรื่องไขก๊อก ย้ำไม่ตอบการเมือง หวังลดบทบาท ทำงานให้ ปท.ในเวลาที่จำกัด ปัดคุย “พี่ป้อม” ดิวตั้ง รบ.
เมื่อเวลา 11.23 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิด “การใช้งานระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า โดยใช้งานผ่านแอปพลิเคชันไทยดี (ThaID) อย่างเป็นทางการ ว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลริเริ่มมาหลายปี และเป็นไปตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ตามที่รัฐบาลประกาศไว้ ซึ่งวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ การอำนวยความสะดวกดังกล่าวจะเป็นการลดอุปสรรคและปัญหา แต่จะต้องมีระบบความปลอดภัยด้วย จึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมพร้อมกับการให้บริการพร้อมกับการให้บริการ ดังนั้นอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาใช้บริการ ซึ่งมีทั้งส่วนราชการและเอกชนหากเชื่อมโยงกันได้ก็จะเป็นการลดภาระและทำให้การเข้าถึงบริการเร็วขึ้น
ทั้งนี้ วันนี้ถือเป็นการเปิดอย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการทดลองใช้มาแล้ว และหลายอย่างต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ทั้งกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ทุกอย่างจะทำอะไรต้องใช้กฎหมายทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต้องมีการประชาสัมพันธ์ต่อไปและมีการติดตามประเมินผลด้วย แต่ปัญหาคือการสร้างการรับรู้ต้องฝากสื่อมวลชนให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงไม่เช่นนั้นก็จะไปสนใจเรื่องอื่นกันมากกว่า เพราะนี่คือการแก้ไขปัญหาการให้บริการของภาครัฐ ซึ่งรัฐบาลยุคใหม่จะต้องทำงานด้วยระบบดิจิทัลต่างๆ เพราะงานเยอะและซับซ้อน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ ว่า ยังไม่เห็นข่าวเลย และยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า นายพีระพันธุ์ ได้แจ้งหรือไม่ว่าจะลาออกเมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เป็นเรื่องของท่าน
“เอาอันนี้ วันนี้ขอพูดแล้วกัน ผมจำเป็นต้องถอยห่างออกจากการเมือง ฉะนั้น อย่ามาถามผมในเรื่องการเมือง ช่วงนี้เราเดินหน้ามาสู่ช่วงเปิดรัฐสภาโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ จากนั้นจะมีการพิจารณาเลือกประธานสภา ต่อไปก็เดินหน้าไปสู่การเลือกนายกฯ ซึ่งผมขอกำหนดบทบาทของผมให้ชัดเจนว่า ผมจำเป็นต้องถอยออกมาตรงนี้ก่อน ผมจะไปทำเฉพาะเน้นเรื่องงานของรัฐบาล ซึ่งเรามีเวลาอยู่จำกัดในตอนนี้ เพื่อจะรักษาเสถียรภาพของประเทศชาติไว้ให้ได้ ทางด้านเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง รวมถึงความสัมพันธ์ต่างๆ มันต้องแข็งแรงและต้องเข้มแข็ง ผมจะเน้นน้ำหนักตรงนี้ เรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง ที่จะว่ากันไป อย่าเอาผมไปทำให้มันเกิดปัญหาความขัดแย้งอีกเลย ผมก็จะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามต่อว่า มีความเห็นอย่างไรต่อข้อเสนอของสมาชิกพรรคก้าวไกล ที่เสนอเปลี่ยนวันชาติจากวันที่ 5 ธ.ค.ไปเป็นวันที่ 24 มิ.ย. ว่าเหมาะสมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็รู้อยู่แล้ว จะถามทำไม
เมื่อถามอีกว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการเมือง ปล่อยให้การเมืองเขาว่าไป เรื่องการเมืองไม่ตอบ
เมื่อถามย้ำว่า ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่คุยอะไรกับใครทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การออกมาปฏิบัติภารกิจนอกทำเนียบรัฐบาลในวันเดียวกันนี้ ยังคงมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยทุกชั้นของห้างสรรพสินค้าได้มีตำรวจและทหารนอกเครื่องแบบยืนรักษาความปลอดภัยจุดบันไดเลื่อนทุกชั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ขณะเดียวกัน ได้มีประชาชนที่มาเดินซื้อของ เมื่อทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาจึงมาดักรอ เพื่อขอถ่ายรูปและให้กำลังใจ “นายกฯ สู้ๆ” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี.