โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ มุ่งแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและต่อยอดผลการประชุมสามฝ่าย ไทย-เมียนมา-ลาว เมื่อเดือนเมษายน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
วันนี้ (26 มิ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดนให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับผู้นำสามฝ่าย ร่วมกับ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และ พลเอกอาวุโส มิน ออง ไลง์ นายกรัฐมนตรีเมียนมา ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อผนึกกำลังกันในการแก้ปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความคืบหน้าเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน โดยการนำผลการประชุมระดับผู้นำสามฝ่ายไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม มีดังนี้
1. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสสามฝ่ายผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ซึ่งทุกฝ่ายตกลงร่วมกันที่จะร่วมกันขับเคลื่อน “ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy)” คือ (1) C (Continued Commitment) มุ่งปฏิบัติตามเป้าหมายในการลดจุดความร้อนตามแผนปฏิบัติการเชียงราย ค.ศ. 2017 (2) L (Leveraging Mechanisms) โดยส่งเสริมความร่วมมือทุกระดับ ผ่านกลไกคณะกรรมการชายแดนที่เกี่ยวข้อง (3) E (Experience Sharing) การแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ (4) A (Air Quality Network) ส่งเสริมความร่วมมือเครือข่ายการตรวจวัดคุณภาพอากาศ และ (5) R (Effective Response) ตอบสนองต่อปัญหา และต่อยอดผลของการประชุมระดับผู้นำ นอกจากนี้ กระทรวงจะจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม พร้อมจะให้การสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิชาการ ในการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมติดตามตรวจวัดจุดความร้อน และการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมถึงถ่ายทอดประสบการณ์ เพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการเกษตรในพื้นที่สูงต่อ สปป.ลาว และเมียนมา ต่อไป
2. กรมควบคุมมลพิษ ได้อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่องการจัดการเผาในที่โล่งและมลพิษทางอากาศ ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2566 ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมทั้งสามประเทศแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์การแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน และร่วมกันสร้างแผนปฏิบัติงานของ 3 ประเทศขึ้น เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการหาแนวทางที่มีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรมในการรับมือกับสถานการณ์มลพิษหมอกควันข้ามแดนในรูปแบบของแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสามประเทศร่วมกัน
3. กระทรวงการต่างประเทศ ได้บรรจุประเด็นปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดนไว้ในถ้อยแถลงของผู้แทนไทยในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 เมื่อวันที่ 9-11 พฤษภาคม 2566 ณ ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมนำเสนอการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนด้วยยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการประชุมระดับผู้นำสามฝ่าย
“นายกรัฐมนตรีติดตามและตระหนักถึงปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดนและฝุ่นละออง PM 2.5 และมีเจตนารมณ์ในการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านมุ่งแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชนในวงกว้าง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสนับสนุนการปฏิบัติตามแผนมาตรการระยะยาว ปี 2567-2550 เพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มระบบติดตามตรวจสอบและบ่งชี้แหล่งกำเนิดฝุ่นละออง และการพิจารณามาตรการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าทางเกษตรที่มีผลต่อการเกิดมลพิษทางอากาศ” นายอนุชา กล่าว