xs
xsm
sm
md
lg

รองโฆษกรัฐบาล เผย 5 เดือนแรกปี 66 ต่างชาติเข้าลงทุนในไทยกว่า 200 ราย ขนเม็ดเงินเข้ากว่า 45,392 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกรัฐบาล เผย 5 เดือนแรกของปี 2566 ภาคเอกชนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยกว่า 200 ราย สร้างมูลค่าเงินลงทุนถึง 45,392 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นและศักยภาพของอุตสาหกรรมในประเทศ


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลสำเร็จจากนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล จากสถิติการลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยของชาวต่างชาติ ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวน 274 ราย รวมมูลค่าเงินลงทุน 45,392 ล้านบาท โดย 5 อันดับแรกของชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ จีน และ ฮ่องกง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมไปถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่ให้ความสนใจ และตอบรับการลงทุนทำธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง

นางสาวรัชดา กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุถึงสถิติการลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยของชาวต่างชาติ ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 โดยในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2566 รวมจำนวน 274 ราย (แบ่งเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 87 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวจำนวน 187 ราย) รวมเงินลงทุนทั้งสิ้น 45,392 ล้านบาท สามารถสร้างการจ้างงานให้กับคนไทยได้ 2,999 คน

โดยมีชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุดตามลำดับ ดังนี้ 1. ญี่ปุ่น จำนวน 63 ราย เงินลงทุน 15,873 ล้านบาท 2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 48 ราย เงินลงทุน 2,456 ล้านบาท 3. สิงคโปร์ จำนวน 46 ราย เงินลงทุน 6,356 ล้านบาท 4. จีน จำนวน 19 ราย เงินลงทุน 11,479 ล้านบาท 5. ฮ่องกง จำนวน 12 ราย เงินลงทุน 2,991 ล้านบาท และ 6. อื่นๆ จำนวน 86 ราย เงินลงทุน 6,237 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566)

การลงทุนส่วนใหญ่เป็นภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ผ่านนโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศที่เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย นอกจากนี้ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ยังมีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จำนวน 48 ราย มีมูลค่าการลงทุน 9,442 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21 ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทุนมากที่สุด จำนวน 19 ราย ด้วยเงินลงทุน 3,264 ล้านบาท

“รายงานสถิตการลงทุนประกอบธุรกิจดังกล่าว ถือเป็นความก้าวหน้าของภาคการลงทุนและอุตสาหกรรมของไทยที่มีพัฒนาการต่อเนื่อง สะท้อนว่าชาวต่างชาติให้ความเชื่อมั่นในความพร้อมของไทยต่อการเป็นฐานการลงทุนในภูมิภาคที่มีศักยภาพ รวมทั้งเป็นผลสำเร็จจากการดำเนินนโยบายสนับสนุนการลงทุนในประเทศของรัฐบาล ซึ่งมีทั้งมาตรการส่งเสริมการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทย รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมสานต่อการทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นเป้าหมายของนักลงทุน วางรากฐานทางเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวรัชดา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น