“สมศักดิ์” ลงพื้นที่ “สุโขทัย” ติดตามโครงการ “โคล้านตัวต้นแบบ” พบ ปชช.เพาะพันธุ์วัวได้แล้ว 313 ตัว เผย ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สามารถทำงานต่อได้ ยันทำได้จริงหลังถูกบูลลี่เป็นนโยบายขำขัน
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายมนู พุกประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุโขทัย, นายเขตพงศ์ กุลนาถศิริ รองนายก อบจ.สุโขทัย, นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ว่าที่ ส.ส.สุโขทัย เขต 2 พรรคเพื่อไทย, นายทวี เกตุขุนทด ปศุสัตว์จังหวัดสุโขทัย และ นายทักษิณ นันทชัย ปศุสัตว์อำเภอศรีสำโรง ประชุมร่วมกับกลุ่มปศุสัตว์ ใน “โครงการโคล้านตัวต้นแบบ” เพื่อรับฟังปัญหา แนวทางในการเลี้ยงโค และแผนการพัฒนาต่างๆ
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า โครงการโคล้านตัว เป็นการช่วยเหลือของเอกชนที่ต้องการส่งเสริมให้มีเกษตรทางเลือก ซึ่งการมอบวัวให้ชาวบ้านได้เริ่มเลี้ยงตั้งแต่เดือน พ.ย. 62 ถึงเวลานี้ กว่า 3 ปี 8 เดือน โดยมีชาวบ้านได้วัวไปแล้วทั้งสิ้น 200 ครอบครัว วัวจำนวน 400 ตัว โดยมีลูกวัวแล้วทั้งสิ้น 313 ตัว เป็นตัวผู้ 146 ตัว ตัวเมีย 167 ตัว ส่วนสาเหตุที่ลูกวัวอาจจะดูไม่มาก เนื่องจากผู้เลี้ยงไม่ได้รับวัวพร้อมกัน โดยรายสุดท้ายที่ได้รับวัวจะอยู่ในระหว่างเดือนมีนาคม 2564
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การประชุมร่วมกันในวันนี้ ได้รับฟังปัญหาที่เป็นประโยชน์มากในการที่จะพัฒนาต่อไป เช่น เรื่องราคาวัวตกต่ำ ไม่มีตลาดการส่งออก แหล่งอาหารโภชนาการของสัตว์ที่มีมาตรฐาน วัคซีนป้องกันโรคติดต่อ การผสมพันธุ์ และปัญหาสำคัญ คือ ช่วงอุทกภัย ราคาอาหารวัวจะมีราคาสูง โดยปัญหาเหล่านี้เชื่อว่าเมื่อมีรัฐบาลทุกสิ่งจะดีขึ้นตามลำดับ และตนจะนำปัญหาเหล่านี้สะท้อนกับพรรคเพื่อไทยด้วย
“การริเริ่มนโยบาย โคล้านตัว มีมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ผมเคยดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ แต่เวลานี้ก็เป็นนโยบายหาเสียงของหลายพรรคการเมือง ผมเองมีความสุขเพราะสิ่งที่คิดไม่ได้หายไป เมื่อก่อนพูดกับใครมองว่าทำได้หรือบางคนก็มองเป็นนโยบายตลก เวลานี้ต้องขอบคุณเกษตรกร ที่ทำให้เห็นว่าการเลี้ยงวัวนั้น มีรายได้ ทำได้จริง จากนี้ผมมองว่าภาครัฐต้องกลับมาทบทวน ว่า จะทำอย่างไรถึงจะแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ และผลักดันให้เป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพทางเลือกให้กับเกษตรกร” นายสมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสมศักดิ์ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมสถานที่เลี้ยงวัวของชาวบ้านผู้ร่วมโครงการ อีก 4 จุด โดยเริ่มจากการมีวัวเพียง 2 ตัว จนเวลานี้มีการขยายพันธุ์เป็นจำนวนมาก โดย 1. นายสุเทพ บุญทวี มีวัว 9 ตัว 2. นายศรันยู อินหล่อ มีวัว 8 ตัว 3. นายสยาม รุ่งไทย มีวัว 8 ตัว และ 4. นางสาวนุชนาถ คงเวทย์ มีวัว 7 ตัว
ขณะที่ นายสุเทพ เล่าว่า เมื่อก่อนตนได้เงินจากโครงการมา 3 หมื่นบาท แล้วได้เพิ่มเงินส่วนตัวอีก 1.3 หมื่นบาท รวมทุนเป็น 4.3 หมื่นบาท เพื่อไปซื้อแม่วัวที่ตั้งท้องอยู่ จึงได้ลูกมาด้วย จากนั้นขยายพันธุ์ได้ตัวผู้จะนำไปขาย เพื่อนำเงินไปซื้อตัวเมีย จนเวลานี้ 3 ปีครึ่ง ตนมีวัวทั้งสิ้น 9 ตัว เป็นตัวเมีย 6 ตัวผู้ 3 คิดมูลค่าก็มีเงินกว่า 2 แสนบาท โครงการนี้ทำให้ตนและครอบครัวมีรายได้จากคนที่ไม่มี แต่เวลานี้ก็พอที่จะดูแลครอบครัวได้มากขึ้น.