“วันนอร์” ชี้ ประชามติแยก “ปาตานี” เป็นเอกราช ทำไม่ได้ ขัด กม.- รธน. เชื่อ นศ.แค่จำลองเวที ยันราชอาณาจักรไทยจะแบ่งแยกมิได้ ระบุ เสรีภาพไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้
วันนี้ (15 มิ.ย.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกรณีภายหลังขบวนนักศึกษาแห่งชาติ (Pelajar Kebangsaan) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2566 ณ คณะรัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานี โดยมีจัดกิจกรรมปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การกำหนดอนาคตตนเอง (Self Determination) กับสันติภาพปาตานี” และการจัดพิมพ์บัตรสอบถามประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมายได้หรือไม่ ว่า
การทำประชามติทำไม่ได้อยู่แล้ว และพรรคก็ไม่เห็นด้วย เพราะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนที่พรรคส่งชื่อ ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ว่าที่ ส.ส.ปัตตานี ไปเข้าร่วมกิจกรรมนั้น เพราะเป็น ส.ส.ในพื้นที่ และเป็นการจัดกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งคิดว่าคงไม่มีประเด็นอะไร และเชื่อว่า มหาวิทยาลัยจะมีการตรวจสอบอยู่แล้ว และที่ผ่านมา ส.ส.ของพรรคก็มีการพูดจาปราศรัยกับนักศึกษา ในทางวิชาการ อยู่หลายครั้งก็ไม่มีประเด็นอะไร และครั้งนี้ก็เห็นว่านักศึกษาน่าจะต้องการขอความรู้ทางวิชาการเรื่องอนาคตตนเองโดยมีอาจารย์อื่นๆ ร่วมด้วย
ส่วนเรื่องที่นักศึกษาจัดกิจกรรมขึ้น เราในฐานะพรรคการเมืองผู้เข้าร่วมเท่านั้น เมื่อนักศึกษาอยู่ภายในมหาวิทยาลัยผู้ที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็คือมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ดี เรื่องการทำประชามตินั้น ยืนยันว่า ทำไม่ได้โดยรัฐธรรมนูญและพรรคไม่ได้สนับสนุนใดๆ การที่ นายยามารุดดิน ทรงศิริ รองโฆษกพรรคเป็นธรรม ระบุว่า เป็นเพียงการทำประชามติแยกตามกฎหมาย ไม่ได้ถามความเห็นว่าจะแยกดินแดนหรือไม่นั้น ตนไม่รู้ในรายละเอียดและเป็นความเห็นของส่วนบุคคล แต่สำหรับภาวะพรรคประชาชาติในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ว่าการทำประชามติจะเป็นแบบจำลอง หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าบ่งบอกเพื่อเป็นเอกราช หรือแบ่งแยกดินแดน ย่อมทำไม่ได้อยู่แล้ว ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ พรรคจึงไม่เห็นด้วยหากจะมีการกระทำดังกล่าว ส่วนบุคคลที่กระทำไป ตนคิดว่าทุกฝ่ายควรพิจารณาว่าใครต้องรับผิดชอบ
“พรรคเพียงแต่ถูกเชิญไปพูดในเชิงวิชาการให้ไปร่วมการแสดงความคิดเห็นต่อการทำประชามติว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย และจากการที่ตนสอบถาม ผศ.ดร.วรวิทย์ ทราบว่า เป็นการทำประชามติช่วงเช้า แต่อาจารย์ไปเข้าร่วมช่วงบ่าย 2 แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ รศ.ดร.มารค ตามไท ทยอยเข้าร่วมงาน และนักการเมืองอีก 2 พรรค ที่ถูกเชิญเข้าร่วมเช่นกัน เมื่อจบเวทีก็กลับ ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่อใดๆ
ที่นอกเหนือจากนี้ พรรคเราเอาความจริงมาพูด เราเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ เรารู้ดีว่าเราสู้เพื่อสันติสุขของประชาชนให้อยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมให้ได้ เราไม่แบ่งแยก อย่าว่าแต่แบ่งจังหวัดเลย เราไม่แบ่งแยกศาสนา เพราะประเทศต้องสามารถอยู่ร่วมกันให้ได้หลายเชื้อชาติ หลายศาสนา หลายความเชื่อถือ เพื่อสันติสุขประเทศเดินไปข้างหน้า นี่คือจุดยืนของพรรคประชาชาติ”
เมื่อถามว่า กิจกรรมที่ขบวนนักศึกษาแห่งชาติจัดขึ้นมองเป็นเสรีภาพการแสดงออกทางความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญได้หรือไม่นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง เสรีภาพต้องใช้ให้เหมาะกับกฎหมายด้วย ถ้าเสรีภาพไปใช้ในทางที่ผิดก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เสรีภาพต้องอยู่ภายใต้กรอบขอบเขตของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่มีเสรีภาพแล้วจะทำอะไรก็ได้
ตนคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นักศึกษา ก็คงไม่ได้ต้องการให้นักการเมืองเข้าไปร่วม อาจจะต้องการจำลองเวทีซึ่งก็เป็นกิจกรรมของนักศึกษา เราเข้าใจดี เคยเป็นนักศึกษามาก่อน แต่ว่าพรรคจะไปก้าวล่วงว่ากระทำผิดหรือถูกไม่ได้ เชื่อว่า กิจกรรมนักศึกษาย่อมมีขอบเขตของตัวเองอยู่แล้วแต่เราก็ต้องเปิดพื้นที่ให้กับนักศึกษา จะไปจำกัดพื้นที่การแสดงความคิดเห็นของนักศึกษาคงไม่ได้ ส่วนจะทำผิดหรือถูกหรือใครต้องรับผิดชอบต่อสาธารณะเป็นอีกเรื่อง
เมื่อถามว่า ถ้ากรณีรัฐบาลหยิบจับเป็นคดีความมั่นคงจะเกิดปัญหาบานปลายมากขึ้นหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง แต่สำหรับพรรคการเมืองเองก็ไม่อยากให้ทุกอย่างบานปลาย เพียงแต่อยากให้ทุกอย่าง บ้านเมืองเรียบร้อยสงบ