“อนุชา” หารือ อธิบดีกรมเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงการต่างประเทศและการค้า นิวซีแลนด์ เพิ่มความร่วมมือสองประเทศ ด้านการศึกษา ท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (14 มิ.ย.) เวลา 15.00 น. Mr. Mark Talbot (นายมาร์ค ทัลบอท) อธิบดีกรมเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงการต่างประเทศและการค้า นิวซีแลนด์ เข้าพบหารือกับ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมี H.E. Mr. Jonathan Dale Kings เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เข้าร่วมการหารือด้วย สาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับ และขอบคุณความร่วมมือของเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ มาโดยตลอด ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีพลวัตที่ต่อเนื่องและมีความใกล้ชิด
ฝ่ายนิวซีแลนด์ โดยเอกอัครราชทูต ขอบคุณการต้อนรับ และความร่วมมือตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาของรัฐบาลไทย ทั้งนี้ เป็นเกียรติที่ได้พา อธิบดีกรมเอเชียใต้ฯ เข้าพบหารือ เพื่อหาโอกาสเพิ่มความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ
อธิบดีกรมเอเชียใต้ฯ กล่าวถึงการประชุมเอเปกปี 2565 (APEC 2022) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งได้เข้าร่วมในฐานะ เจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปกนิวซีแลนด์ (SOM) ชื่นชม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ขอบคุณการต้อนรับของไทย ชื่นชมความสำเร็จจากสาระสำคัญในการประชุม รวมทั้งประเทศไทยทำให้เกิดการรวมตัวของภูมิภาค เกิดผลสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้จะมีความท้าทายที่เกิดขึ้นระหว่างการประชุม
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการจัดการประชุมเอเปกอย่างมาก และต้องการผลักดันความร่วมมือด้าน BCG ให้เกิดขึ้นในภูมิภาค ถือเป็นความสำเร็จที่ผู้นำจากทุกเขตเศรษฐกิจร่วมรับรอง Bangkok goals on Bio-Circular-Green (BCG) Economy หรือ เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ และไทยหวังที่จะเพิ่มความร่วมมือกับนิวซีแลนด์ ซึ่งมีศักยภาพในประเด็นนี้
ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการศึกษาเพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยฝ่ายนิวซีแลนด์ต้องการให้สนับสนุนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้แนะนำถึงการท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่มีทั้งการท่องเที่ยวแบบเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และสุขภาพ โดยเอกอัครราชทูตได้ยกตัวอย่างถึงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างภูเก็ต กับนิวซีแลนด์ เรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฯ หวังว่า ทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือด้านการศึกษามากขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพนักเรียนไทย
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่เป็นที่สนใจอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเอกอัครราชทูต ได้กล่าวว่า นางสาวจาซินดา อาร์เดิร์น อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ชื่นชมนายกรัฐมนตรีในหลายโอกาส ทั้งความช่วยเหลือที่ไทยมีต่อเมียนมา และบทบาทระหว่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชื่นชมในมนุษยสัมพันธ์ รอยยิ้ม และมิตรไมตรีที่อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์มีให้เช่นกัน