xs
xsm
sm
md
lg

'เรืองไกร' เย้ย คลิปเสียงไร้น้ำหนัก เห็นข่าวยังสงสัย แถลงตื่นเต้นอะไร เรื่องนี้ต้องดูยาวๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'เรืองไกร' เย้ย คลิปเสียงไร้น้ำหนัก เห็นข่าวยังสงสัย แถลงตื่นเต้นอะไร เรื่องนี้ต้องดูยาวๆ โดยอยากฝากถึงหลายคนที่ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความดีใจจนออกนอกหน้าเกี่ยวกับเรื่องหุ้นนายพิธา ควรศึกษาข้อกฎหมายและเอกสารหลักฐานอื่นๆ ให้รอบคอบ เพราะหลักฐานไม่ได้มีแค่บันทึกการประชุมเพียงแผ่นเดียว แต่ไม่ได้ขัดข้องหากใครจะดีใจ ก็ถือเป็นความหวังอีกเฮือกหนึ่งของผู้สนับสนุนนายพิธา

หลัง รายการ ข่าว 3 มิติ นำคลิปเสียงบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นของไอทีวีมาเผยแพร่ โดยหนึ่งในใจความสำคัญของการประชุมดังกล่าว คือการระบุว่า ไอทีวี ไม่ได้ทำสื่อตามวัตถุประสงค์ ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารการประชุมที่มีการนำมาเผยแพร่ก่อนหน้านี้
วันที่ 12 มิ.ย.2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบการถือหุ้นไอทีวีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้หมายถึงบันทึกการประชุมเป็นเท็จ แต่เป็นเพียงการจดบันทึกที่คลาดเคลื่อน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผู้ถือหุ้นที่ตรวจพบสามารถแจ้งไปยังบริษัทเพื่อแก้ไขบันทึกได้

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า คลิปเสียงที่นำมาเปิดเผย ไม่ได้ทำให้น้ำหนักในการถือหุ้นไอทีวีซึ่งเป็น “กิจการสื่อ” ลดน้อยลงไป เพราะวัตถุประสงค์การจัดตั้งบริษัทที่จดแจ้งเอาไว้ ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนหรือยกเลิกไป ยังคงวัตถุประสงค์เดิมอยู่ และคำว่า “สื่อ” ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องรับสัมปทาน หรือมีสัญญาร่วมการงานกับรัฐเท่านั้น แต่ประกอบกิจการอย่างอื่นก็เป็นสื่อได้ เช่น ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ก็เป็นสื่อ หรือรับพิมพ์สิ่งพิมพ์ต่างๆ เหมือน บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด กรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็มีสถานะเป็น “สื่อ” เช่นกัน

ฉะนั้นเรื่องบันทึกการประชุมจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เห็นข่าวแล้วยังอดสงสัยไม่ได้ว่าจะมาแถลงตื่นเต้นอะไรกัน จึงขอเสนอให้ผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ ไปเปิดพจนานุกรมดูว่า คำว่า “สื่อ” หรือ mass media หมายความว่าอะไร มีอะไรที่เป็น mass media บ้าง

นอกจากนั้น ในบันทึกการประชุมฉบับเต็มของไอทีวี ก็มีการรายงานแผนธุรกิจ และแผนการทำสื่อรูปแบบต่างๆ ระบุเอาไว้ชัดเจน ตั้งแต่ก่อนจะจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่เสียอีก ฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องการเมืองที่มีการวางแผนเล่นงานนายพิธา ตามที่มีการตั้งข้อสงสัยกัน

นายเรืองไกร กล่าวถึงกรณี กกต.ตีตกคำร้อง เกี่ยวกับคุณสมบัตินายพิธา ที่ยังถือหุ้นไอทีวีอยู่นั้น ว่า ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจาก กกต. กำลังรอพิจารณาเหตุผลอยู่ แต่การตีตกคำร้องไม่ได้แปลว่า นายพิธา จะรอดเรื่องหุ้นไอทีวี เพราะ กกต.ตีตกคำร้องในแง่ที่ว่าพ้นระยะเวลาส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาวินิจฉัยเท่านั้น ซึ่งต้องส่งก่อนเลือกตั้ง

แต่ตอนนี้ กกต.ตั้งแท่นดำเนินคดีอาญา ตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 151 จึงแสดงให้เห็นว่า กกต.เชื่อเองว่า นายพิธา ไม่มีคุณสมบัตลงสมัคร ส.ส. และรู้ตัวเองตั้งแต่ต้น แต่ยังฝืนลงสมัคร ซึ่งในความเห็นของตนถือว่าหนักกว่าคำร้องที่ตนยื่นไปด้วยซ้ำ

นายเรืองไกร กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากฝากถึงหลายคนที่ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความดีใจจนออกนอกหน้าเกี่ยวกับเรื่องหุ้นนายพิธา ควรศึกษาข้อกฎหมายและเอกสารหลักฐานอื่นๆ ให้รอบคอบ เพราะหลักฐานไม่ได้มีแค่บันทึกการประชุมเพียงแผ่นเดียว แต่ไม่ได้ขัดข้องหากใครจะดีใจ ก็ถือเป็นความหวังอีกเฮือกหนึ่งของผู้สนับสนุนนายพิธา แต่อยากขอให้ดูเรื่องนี้ยาวๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น