โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ส่งเสริมแผนขับเคลื่อนงานแพทย์แผนไทย สร้างความมั่นคง ดึงจุดแข็ง คงคุณค่า สร้างรายได้ เชื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หนุนปกป้องคุ้มครองภูมิปัญญาไม่ให้สูญหาย
วันนี้ (11 มิ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบแผนการดำเนินการขับเคลื่อนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยวางแผนขับเคลื่อนงานแพทย์แผนไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) สร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะ และสร้างความมั่นคงในระบบสุขภาพ รวมถึงเป็นการปกป้องคุ้มครองภูมิปัญญาไม่ให้สูญหาย ผสานอัตลักษณ์ความเป็นไทยกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำแผนการขับเคลื่อนนโยบายการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมกับชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยนำจุดแข็งที่สำคัญของการแพทย์แผนไทย และศักยภาพในการผลิตยาสมุนไพรของประเทศมาพัฒนาต่อยอดสร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงในระบบสุขภาพ โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็นสำคัญ คือ
1. การสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ในกลุ่มอาการปวดเรื้อรังและนอนไม่หลับ ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยระยะกลาง เรื้อนกวาง และการลดอันตรายจากยาเสพติด
2. การบริหารจัดการโรงงาน GMP ในเขตสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่ผลิตยาสมุนไพรทั้งหมด 61 แห่ง ผ่านมาตรฐาน GMP แล้ว 45 แห่ง และอยู่ระหว่างพัฒนาให้ได้มาตรฐานอีก 7 แห่ง
3. ขับเคลื่อนศูนย์เวลเนสอัตลักษณ์ไทย (Thainess Wellness Center) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยล่าสุดมีสถานประกอบการขอรับรองเป็นศูนย์เวลเนส 570 แห่ง ได้การรับรองแล้ว 160 แห่ง
สำหรับแผนขับเคลื่อนงาน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) มีเป้าหมายสำคัญ คือ
1. ประชาชนเชื่อมั่น โดยมีการดูแลสุขภาพตนเองเมื่อเจ็บป่วยด้วยยาสมุนไพรเพิ่มขึ้นจาก 1.48% เป็น 15%
2. บริการเป็นเลิศ โดยเลือกใช้บริการการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก เมื่อเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นจาก 4.58% เป็น 20%
3. ภูมิปัญญาสร้างคุณค่า โดยมีการบริโภคสมุนไพรในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 90,000 ล้านบาท และเป็น 1 ใน 3 ของเอเชีย ภายในปี 2570
“นายกรัฐมนตรีส่งเสริมการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก รวมถึงการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นจุดแข็งของไทย เชื่อมั่นสามารถนำไปสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมทั้งสนับสนุนการปกป้อง คุ้มครองภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทยไม่ให้สูญหาย ให้ทรงคุณค่าในเชิงสังคมและวัฒนธรรมของชาติ นำมาต่อยอดใช้ในระบบสุขภาพ เพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชนและประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป” นายอนุชา กล่าว