“พิจารณ์” รับไม่สบายใจ ส.ก.ของพรรค เขตยานนาวา ส่งหนังสือตรงถึงประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ขอให้โยกย้ายข้าราชการ ยัน “ก้าวไกล” ทำงานตรงไปตรงมา หากมีความผิดจะไม่เข้าข้าง
วันที่ (6 มิ.ย.) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล ที่ส่งหนังสือขอย้ายข้าราชการ 4 คน ถึง นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า พรรคก้าวไกล เพิ่งทราบเหตุการณ์ โดยตนเองได้โทรศัพท์สอบถามนายพุทธิพัชร์ ว่า เรื่องราวเป็นอย่างไร จึงทราบว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในสำนักงานเขตยานนาวา มีประเด็นไม่ได้สนองต่อนโยบายของผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ส.ก.พรรคก้าวไกล จึงมีพยายามเข้าพูดคุย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงเป็นที่มาในการยื่นหนังสือ
เมื่อพรรคเห็นหนังสือดังกล่าว จึงเกิดความไม่สบายใจ และเป็นห่วงความรู้สึกของข้าราชการโดยเฉพาะข้าราชการ กทม. เราเน้นย้ำว่า เราเข้ามาทำงานนี้ เพื่อยกระดับการเมือง เปลี่ยนแปลงสภากรุงเทพมหานคร เพื่อประโยชน์ของประชาชน ประเด็นที่เกิดขึ้น คาดว่า เกิดจาก ส.ก.ไม่ระมัดระวัง มองว่า ควรมีการหารือกับผู้บริหาร กทม.ก่อน เมื่อพิจารณาจากหนังสือที่ยื่นไปตนเองมองว่า ไม่ได้เป็นการก้าวก่ายในฝ่ายบริหารแต่อย่างใด เป็นเพียงการปรึกษาหารือ ให้ทางฝ่ายบริหารนำไปพิจารณาเท่านั้น
โดยกรณีนี้ได้ปรึกษารอบนอกกับผู้บริหาร กทม.เพราะมีความเป็นห่วงข้าราชการ กทม. ที่ถูกระบุอยู่ในหนังสือ จึงอยากยืนยันว่าในการทำงานของพรรรคก้าวไกล เราทำงานอย่างตรงไปตรงมา เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานของฝ่ายบริหารอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตนเองได้ทราบจากทางฝ่ายบริหารแล้วว่า จากนี้จะมีการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ยืนยันว่า พรรคก้าวไกล ไม่เข้าข้าง ส.ก.รายดังกล่าว แต่หาก ส.ก.รายดังกล่าวมีความผิดจริงดังที่มีการออกมาแฉ ทางพรรคจะดำเนินการโดยทันที ซึ่งขณะนี้ ส.ก.รายดังกล่าว กำลังเตรียมการที่จะนำเสนอข้อมูล เอกสารเพิ่มเติมว่าเกิดอะไรขึ้น จึงทำให้มีการทำหนังสือขอให้ย้ายข้าราชการออกไป
จากการสอบถาม ส.ก.รายดังกล่าวเพิ่มเติม ทำให้ได้ทราบว่า ข้าราชการทั้ง 4 รายนั้น มีปัญหาในการทำงานที่ไม่สนองต่อนโยบายของ กทม. และยังพบเบาะแสเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความไม่ชอบมาพากล สิ่งที่นำมาซึ่งการออกหนังสือฉบับนั้นเป็นเพราะเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา กทม.มีการออกหนังสือฉบับหนึ่งเป็นบันทึกข้อความทำความเข้าใจถึงข้าราชการ กทม.ว่า ที่ผ่านมา พบมีบางส่วนทำงานมาเป็นระยะเวลามายาวนานในตำแหน่งเดิม ทำให้เกิดการใช้อิทธิพลจนทำให้มีการปรับย้ายเพื่อความเหมาะสม จากจดหมายเวียนฉบับดังกล่าวจึงเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ ส.ก.รายดังกล่าวออกหนังสือปรับย้าย