หน.ก้าวไกลอ้างโอนหุ้นให้ทายาทอื่นเพื่อหวังตั้งรัฐบา่ลให้สำเร็จ หวั่นการคืนชีพความเป็นสื่อให้ไอทีวี โวลาก "บิ๊กตู่" เข้ากระบวนการตอบสอบช่วงบริหารประเทศ 8 ปี ไม่ใช่การแก้แค้น ด้านว่าที่พรรคร่วมตั้งคณะทำงานเพิ่มอีก 5 ชุด พท.ชง 5 แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพทำงาน "ทวี" หนุนแก้รากเหง้ากระจายที่ดินทำกิน "อนุดิษฐ์" จี้แก้ รธน.เร็วที่สุด
เมื่อเวลา 12.20 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หีวหน้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยตัวแทนทั้ง 7 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล แถลงข่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านนัดแรก โดยนายพิธา กล่าวว่า วันนี้เป็นวาระการประชุมตามงานทั้ง 7 คณะทำงาน ซึ่งมีวาระเกี่ยวกับพลังงานและน้ำมันดีเซลมาอธิบายให้ฟังถึงข้อดีข้อเสีย และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผลกระทบกับประชาชน เมื่อรัฐบาลปัจจุบันไม่ต่อสัญญาในการลดภาษีสรรพสามิต วาระที่ 2 คือการกำหนดบทบาท และผลที่ต้องการเห็นจากคณะทำงานทั้ง 7 คณะ เอกภาพให้สามารถทำงานต่อเนื่องมีเอกภาพและเกิดผลลัพธ์ต่อประชาชนได้จริง และวาระที่ 3 คือการกำหนดคณะทำงานเพิ่ม 5 คณะ ที่ประชาชนให้ความสนใจ คือ 1.คณะทำงานเศรษฐกิจและคณะทำงานดิจิทัล, 2.คณะทำงานต่อต้านคอร์รัปชั่นต่อต้านส่วย, 3.คณะทำงานสาธารณสุขเน้นเรื่องการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลที่เกิดประเด็นในสังคมขณะนี้, 4.คณะทำงานเพื่อความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติของสังคมไทย และ 5.คณะทำงานปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ
โดยวันที่ 7 มิ.ย. พรรคร่วมทั้ง 8 พรรคจะประชุมหัวหน้าพรรค และเอาข้อสรุปวันนี้ไปประชุม และคณะทำงานนี้ประชุมอีกครั้ง 20 มิ.ย. ที่พรรคก้าวไกล และจะมีคณะทำงานสัญจรลงพื้นที่ในต่างจังหวัดมากขึ้นในช่วง 2-3 อาทิตย์ที่จะถึงนี้ เช่น สุราก้าวหน้า จ.อุบลราชธานี และฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่ จ.เชียงใหม่
ขณะที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ตัวแทนพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า พรรคเพื่อไทยมีข้อเสนอแนะไปยังคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ 5 ข้อเพื่อเป็นกรอบการทำงานของแต่ละคณะเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ โดยข้อแรกเราเสนอเรื่องความมั่นคงทางการคลัง ทุกนโยบายต้องคิดคำนวนความคุ้มค่าที่ลงทุนไป ต้องมีระบบภาษีที่มีประสิทธิภาพ โดยทำให้คนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้นให้รัฐบาลมีรายได้มากขึ้น แต่ไม่ใช่การเก็บภาษีเพิ่ม การออกแบบนโยบายต้องคิดคำนวนการเจริญทางเศษฐกิจควบคู่ความเท่าเทียมการกระจายรายได้ แต่ละคณะต้องวางแผนทำงานระยะสั้น สะยะกลางและระยะยาวในด้านต่างๆ และการเปิดให้ประเทศมีการหารายได้เข้ามาจากการต่างประเทศที่สร้างรายได้ได้
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตัวแทนพรรคประชาชาติ กล่าวว่า เราต้องวางโรดแม็ปในการสร้างสันติภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน และปัญหาที่เป็นรากเง้าคือที่ดินทำกินเราต้องกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรม เราจะไม่แก้เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาเช่นการทวงคืนผืนป่า คณะทำงานเราจึงเสนอทั้งคนของพรรคและผู้เชี่ยวชาญมาร่วมดำเนินการ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 8 พรรคเห็นตรงกันว่าเป็นวาระเร่งด่วนที่ควรทำให้เร็วที่สุดหลังการเปลี่ยนผ่าน รวมถึงค่าพลังงานทั้งน้ำมันและค่าไฟฟ้า ทั้ง 8 พรรคจะพิจารณาอย่างรอบคอบและให้ส่งผลกระทบน้อยที่สุดให้ประชาชนได้รับราคาที่เป็นธรรม และคณะความเท่าเทียมด้านเศรษฐกิจและสังคง เราเห็นตรงกันว่าจะไม่ให้ความสำคัญแค่รัฐสวัสดิการเท่านั่น แต่ให้เศรษฐกิจและสังคมเติบโตอย่างเท่าเทียม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการโอนหุ้นไอทีวี นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่การขาย แต่โอนให้ทายาทไปเมื่อปลายเดือน พ.ค. ในอดีตตนมั่นใจในข้อกฎหมายและหลังฐาน แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะมีความพยายามฟื้นคืนชีพไอทีวีขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจหรือการเมือง ตนจึงตัดสินใจโอนหุ้นให้ทายาท รวมถึงการโอนหุ้นดังกล่าวเพื่อให้การตั้งรัฐบาลดำเนินการได้สำเร็จ
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ระบุว่า ไม่ห่วงเรื่องการเช็กบิลหลังออกจากอำนาจ ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะดำเนินการอะไรอย่างไรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่าเราสามารถอนุมานได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ คงยินดีเข้าสู่การตรวจสอบการดำเนินการตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องการเช็กบิล แต่ต้องการให้เกิดวัฒนธรรมรับผิดรับชอบในเรื่องต่างๆ ทั้งในเรื่องการรัฐประหาร ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 พ.ร.บ.เหมืองฯ เรื่องการทวงคืนผืนป่า การละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยรัฐบาลจะดำเนินการตามระบบไม่ใช่การแก้แค้นแต่อย่างใด.