“บิ๊กตู่” เผย นักลงทุนกังวลจัดโฉมรัฐบาล ชี้ทุกอย่างกำลังเดินไปด้วยดี ลั่นรบ.ใหม่ต้องมองจุดนี้ ถ้าเสียหายพ้นหน้าที่ตนแล้ว เมินดีลลับ งดฟังงดดูโซเชียล อ้างงานล้นมือแฟ้มเต็มโต๊ะ อย่ามองนายกฯอยู่ทำเนียบฯไร้งาน ติง “พิธา” ตั้งทีมคุยงานรับเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ไม่สมควร เหตุ ขรก.ยังทำงานกับรัฐบาลเดิม พูดรัวๆ “ไม่รู้สึก” เหมือนถูกซ้อนนายกฯ
เมื่อเวลา 12.05 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยกล่าว “สวัสดีนะครับสื่อมวลชนที่รักทุกท่าน ทั้งประชาชนที่รับฟังอยู่ทางบ้านด้วย การประชุมครม.มีหลายเรื่องทั้งเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ภายหลังการแถลงผลการประชุมเสร็จสิ้น นายกฯถามสื่อมวลชนว่ามีอะไรอีกไหม ไม่มีประเด็นข่าวไม่รู้จะส่งไปกองบก.อย่างไรใช่หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของนักลงทุนต่างประเทศที่นายกฯเคยคุยไว้ก่อนหน้านี้ หลังการเลือกตั้งได้มีปฏิกิริยาอะไรกลับมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็ห่วงกังวลอยู่เหมือนกัน มันจะออกมาในรูปไหนอย่างไร เพราะหลายอย่างก็มีคนออกมาพูดเยอะแยะไปหมด จะทำตรงโน้นตรงนี้ มันก็เกิดการต้องทบทวนอีกทีเหมือนกัน ตนก็เป็นกังวลเรื่องนี้เพราะหลายๆอย่างมันกำลังดีอยู่ในขณะนี้ สิ่งที่รัฐบาลทำมาคือการแก้ปัญหาการลงทุนจากภายนอก เพราะภายในอยู่ในวงจรของเราอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาทั้งภายในและเอาคนลงทุนจากต่างประเทศมาลงทุนในประเทศ จะได้เป็นการเพิ่มรายได้จีดีพีของเราขึ้นมา ถ้าเราไม่พูดถึงการลงทุนต่างประเทศหรือเอาเขาเข้ามาน้อยลงไปมันก็กลายเป็นน้ำหนักอยู่ตรงนี้ ก็จะเป็นภาระเหมือนกัน หลายท่านคงฟังแล้วที่เขาไปพบปะเยี่ยมเยียนกันอันนั้นเป็นสิ่งที่เขาคุยได้ เพราะไม่ใช่ส่วนราชการ
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯจะมีส่วนช่วยทำให้เกิดความเชื่อมั่นอะไรขึ้นมาหรือไม่ในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่เกี่ยวข้องตรงนี้ ผมบอกตั้งหลายครั้งแล้วผมไม่เกี่ยวข้อง ผมทำหน้าที่ของผมคือการเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ให้ดีที่สุด อันนั้นเป็นเรื่องของทางการเมืองก็ว่ากันไปสิ” เมื่อถามย้ำว่าการให้ความมั่นใจกับนักลงทุนในระหว่างที่ยังไม่ตั้งรัฐบาลใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะเป็นรัฐบาลใหม่ก็ต้องให้ความสนใจตรงนี้ด้วย ถ้ามันเสียหายขึ้นมาก็พ้นหน้าที่ของตนไปแล้ว เพราะตนได้ทำไว้แล้ว
เมื่อถามว่าได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของดีลลับการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่รู้เรื่อง ไม่ฟังๆ ไม่เปิดโซเชียล ไม่เปิด” เมื่อถามว่าไม่ได้ฟังไม่ได้ดูอะไรเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ไม่ฟังไม่ดู จะดูทำไมล่ะ งานตนเยอะแยะไปไม่มีเวลาว่างที่จะไปทำอะไรเท่าไหร่หรอก ไม่ใช่ไม่มีงานนะ หลายคนบอกนายกฯไม่มีงาน วันนี้อยู่ที่ทำเนียบฯไปดูแฟ้มตนที่อยู่บนโต๊ะสิ ส่วนราชการก็ทำงานทุกหน่วย แฟ้มเอกสารมา 50-60 แฟ้มทุกวัน มาบอกตนไม่มีงานไม่มีราชการได้อย่างไร ไม่เข้าใจ ให้รู้ว่าการเป็นรัฐบาลเขาทำงานอะไรกันบ้าง ลงพื้นที่ออกเยี่ยมเยียนติดตามความก้าวหน้า ขณะเดียวกันต้องรันงานเอกสารให้จบด้วย ไม่เช่นนั้นไปไม่ได้สักอัน กระทรวงทุกกระทรวงมีรายงานเสนอมาให้พิจารณาตั้งเยอะแยะ เว้นแต่เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการใหม่ทำไม่ได้ตามกติกาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำอะไรก็ต้องขอเขา โครงการที่จะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้
เมื่อถามว่าในส่วนของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลที่อังกฤษ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่าลาในตอนแรก ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน จริงๆแล้วเขาไปเกี่ยวกับเรื่องการประชุมของสาธารณสุขด้วย ก็คงแวะไปพักผ่อนอะไรของท่านก็แล้วแต่ มีสิทธิ์อยู่แล้วลาพักผ่อนได้ เมื่อถามว่านายกฯอยากให้สถานการณ์มันจบไปเร็วๆหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ถามประชาชนเอาแล้วกัน ถามตน ตนบอกไม่ได้ และบอกแล้วว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล เรื่องการพูดคุยเป็นเรื่องของเขา
เมื่อถามว่าที่พรรคก้าวไกลกับพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกันจัดตั้งคณะเตรียมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลหรือ Transition team กับหน่วยราชการทำได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันไม่ควร ไม่สมควร ข้าราชการยังทำงานอยู่กับข้าราชการปัจจุบัน วันหน้าทางรัฐบาลก็เตรียมข้อมูลต่างๆส่งมอบด้วย ตนสั่งการไปหลายครั้งและย้ำไปแล้วทุกกระทรวงต้องมีแผนงานโครงการที่ดำเนินการไปแล้วหรือที่ยังค้างอยู่ให้กับรัฐบาลใหม่รับทราบจะได้ไม่มีปัญหากัน เมื่อถามว่าตอนนี้นายกฯรู้สึกเหมือนมีนายกฯซ้อนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกๆๆๆ เมื่อถามว่ามองอย่างไรก็การที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินสายเสมือนเป็นนายกฯแล้วทั้งที่ยังไม่ได้รับการโหวตในสภา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ได้มองครับ ผมไม่ได้มองและไม่ได้ไปสร้างความขัดแย้งกับใคร ผมบอกแล้วไงเข้าใจไหม กติกาประชาธิปไตยอย่างไรก็ว่ากันไป”
เมื่อถามว่า เอ็มโอยูของพรรคร่วมรัฐบาลมียกเลิกเรื่องการเกณฑ์ทหาร มองอย่างไรในฐานะที่เป็นรมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ก็แล้วแต่ ทำได้ไม่ได้ก็แล้วแต่ท่าน ท่านได้เป็นก็ทำให้ได้ก็แล้วกันน้อ ก่อนเดินออกจากโพเดียม เมื่อถามอีกว่าเป็นห่วงสถานการณ์อะไรหรือไม่ในตอนนี้ และถามว่านายกฯยังสู้ใช่หรือไม่ และจะจับมือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สู้กับสถานการณ์ต่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด พร้อมเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที