“วิษณุ” ปัดชี้นำให้ความเห็นเลือกตั้งซ่อมใหม่ ปมหุ้น “พิธา” แจงตอบตามหลักกฎหมาย เหตุสื่อถาม-ไม่มีเจตนาเปรียบเทียบอดีต-เป็นคนละกรณี ย้ำ แนวคิด “รัฐบาลแห่งชาติ” ทำไม่ได้ ชี้การยกเว้นใช้รัฐธรรมนูญ เท่ากับยึดอำนาจ
เมื่อเวลา 10.20 น.วันที่ 2 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ให้ความเห็นหากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยประเด็นการถือหุ้นของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ขาดคุณสมบัติในการรับรองผู้สมัคร ส.ส. จะส่งผลให้เกิดการเลือกตั้งซ่อมใหม่ในพื้นที่ที่พรรคก้าวไกลได้ ส.ส. โดยยืนยันว่า เจตนารมณ์ที่สื่อสารในวันนั้น เป็นเพราะสื่อมวลชนถาม และเวลาไปออกข่าวก็ไม่ได้เสนอคำถาม เมื่อตนตอบไป มีผู้สื่อข่าวแย้งว่าเป็นไปได้หรือไม่ หากต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทั่วประเทศ ตนก็เลยตอบว่าเคยมี เท่านั้นเอง ไม่ได้ไปเปรียบเทียบและความเป็นจริงก็เปรียบเทียบไม่ได้ เพราะเป็นคนละกรณี พร้อมระบุว่า ตนได้อธิบายตามหลักของกฎหมาย แต่จากนี้คงจะไม่ให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าว เพราะจะไม่เกิดความเป็นธรรมกับพรรคก้าวไกล เนื่องจากพรรคก้าวไกลกำลังเดินไปในทางที่เขาควรจะทำอยู่แล้ว ดังนั้นอย่าไปทำให้กระบวนการของเขาสะดุด “ถ้าพูดมากกว่านี้ไปก็เหมือนกับตั้งใจให้เขาสะดุด เมื่อผมไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่ควรพูดอะไรอีก”
เมื่อถามว่า เป็นไปตามกฎหมายที่จะต้องเป็นอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ช่วยไปถามคนอื่นก็แล้วกัน
ผู้สื่อข่าวยังสอบถามกรณีแนวคิดของ นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่เสนอให้มีรัฐบาลแห่งชาติ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจว่าคำนี้มาจากไหน เพราะประเทศไทยไม่เคยมี แต่ต่างประเทศเคยมี
เมื่อถามต่อว่า เวลาบ้านเมืองเกิดปัญหาก็มักจะนึกถึงคำว่ารัฐบาลแห่งชาติ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดา เหมือนคนที่เจอเหตุจมน้ำ ไฟไหม้ เจออะไรก็ต้องคว้า คิดอะไรออกก็คิด จึงไม่แปลกที่จะคิดและเสนอความคิดแบบนี้ออกมา แต่หากสังคมไม่ยอมรับ ก็ควรจะหยุดคิด
เมื่อถามอีกว่า รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ทำหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามนายจเด็จ
เมื่อถามด้วยว่า สามารถที่จะยกเว้นการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ขั้นตอนจะต้องทำอย่างไร นายวิษณุ ตอบว่า “ทำไม่ได้ ยกเว้นไม่ได้ รัฐธรรมนูญมีกว่า 200 มาตรา คุณจะยกเว้นได้อย่างไร สมัยพระยามโนปกรณ์นิติธาดา อดีตนายกรัฐมนตรี เคยยกเว้น นั้นคือการยึดอำนาจ”
เมื่อถามย้ำว่า การมีรัฐบาลแห่งชาติ จะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน จึงจะเกิดขึ้นได้ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่ทราบ ให้ไปถามคนอื่น หากผมตอบ จะกลายเป็นไปรับลูก ส.ว.จเด็ด จะกลายเป็นคนนึงเป็นปี่ คนนึงเป็นขลุ่ย ผมไม่ควรจะตอบอะไร”
เมื่อถามว่า ส.ว.ควรจะโหวตตามเสียงข้างมากหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ตนขอไม่ตอบ เพราะท่านเป็น ส.ว. หรือ ส.ส. พรรคจะไปบังคับให้โหวตไม่ได้ ต้องมีอิสระ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าเรื่องอื่นต้องโหวตตามพรรค และมีเรื่องใดบ้างที่ต้องโหวตตามใจ ยกตัวอย่างปี 2562 มี ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่โหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ก็ไม่เป็นอะไร และใครก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ด้วย จะไล่ออกจากพรรค ต้องมีเรื่อง “ทุกท่านมีความรู้ มีหัวจิตหัวใจ ก็คิดกันเองแล้วกัน”