“พิธา” ประชุมร่วม 3 สมาคม อปท. ตั้งเป้า 100 วันแรก ยกเลิก-แก้ระเบียบ มท. 1 ปี ยุบส่วนภูมิภาค เปิดทางเลือกผู้ว่าฯ 4 ปี ถ่ายโอนงาน คน เงิน 2 แสนล้าน ให้ท้องถิ่น ได้ข้อสรุปเตรียมจัดเวิร์กชอปร่วมกัน
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, นายวรภพ วิริยะโรจน์ ทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล รวมทั้งว่าที่ ส.ส.และตัวแทนจากพรรคก้าวไกล ร่วมการประชุมเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะนโยบายด้านการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกล ร่วมกับสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้ง 3 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมสันนิบาตเทศบาล, สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัด และ สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล
โดยเนื้อหาของการพูดคุยหลักในวันนี้ เป็นการประมวลข้อเสนอจากทั้งสามสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ากับข้อเสนอต่างๆ ในนโยบายการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกล พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนกันในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของพิธา ระบุว่า วันนี้ ตนตั้งใจมารับฟังจากตัวแทน อปท. ทุกคนถึงอุปสรรคในการทำงาน และเป้าหมายที่เราจะทำร่วมกันในอนาคตเพื่อประชาชนได้ เมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
นายพิธา ระบุว่า นายก อปท.ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว ว่า อำนาจบริหารท้องถิ่นทุกวันนี้ถูกมัดมือมัดเท้าไว้ อำนาจบริหารทำไม่ได้ด้วยกฎหมาย การเงิน การขาดอำนาจต่อรอง และการตรวจสอบที่ไม่ได้มาจากประชาชน ทั้งหมดนี้นำไปสู่สภาพที่อำนาจการตัดสินใจงบประมาณ 84% อยู่กับส่วนกลาง เหลืออยู่ที่ท้องถิ่นแค่ 16% ซึ่งตนไม่เคยเห็นประเทศไหนที่เป็นแบบนี้ จะสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้เลย
ดังนั้น ตนเชื่อว่า เป้าหมายที่พวกเราต่างอยากเห็นร่วมกัน ก็คือการกระจายความเจริญ กระจายอำนาจ กระจายงบประมาณ กระจายบุคลากร และการกระจายภารกิจ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีแผนการทั้งในระยะ 100 วันแรก 1 ปีแรก และ 4 ปีแรกของรัฐบาล ที่พรรคก้าวไกลขอนำเสนอเพื่อขอรับฟังความคิดเห็นจากทุกคนในวันนี้ กล่าวคือ :
ภายใน 100 วันแรก ยกเลิกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นอุปสรรคต่อการกระจายอำนาจและการทำงานของท้องถิ่น รวมถึงคำสั่ง คสช. 8/2560 เพื่อคืนอำนาจการคัดเลือกบุคลากรให้ท้องถิ่น ให้ท้องถิ่นสามารถทำบริการสาธารณะได้ทั้งหมด ยกเว้นที่ห้ามทำ รวมทั้งการแก้ไข พ.ร.บ.แผนขั้นตอนการกระจายอำนาจ และแก้ไข พ.ร.บ.จัดตั้ง 5 ท้องถิ่น ให้ออกระเบียบการเบิกจ่ายเองได้
ภายใน 1 ปีแรก จัดทำประชามติให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารจังหวัด และยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค พร้อมกับการแก้ไข พ.ร.บ.ข้าราชการท้องถิ่นให้สอดคล้องกัน
และภายใน 4 ปีแรก บรรลุเป้าหมายการถ่ายโอนภารกิจ งบประมาณ และบุคลากร โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 2 แสนล้านบาทต่อปีภายใน 4 ปี
นายพิธา ยังระบุต่อไปว่า การกระจายอำนาจคือการระเบิดพลังทางเศรษฐกิจ 7 พันกว่าลูก พร้อมๆ กัน ผลการศึกษาเกี่ยวกับการกระจายอำนาจล้วนแต่บ่งชี้ไปในทางเดียวกันว่า ยิ่งมีการกระจายอำนาจมาก ก็ยิ่งทำให้จีดีพีโตมากขึ้น ยิ่งกระจายอำนาจมาก ความเหลื่อมล้ำแต่ละภูมิภาคก็ยิ่งลดลง และยิ่งกระจายอำนาจมากการทุจริตก็จะยิ่งลดลง
ดังนั้น ความเจริญทางเศรษฐกิจ การลดความเหลื่อมล้ำ และการลดการทุจริต คือ ความสำคัญของการกระจายอำนาจ ซึ่งไม่ใช่แค่สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น แต่รวมถึงประเทศที่กำลังพัฒนาด้วย ทั้งหมดเป็นสถิติที่มากพอ ที่บ่งชี้ไปในทางเดียวกันว่า การทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจ งบประมาณ และบุคลากรเพียงพอ จะนำไปสู่การระเบิดพลังทั้งทางเศรษฐกิจ การลดความเหลื่อมล้ำ และการลดการทุจริตไปได้พร้อมกัน
“ไม่มีอะไรท้าทายเกินความคาดหวังของประชาชน การกระจายอำนาจมีทั้งสิ่งที่ทำได้โดยรวดเร็ว มีทั้งสิ่งที่ทำได้อย่างรวดเร็วและต้องรอบคอบ และมีสิ่งที่ต้องอาศัยส่วนร่วมจากประชาชน มีเรื่องที่รัฐบาลทำได้เลย มีเรื่องที่ต้องทำประชามติ และบางเรื่องต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งหมดนี้ผมมั่นใจว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจและสบายใจร่วมกัน ว่าการกระบายอำนาจไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง แต่เป็นสิ่งที่จะนำความเจริญมาสู่พี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศไทย” นายพิธากล่าว
ทั้งนี้ หลังการประชุม ตัวแทนจากทั้งพรรคก้าวไกล และ 3 สมาคม อปท. ได้หารือกำหนดวันและแผนการจัดทำเวิร์กชอปร่วมกัน ระหว่างตัวแทน อปท. และพรรคก้าวไกล เพื่อประมวลข้อเสนอจากทั้งสองฝ่ายเข้ามาร่วมกัน โดยเฉพาะในการเพิ่มเติมข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขและยกเลิกระเบียบต่างๆ ของส่วนกลาง ให้ครอบคลุมทุกมิติของการเปลี่ยนผ่านสู่การกระจายอำนาจ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 15-16 มิ.ย. นี้